Print

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๔๑๙

dungtrin_editor_cover

dungtrin_new2

 

 

 

 

 

 

 

 

ชาติแรกมาจากไหน

 

editor419

 

ถ้าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง

แล้วชาติแรกมาจากไหน?

 

จะเชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด

ต้องเชื่อเรื่องกรรมและผลแห่งกรรมเสียก่อน

แล้วจะเห็นเหตุเห็นผลได้ง่ายขึ้น

พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน

เห็นเหมือนพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ

นั่นคือ คนและสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นแดนเกิด

ไม่มีใครเกิดที่ไหน เป็นอะไร เพียงเพราะบังเอิญ

ไม่มีใครประสบทุกข์เพราะถูกกลั่นแกล้ง

ไม่มีใครประสบสุขเพราะเกิดการลำเอียง

ความจริงนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

และไม่มีใครไปแก้ไขได้

เหล่าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

เพียงรู้เห็นด้วยอภิญญาอันล่วงตาเนื้อของมนุษย์

แล้วนำมาบอก นำมาประกาศ

นำมาทำให้เป็นความรู้ที่บอกต่อง่ายเท่านั้น

 

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

เมื่อเข้าใจว่า

ก่อนเกิดต้องมีบุญหรือมีบาปเป็นตัวกำหนด

เป็นตัวคัดสรรว่าสมควรเข้าช่องเข้าชั้นไหน

เพื่อรับเวรรับกรรมที่ทำมา

ก็จะเข้าใจเป็นลำดับต่อไปว่า

ชาติแรกมีไม่ได้

 

เพราะถ้ามี

ก็ไม่รู้จะถูกจัดเข้าพวกไหน

สมควรเป็นสัตว์นรก เดรัจฉาน เปรต มนุษย์ หรือเทวดา

อยู่ๆจะเป็นจิตวิญญาณที่ผุดขึ้นกลางจักรวาลไม่ได้

พวกเราเข้ามาอยู่ในวงกลมที่ไร้จุดเริ่มต้น

 

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

 

พระพุทธเจ้าตรัสว่า

ถ้าจะหาจุดเริ่มต้น

อย่าหาจากตัวตนที่จับต้องได้เป็นรูปธรรม

แต่ให้ส่องด้วยปัญญาพิจารณา

ถึงสิ่งที่มาก่อนตัวตนเป็นชาติๆ

นั่นคือ ความไม่รู้ตัวว่าอยู่ในวังวน

ไม่รู้ว่าทำอะไรแล้วจะเกิดอะไรขึ้น

ไม่รู้ว่ากายใจนี้คือเหยื่อล่อให้งับ

หลงยึดหลงเชื่อกันว่าคือตัวเรา

คือเราคิด คือเราพูด คือเราทำ

เมื่อไม่รู้ ก็ได้ชื่อว่าถูก ‘อวิชชา’ บดบังความจริงอยู่

จึงคิด จึงพูด จึงทำ อย่างที่เกิดแรงดันจากข้างใน

โดยไม่ทราบว่าคิดพูดทำไปอย่างนั้นแล้วจะเกิดอะไรขึ้น

 

ไม่รู้ไม่ใช่ไม่ผิด แต่ถือเป็นความผิดที่ไม่รู้

ถ้าครั้งนี้สะสมบาปไว้มาก

ครั้งต่อไปก็เหมาะจะมีกายใจอันเป็นทุกข์

ถ้าครั้งนี้สะสมบุญไว้มาก

ครั้งต่อไปก็เหมาะจะมีกายใจอันเป็นสุข

เป็นกฎที่ไม่มีความสงสารหรือส่งเสริมใคร

แม้คำสาปแช่งให้ไปเกิดเป็นนั่นเป็นนี่ไม่มีผล

 

อย่างเช่นในอดีตชาติ

สมัยพระพุทธเจ้ายังเวียนว่ายอยู่

ท่านเคยถูกทรมาน ตัดมือตัดเท้า ก่อนทำให้ตายทรมาน

ราวจงใจแกล้งจับโยนลงนรกแห่งความอาฆาต

แต่จิตใจของท่านก่อนตายในครั้งนั้น

กลับสงบเยือกเย็น

และมีแก่ใจแผ่เมตตาให้แก่ผู้ทำทารุณท่าน

ท่านจึงเข้าถึงฌานอัปปมัญญา

ไปบังเกิดเป็นพระพรหมด้วยจิตอันอิ่มสุข

ไม่ใช่ไปเกิดเป็นอะไรอื่นด้วยกายอันทุกข์สาหัส

 

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

 

สรุปแล้ว ชาติแรก ‘มีไม่ได้’

เพราะถ้ามี ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นกันที่ความเป็นอะไร

และ ‘อะไร’ ที่กำลังเป็นอยู่นี่แหละ

บอกอยู่ว่าพวกเราทำบุญไว้มากพอ

ที่จะมามีจิตสำนึกรู้ผิดรู้ชอบแบบมนุษย์

มามีร่างกาย มีอายุแบบมนุษย์

อันเป็นโอกาสก่อบุญก่อบาป

กันตามใจชอบอีกเหมือนอย่างนี้

และภพชาติจะไม่สิ้นสุดเอง

ตราบเท่าที่อวิชชายังไม่ถูกทำลายลง

 

ชาติแรกไม่มี

มีแต่อวิชชาเป็นมูลตั้งต้น!

 

ดังตฤณ

ธันวาคม ๖๕