Print

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๔๒๔

dungtrin_editor_cover

dungtrin_new2

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ฝึกเจริญสติในรถ

   

editor424

 

ไม่มีใครอยากตายในรถ

ไม่มีใครอยากบาดเจ็บพิกลพิการในรถ

รวมทั้งไม่มีใครอยากเป็น ‘ฆาตกรถือพวงมาลัยรถ’

ต้องไปชดใช้ความผิดกันในคุกในตาราง

นี่เป็นเรื่องของอัตตาเรา

 

แต่อัตตาของรถซับซ้อนกว่านั้น

นอกจากจะไม่อยากให้ ‘ของแพง’ เกิดความเสียหาย

เรายังไม่อยากให้ ‘ของเร็ว’ ต้องหยุดหรือสะดุดอีกด้วย

อะไรก็ตามที่ขวางอัตตาของรถ

ให้ต้องหยุดหรือชะลอ จะถูกหมายหัวเป็นศัตรูทันที

 

การฝึกเจริญสติในรถควรเริ่มที่ตรงนี้

เมื่อคุณรู้สึกถึง ‘กายในท่านั่ง’

ก็จะทราบว่ากายทั้งหมดถูกรถห่อหุ้มไว้

การพุ่งไปข้างหน้าอย่างราบรื่น

ก่อให้เกิดความสบายตัวเป็นปกติ

แล้วก็สบายใจที่จะได้ไปถึงที่หมายตามคาด

นับเป็นสุข

ส่วนการหยุดฉับพลันกะทันหัน

ก่อให้เกิดความเกร็งตัวผิดปกติ

แล้วก็ไม่สบายใจถ้าจะต้องไปถึงที่หมายช้าลง

นับเป็นทุกข์

 

การเบรกในระยะกระชั้นชิด

ตกใจที่ต้องตกอยู่ในอันตราย

หรือเกร็งตัวแน่นจากการกระตุกของรถ

หรือหวาดเสียวกับเสียงเอี๊ยดลั่นถนน

ล้วนเป็นความทุกข์ทางกายทางใจ

ที่ก่อให้เกิดโทสะขั้นรุนแรงได้เฉียบพลัน

รวมกันจะได้ข้ออ้างที่ ‘สมควรลงโทษ’ คนผิด

สถานเบาคือโดนด่าพ่อล่อแม่

ถ้าไม่ออกมาทางปากเข้าหูเขา

ก็ก้องกังวานอยู่ในใจเราเป็นอย่างน้อย

 

ไม่ว่าโทสะแรงหรือเบาแค่ไหน

อย่างไรนักเจริญสติก็ ‘ต้องปล่อยให้เกิดขึ้น’

เพราะทุกข์และโทสะ

เป็นของเกิดพร้อมกับอาการผิดปกติของรถ

ห้ามไม่ได้ แกล้งสั่งคุมกำเนิดโทสะไม่ได้

 

สิ่งที่นักเจริญสติแตกต่างจากคนขับรถทั่วไป

คือการ ‘ไม่ปล่อยให้แรงขึ้น’

อาจเริ่มจากการระลึกถึงความจริงที่ว่า

โทสะไม่เคยช่วยให้สติดีขึ้น

ไม่เคยช่วยให้รับมือกับเรื่องร้ายได้ดีขึ้น

ไม่เคยช่วยให้โต้ตอบกับเสี้ยววินาทีเป็นตายได้ดีขึ้น

ตรงข้าม สถานการณ์ที่แย่อยู่แล้วแค่ไหน

โทสะจะยิ่งซ้ำเติมให้ยิ่งแย่ขึ้นไปอีก

ถ้าแย่ถึงขีดสุด รถก็อาจแปลงร่าง

จากพาหนะเป็นอาวุธร้ายได้ทันใจ

เหมือนอย่างที่ใครบางคนโมโหเดือดไฟแดง!

สติขาด ขับพุ่งชนคนบนถนนให้เห็นมาแล้ว

 

เมื่อเห็นต้นตอว่า โทสะในอกในใจเรานี่เอง

ที่ซ้ำเติมให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งแย่ลง

หรือสถานการณ์ยังไม่ทันเลวร้าย

ก็อาจกลายเป็น ‘มีเรื่องกันบนถนน’ ขึ้นมาได้

สติของคุณจะค่อยๆเจริญงอกงามขึ้นวันต่อวัน

ผ่านการฝึก ‘ไม่ปล่อยให้แรงขึ้น’ นี่แหละ

ต่อให้ต้องลงมาเจรจากับคนผิดที่ไม่มีวันยอมรับผิด

คุณก็จะไม่เตลิดไปกับโทสะ

แต่จะร้อนบ้าง เย็นบ้าง

ตามจังหวะสติที่เกิดขึ้นทันโทสะเป็นระยะๆได้

 

ดังตฤณ

มีนาคม ๖๖