Print

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๔๑๕

dungtrin_editor_cover

dungtrin_new2

 

 

 

 

 

 

 

 

ทำบุญด้วยใจ

editor415

 

ทำบุญ ไม่เห็นได้ดี?

ทำบุญแค่ไหน

ถ้าไม่ได้ทำด้วยใจ

หรือมีใจไม่ต่อเนื่อง

ก็ได้ดีมีสุขยาก

ทั้งชาตินี้และชาติหน้า

 

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

 

ตอนเช้าๆ อากาศดีๆ

พอเห็นพระเดินผ่านหน้าบ้านอย่างสำรวม

แล้วคุณนึกอยากใส่บาตรขึ้นมาเอง

จากนั้นวันต่อมา

สนองความปรารถนาของตนเอง

ตื่นขึ้นมาทำกับข้าวกับมือ

แล้วออกไปดักรอใส่บาตรท่าน

พอสำเร็จก็เกิดความปลาบปลื้มโสมนัสอยู่นาน

อย่างนั้นเรียกว่าทำบุญด้วยใจ

ให้ผลเป็นสุขทันที

กับทั้งมีกรรมขาวก่อตัวสำเร็จ

มองไม่เห็นด้วยตา แต่รู้สึกได้ด้วยใจ

เป็นเงาตามตัวรอให้ผลในชาติถัดไป

อย่างน้อยจะได้เกิดมา

ทำบุญใส่บาตรกับพระในพุทธศาสนาอีก

และอาจได้เป็นมนุษย์ผู้มีดี

มีอายุ วรรณะ สุข และพลัง

อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งหมด

สมกับที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

ผู้ให้อายุย่อมได้อายุ ผู้ให้วรรณะย่อมได้วรรณะ

ผู้ให้สุขย่อมได้สุข ผู้ให้กำลังย่อมได้กำลัง

 

อย่างไรก็ตาม

แม้ทำบุญด้วยใจ

ถ้ามีใจวันเดียว ทำหนเดียว

บุญนั้นก็มีกำลังอ่อน

วัดจากใจ ที่สุขได้อย่างมากวันเดียวก็จาง

และเมื่อถึงคิวบุญได้ช่องเผล็ดผลในชาติหน้า

ก็อาจมาแบบรางวัลใหญ่หนเดียวแล้วเว้นวรรคยาว

เช่น ได้มรดกช่วยชีวิตขณะใกล้ตกอับ

ซื้อหวยแล้วรวยยกระดับชีวิตได้

หรือกำลังหิวแล้วชอบมีคนเอาของดีๆมาให้กิน

แต่ก็มาง่ายไปง่าย ไม่นานก็หมด ลำบากกันต่อ

 

สรุปคือ ถ้าไม่ทำบุญด้วยใจให้ต่อเนื่อง

ผลของบุญก็เดี๋ยวเดียว ทั้งชาตินี้และชาติหน้า

อย่าให้ต้องพูดถึงบุญที่ฝืนใจทำ หรือทำด้วยความโลภ

คิดค้ากำไรเกินควร ทำสังฆทาน ๔ ถัง

แต่หวังจะถูกหวย ๔ ล้าน

 

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

 

อีกอย่าง การใส่บาตรเป็นบุญใหญ่อย่างหนึ่ง

แต่ไม่ใช่บุญเดียวที่มีอยู่ในธรรมชาติ

 

แค่คิดถึงคนอื่นในทางดี

ร่วมปลื้มกับความสำเร็จในทางดีของเขา

ไม่ริษยาหาทางบ่อนทำลายเขา

เท่านี้ก็จัดเป็นบุญอันเกิดจากมโนกรรมอันเป็นกุศลแล้ว

 

แค่ยั้งปากไม่พูดโกหก ด้วยความตั้งใจงดเว้นไว้ก่อน

แล้วทำตามความตั้งใจได้ เกิดความโล่งอกโล่งใจได้

ภาคภูมิใจในความมีใจใหญ่เกินกิเลสของตนได้

เท่านี้ก็จัดเป็นบุญอันเกิดจากวจีกรรมอันเป็นกุศลแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม ชาวพุทธสมัยนี้มักจำสืบๆกันมาว่า

บุญมีหลายอย่าง ไม่ใช่ใส่บาตรอย่างเดียว

แต่ให้ถามจริงๆว่า บุญแบบไหนที่ตัวเองทำประจำ

ทำแล้วยังใจให้ชุ่มชื่นเป็นสุขได้อย่างต่อเนื่อง

หลายคนนึกไม่ออก บอกไม่ถูก

เพราะมักทำๆหยุดๆ ไม่โกหกวันนี้ ก็โกหกวันหน้า

มองแง่ดีเมื่อเขาเอาเงินมาให้

พอหายหน้าก็นินทาว่าร้าย

ขุดเรื่องน่าอายสมัยอนุบาลมาแฉ อย่างนี้เป็นต้น

 

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

 

ทางที่ดี คือ

เลือกที่จะทำบุญสักอย่าง หรือหลายๆอย่าง

ให้สม่ำเสมอ คงเส้นคงวาเป็นอาจิณ

อย่างที่ท่านเรียกว่า อาจิณณกรรม

จะได้บอกตัวเองถูกแบบจำได้ขึ้นใจว่าชาตินี้

บุญใหญ่ที่ทำด้วยใจอย่างต่อเนื่องของเราคืออะไร

ชาตินี้มีความสุขชนิดใดพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ

กับทั้งพยากรณ์ตัวเองถูกว่าถ้าชาติหน้ามีจริง

เราจะได้เสวยบุญแบบไหนไม่เสื่อมคลาย

 

ผู้มีอาจิณณกรรม ทำบุญด้วยใจต่อเนื่อง

ย่อมไม่เสวยบุญแบบผลุบๆโผล่ๆ

และไม่มีทางบ่นว่า ทำบุญไม่เห็นได้บุญตรงไหน

ไม่เห็นได้ดีกับใครสักทีเลย!

 

 

ดังตฤณ

ตุลาคม ๖๕