จากใจ บ.ก.ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๔๓๙
เปลี่ยนความรู้สึกตัวเอง
เมื่อพูดกับใครคนหนึ่งว่า
คุณไม่สามารถกลับไปรู้สึกแบบเดิมได้อีก
รู้ไหมหมายถึงอะไร?
ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น คือ
ขนาดของความรู้สึกชิงชัง
หรือขนาดของความรู้สึกแหนงหน่าย
มันใหญ่โตเกินความรู้สึกรัก
เบียดบังหรือบดบี้ความรู้สึกรักให้ตกไป
ราวกับจะไม่ให้กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อีก
หรือมีขนาดเท่าเดิมได้เลย
กับคนบางคน
ที่เคยเป็นก้อนความรู้สึกรักขนาดใหญ่
แค่มาปะทะกับก้อนความรู้สึกผิดหวังที่ใหญ่กว่า
หรือปะทะกับก้อนความรู้สึกผิดหวังเล็กๆที่บ่อยพอ
ถึงจุดหนึ่ง หรือนาทีหนึ่งที่ผิดหวังซ้ำอีกครั้ง
ก้อนความรู้สึกรัก
ก็เหมือนถูกกระแทกทำลาย หายวับไปกับตาทันที
ชนิดที่ถึงตายก็อาจไม่รู้สึกอะไรเลย
อย่างที่เรียกว่า ไม่ต้องมาเผาผีกัน
ถ้าอยู่ด้วยกันตามลำพังสองคนก็ไม่เป็นไร
พอถึงจุดนี้ก็หนีหน้า เลิกรากันไป
แสวงหาคนใหม่ กับความรู้สึกรักก้อนใหญ่กันอีกรอบ
แต่ถ้ามีเด็กหน้าใหม่เข้ามาแทรกกลาง
เป็นตัวแปรให้พะวงถึงล่ะ จะทำยังไง?
หากทั้งสองฝ่ายมีความรับผิดชอบต่อลูกด้วยกัน
ก็ต้องตั้งโจทย์ให้ถูก
โจทย์คือ ทำอย่างไรจะให้ก้อนความรู้สึกดีๆ
มันมีขึ้นมาอีก
หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ให้ได้
ก้าวแรกที่สำคัญที่สุด คือ ทำใจ
อาการปักใจเชื่อว่า ‘ไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิม’
เป็นเพียงก้อนความรู้สึกหนึ่ง
ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด
คุณแค่ชาด้าน หมดความรู้สึกเก่าๆ
และยึดมั่นถือมั่นว่าความรู้สึกนั้น
เป็นจริงเป็นจังที่สุด ไม่มีทางเป็นอื่นไปได้
ก้าวที่สอง คือ ทำตัว
บอกตนเองว่า ความรักลูก แคร์ลูก
อยากดูแลลูกร่วมกัน เพื่อให้ลูกมีชีวิตที่ครบ ไม่ขาด
ความรู้สึกดีๆที่มีให้ลูกน้อยนี้ ถ้าขนาดใหญ่พอ
ก็กดทับ หรือทำลายความรู้สึกชิงชังได้
ชนะก้อนความรู้สึกผิดหวัง
ไม่ได้อย่างใจในกันและกันได้
พูดง่ายๆ ยิ่งทำเพื่อลูกร่วมกันนานขึ้นเท่าไร
ใจก็จะกลับมารู้สึกดีต่อกันมากขึ้นเท่านั้น
ขนาดของความรู้สึก
เป็นสิ่งที่แปรปรวน กลับไปกลับมาได้
อย่ายึดความรู้สึกก้อนหนึ่งไว้เป็นเรือนตาย
อย่านึกว่าจะเปลี่ยนความรู้สึกไม่ได้อีก
และเมื่อประจักษ์ความจริงข้อนี้
ด้วยการสร้างเหตุปัจจัยขึ้นมา
เปลี่ยนความรู้สึกตัวเองได้จริง
เห็นภาพความจริงในชีวิตได้ชัดขึ้น
คุณจะมีปัญญาแบบพุทธเพิ่มด้วย!
ดังตฤณ
กันยายน ๖๖
