Print

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๑๐๑

{audio}audio/dm01_editor/dm01_101.mp3{/audio}

เปรี้ยวปาก อยากทำดี

dungtrin

คำว่า "เปรี้ยวปาก" มักตามมาด้วยคำว่า
"อยาก กินเหล้า" หรือไม่ก็ "อยากกินมะม่วง" อะไรทำนองนั้น

วันนี้ผมเอาคำ นี้มาโยงกับการมีแก่ใจอยากทำดี
เพราะเห็นว่าหลายคนเมื่อเริ่มเข้าสู่เขต สว่าง
ห่างจากอารมณ์มืด ก็นึกอยากทำดีขึ้นมาแรงๆ
เข้าขั้น "เปรี้ยวปาก อยากทำดี"
ประมาณว่าขอให้ได้ทำ
ขอให้รู้สึกซาบซ่านถึง ทรวงด้วยความดีเถอะ
ค่อยระงับอาการเปรี้ยวปากลงได้

อาการเปรี้ยว ปากอยากทำดีมักเกิดขึ้นกับใคร?
ส่วนใหญ่เท่าที่เห็น จะเป็นพวกที่หมกตัวกับโลกมืดมานาน
จิตใจแห้งแล้ง ห่อเหี่ยว หาความชุ่มชื่นไม่ได้
พอฟังเรื่องการทำบุญ ทำกุศล สร้างคุณงามความดี
แล้ว เกิดแรงบันดาลใจ เพราะแค่ฟังเฉยๆก็ชุ่มชื่นขึ้นบ้างแล้ว
มันจะดีกว่ากัน สักขนาดไหนหากได้ลงมือเอง

อีกพวกหนึ่ง คือพวกที่ทำบุญทำกุศลเป็นปกติ
จน กระทั่งจิตอิ่มตัวอยู่กับบุญอันสว่าง
ตอนทำก็รู้สึกเฉยๆชินๆ
แต่เมื่อ มีเหตุให้ห่างจากการบุญการกุศลระยะหนึ่ง
ก็เกิดอาการจิตตกอย่างแรง
คิด ถึงการทำบุญ คิดถึงการช่วยคน
รู้สึกคล้ายชีวิตขาดหายอะไรไปอย่างน่าถวิล หา
นำมาซึ่งอาการอยากกลับไปทำบุญ
ได้ทำแล้วชื่นใจหายคิดถึง
หรือ พลังชีวิตกลับเติมเต็มขึ้นมาใหม่ อย่างนี้เป็นต้น

สรุปคืออาการ เปรี้ยวปากอยากทำบุญนั้น
เป็นเรื่องดีงาม เป็นร่องรอยชี้ให้เห็นครับว่า
จิต ของเรายังดีๆอยู่ พร้อมจะไปดีอยู่
เพราะเมื่อไหร่เริ่ม "คะแนนตก"
จิต ก็บอกตัวเอง สั่งให้ตัวเองขวนขวายเพิ่มเติมได้

แต่ชาวโลกจำนวนมากทุก วันนี้น่าห่วงครับ
หลายคนไม่เกิดอาการเปรี้ยวปากอยากทำบุญเอาเลย
เพราะ วันๆรับแต่สิ่งกระทบที่ชวนให้คิดไม่ดี
ผมไม่แปลกใจนัก
ที่นับวันได้ รับคำบอกเล่าจากหลายต่อหลายคน
ว่าความคิดในหัวชักเลวร้ายขึ้นทุกที
ไม่ รู้ว่าเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่ หรือกระทั่งมาจากไหน

ยิ่งพวกชื่นชอบ อ่านเรื่องเลวร้าย เรื่องน่าจับผิดของคนอื่น
เขาจะดีหรือเลวอย่างไรไม่ รู้
รู้แน่ๆคือจิตใจของเราเลวร้ายลงทุกวัน
ในหัวเกิดแต่ปฏิกิริยาลูก โซ่ของอกุศลจิต
คิดเรื่องแย่ๆของคนอื่น จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้ทั้งวัน
แล้วก็เห็นเป็นเรื่องสนุก เห็นเป็นเรื่องสมควร
เพราะบาปอกุศลย่อมครอบงำจิต เหนี่ยวนำให้เกิดอุปาทาน
เห็นบาปอกุศลเป็นของดี ของน่าเอา ของน่าให้เกิดตลอดวัน

ตามสำนักข่าวสื่อมวลชนนี่คอลัมนิสต์ถึงกับพูด เลยนะครับ
ก็โลกเป็นอย่างนี้ จะให้คิดดีๆได้อย่างไร
อันนี้ผมก็ไม่ เข้าใจ ไม่รับรู้มุมมองตรงนั้น
วันๆมีคนพูดเรื่องดีๆให้ผมฟังตั้งเยอะ
เดี๋ยว ก็บอกว่าตัวเองดีขึ้น
เดี๋ยวก็บอกว่าพ่อแม่พี่น้องเปลี่ยนหน้าหมองเป็น หน้าใส
ไม่ค่อยมีใครมาเล่าเท่าไหร่ว่าใครด่าใครบ้าง
ใครเคยเลว ใครกำลังเลว ใครน่าจะเลวเร็วๆนี้
นานๆทีจะได้ยิน และเมื่อได้ยินผมก็มักจะฟังใจความสรุป
เพื่อให้รู้ว่าเราเกี่ยวอะไรด้วย หรือเปล่า
เมื่อไม่เกี่ยวก็ตัดใจออกจากเรื่องนั้นเสีย
เหมือนเอาตัว ออกห่างจากกลิ่นอุจจาระปัสสาวะ

สมัยก่อนผมก็สนใจเรื่องความเลวของคน อื่นเหมือนกันครับ
ฟังแล้วสนุกดี คุยกันแล้วเหมือนรู้ไส้รู้พุงชาวโลกดี
แต่ พอนึกได้ เอ๊ะ! ไอ้ที่เราสนุกกับความเลวของคนอื่น
มันทำให้เราฟุ้งซ่าน มัวมน เสียสมาธิ เสียความตั้งใจดีๆไปหมด
ก็นึกแหยงๆ และเริ่มเห็นวงนินทามีบรรยากาศไม่สร้างสรรค์
ไม่น่าเข้าไปร่วมวงขึ้นมาที ละน้อย
คือเป็นพัฒนาการนะครับ
ไม่ใช่กระโจนพรวดเดียวหลุดออกนอกวง ง่ายๆ
เพราะวงนินทานั้นเป็นหลุมดำประจำโลกมาชั่วกัปชั่วกัลป์
ไม่ค่อย มีใครหลุดรอดออกมาได้สักกี่คน

แล้วยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งเห็นว่าคน เราโดยมาก
ต้องใช้กรรมที่สนุกปากด่าคนอื่นเขาไว้อย่างไม่สมเหตุสมผล
ไป แอบดิสเครดิตใครเขาไว้
ในที่สุดพอถึงตาตัวเองก็ต้องโดนดิสเครดิตไม่ต่าง กัน
หรือหนักกว่าที่ทำไว้มากมายเหลือคณานับ

ตอนโดนเองนี่นะครับ บาปอกุศลก็ยังอุตส่าห์สั่งให้คิดกลบเกลื่อน
คิดแต่ว่าคนอื่นเขาเป็น ฝ่ายกระทำตนอย่างไม่สมเหตุสมผล
จำไม่ได้เอาเลยว่าตนก็เคยทำคนอื่นเขาไว้ แค่ไหน
ผมอยากบอกครับว่าพวกเราช่วยกันสร้างโลกแบบนี้ขึ้นมา
และจะไม่ อาจหลุดพ้นไปได้
ถ้าสักวันไม่เอะใจเฉลียวคิดถามตัวเองบ้าง
ว่าที่ทำๆ อยู่นี้ ถ้าผลของกรรมมีจริง
ต่อไปจะต้องโดนเองอย่างไรบ้าง

เพื่อ จะทราบว่าต้องโดนอย่างไร
ว่างๆตอนใจสงบๆเป็นกลางไม่เข้าข้างตัวเอง
ลอง ตั้งคำถามง่ายๆครับ
เรากำลังคิดด่า คิดให้ร้าย คิดทำให้คนอื่นเสียหายนั้น
เป็นไปเพื่ออะไร
เมื่อกล้าตอบตัวเอง ก็จะสมควรเป็นผู้ทราบล่วงหน้าครับว่า
ถึงตาตัวเอง ใครเขาจะทำกับเราไปเพื่ออะไร

ทุกคนโดนนินทาอย่างน่าเจ็บใจเหมือนกัน หมด
แล้วก็ไม่มีใครที่ไม่เคยทำอย่างนั้นกับคนอื่น

เท่าที่เห็น และมีคนมาเล่าอาการให้ฟัง คือ
เมื่อสุมหัวนินทาคนในออฟฟิศบ่อยๆ
จะ เกิดอาการอยากทำเรื่องไม่ดีขึ้นมา
แบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ ทั้งที่ไม่เคยอยากทำมาก่อน

อันนี้ก็อธิบายได้ตามหลักธรรมชาติของจิต ครับ
เมื่อคิดเรื่องไหนมากๆ ในที่สุดจะอยากพูด
เมื่อพูดเรื่องไหนมากๆ ในที่สุดจะอยากทำ

เหลือเชื่อครับ มีอยู่นะครับ
นินทาเพื่อนบางคน บ่อยๆ
เกิดนึกหมั่นไส้ อยากกลั่นแกล้งในหน้าที่การงาน
หรืออยากตบหน้า สักฉาดขึ้นมาเฉยๆ
ทั้งที่เขาก็ไม่เคยมาทำอะไรให้เลย

คนทั่วไปมัก นึกครับว่า
แค่คิดน่า... ไม่เป็นหรอก
หรือพอพูดๆก็นึกว่า
แค่พูด น่า... จะแค่ไหนกันเชียว

แท้จริงแล้ว มันเริ่มเกิดหลุมดำตั้งแต่คิดนั่นแหละครับ!

ทางที่ดี ต่อไปขอให้นึกว่า
เอาอีกแล้ว คิดอีกแล้ว
หรือ โอ๊ย! คิดไม่พอนี่หลุดเป็นคำพูดเชียวหรือ?

ฝึกปล่อยให้มันกลายเป็นความคิด ลอยลม ผ่านมาแล้วผ่านไป
ไม่ทรมานฝืนต่อต้าน แต่ก็ไม่ยอมเอออวยผสมโรง
สำรวจ ดูจะรู้ว่าเราสบายใจอยู่ได้เป็นปกติดี

ใส่แรงต้านเข้าไปบ้าง พอหลุมดำเจอแรงต้าน
นานๆไปจะได้ไม่เกิดอาการเปรี้ยวปากอยากทำชั่วไงครับ

ดัง ตฤณ
สิงหาคม ๕๓

--------------------------------------------------------------

เรื่องน่าสนใจประจำฉบับ


คอลัมน์ "ไดอารี่หมอดู" ฉบับนี้
"หมอพีร์" จะเปลี่ยนตัวเองเป็นหมอผิวหนัง
วิเคราะห์ปัญหาผิวพรรณจากกรรมให้ฟังกันค่ะ
ใครสนใจ เชิญตรวจเช็คสภาพผิวได้ในฉบับนะคะ

สำหรับใครที่คิดถึงคอลัมน์ "ของฝากจากหมอ"
ฉบับนี้จะได้ยิ้มออกกันแล้วล่ะค่ะ ^________^
และอาจยิ้มมากขึ้นเมื่อทราบว่าเจ้าของบทความนี้
เป็นคุณหมอใกล้ตัว นามสกุลคุ้นหู "พญ. ณัฐชญา ไมตรีเวช"
ในตอน "Knowledge is power" ค่ะ

คุณผู้อ่านมี่เพื่อนใช่ไหมคะ
"คุณ aston27" ก็มีเพื่อนค่ะ
คอลัมน์ "ธนาคารความสุข" ฉบับนี้
จะพาไปทำความรู้จักกับบรรดาผองเพื่อนของคุณ aston
ในตอน "เพื่อนแท้ของผมและ "เรา" (ตอนที่ ๑)" ค่ะ

ถ้าพูดถึงวรรณคดี อันดับต้นๆ ที่คุณผู้อ่านจะนึกถึงคงมี ‘รามเกียรติ์' อยู่ด้วยใช่ไหมคะ?
คอลัมน์ "ยารักษาใจ" ฉบับนี้
"คุณวิลาศินี" มีธรรมะจากรามเกียรติ์มาฝาก
ติดตามได้ ในตอน "มานะ...จุดเริ่มต้นของหายนะ" ค่ะ

--------------------------------------------------------------

ข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจ


  • ขอเชิญร่วมงานบำเพ็ญกุศลหลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท
    เนื่องในวันคล้ายวันมรณภาพปีที่ ๖ วันที่ ๒๑ - ๒๒ ส.ค. ๒๕๕๓

    ณ วัดป่าภูริทัตตปฎิปทาราม ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี

    กำหนดการ
    วันเสาร์ ที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๓
    เวลา ๑๙.๐๐ น. พระภิกษุสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เย็น ณ ภูริทัตตเจดีย์
    เวลา ๒๐.๐๐ น. แสดงพระธรรมเทศนาโดยครูบาอาจารย์, พร้อมปฏิบัติภาวนาตลอดทั้งคืน 

    วันอาทิตย์ที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๓
    เวลา ๐๗.๓๐ น. พระภิกษุสงฆ์ออกรับบิณฑบาต ณ บริเวณรอบภูริทัตตเจดีย์
    เวลา ๐๘.๓๐ น. ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์

    ติดต่อสอบถาม วัดป่าภูริทัตตปฎิปทาราม โทร. ๐๒ - ๕๙๓ - ๒๔๓๔ (-/\-)

  • ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญ สมทบทุนก่อสร้าง
    "อาคารรังสีรักษา หลวงปู่บุญเพ็ง กปฺปโก โรงพยาบาลขอนแก่น"
    เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
    โดยติดต่อบริจาคได้ที่ นพ.วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์
    ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น
    โทร. ๐๘๙ - ๗๑๒ - ๐๒๐๐ ค่ะ

--------------------------------------------------------------

พบกันใหม่พฤหัสหน้า
ที่ www.dlitemag.com นะคะ
สวัสดีค่ะ (^_^)