จากใจ บ.ก.ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๔๔๕
มีพรหมวิหาร ๔ เต็มรอบ
ถ้าชื่นชมยินดีกับคนอื่นเป็น
ใจก็เปิดรับสุขของคนอื่น
ขยายขอบเขตความสุขได้มากกว่าชีวิตของตัวเอง
แต่เมื่อริษยาคนอื่นอยู่
ใจจะปิดแคบเป็นทุกข์
เพิ่มแรงกดดันอันเป็นทุกข์ได้มากกว่าที่ตัวเองมีอยู่เดิม
ความสุข ความสำเร็จ ความเจริญรุ่งเรือง
เป็นพลังที่แผ่จากคนหนึ่งไปเป็นความรู้สึกของอีกคนได้
ช่วยขยายความสุขให้อีกคนได้
ราวกับสำเร็จหรือรุ่งเรืองด้วยตนเอง
มีข้อแม้อย่างเดียว คือ ต้องร่วมยินดีด้วยใจได้
โดยไม่จำเป็นต้องเป็นพวกพ้อง
หรือบุคคลสำคัญในชีวิตตน
ปัญหา คือ
ถ้าไม่เคยฝึกแผ่ใจเป็นเมตตาไม่เลือกหน้า
จิตมนุษย์จะเข้าโหมดริษยาก้าวสุดท้ายของคนอื่น
ด้วยความเกียจคร้านที่จะเริ่มก้าวแรกของตนเอง
เห็นคนอื่นเป็นอีกฝ่าย อีกพวก ที่ไม่มีผลประโยชน์ให้ตน
หรือกระทั่งฉกฉวยความสุขทางใจไปจากตน
คนเราสามารถเป็นสุขได้
มากกว่าที่ตัวเองมีด้วยพรหมวิหาร ๔
เมื่อเป็นสุขแล้วแผ่สุข
เหมือนมีขนมอร่อยแล้วมีแก่ใจแบ่งคนรอบข้าง
เรียกว่า รู้จักแผ่เมตตา
เมื่อเห็นคนอื่นทุกข์แล้วอยากช่วยแก้ทุกข์
เรียกว่า รู้จักเผื่อแผ่กรุณา
ด้วยใจที่มีเมตตากรุณาอยู่จริงๆ
เห็นใครได้ดีก็พลอยร่วมปรีดา
เรียกว่า มีมุทิตาไปกับเขา
แต่เมื่อส่งสุขแล้ว ช่วยเหลือแล้ว
ทว่าเขายังทำต้นเหตุแห่งทุกข์ให้ตนเองอยู่
หรือมีเงื่อนไขแห่งทุกข์ที่ไม่มีใครช่วยได้
ก็ต้องฝึกคิดให้ใจเป็นอุเบกขา ว่า
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
เมื่อฝึกได้ครบวงจร จึงเรียกว่าเป็นผู้มีพรหมวิหาร ๔ เต็มรอบ
ทั้งเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา
จะไม่เป็นทุกข์ทั้งด้วยเหตุแห่งความริษยา
และด้วยเหตุแห่งความสงสารจนทำใจไม่ได้เลย!
ดังตฤณ
ธันวาคม ๖๖