Print

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๔๐๒

dungtrin_editor_cover

dungtrin_new2

 

 

 

 

 

 

 

 

รักษาศีล 

 

editor402

 

การรักษาศีลได้แต่ละข้อนั่นแหละครับ

ความคืบหน้าในการปฏิบัติ

 

การเจริญสตินั้น

ถ้าศีลข้อใดข้อหนึ่งยังขาดพร่องอยู่เรื่อยๆ

สติก็ไม่มีทางสมบูรณ์ขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม แม้ศีลจะขาดพร่องไปบ้าง

ก็ยังสามารถเจริญสติ

รู้เห็นความจริงเกี่ยวกับกายใจได้

ไม่ใช่จะรู้อะไรไม่ได้เลย

คืบหน้าอะไรไม่ได้เลย

เพียงแต่ยากที่จิตจะรวมลงถึงมรรคถึงผล

ถ้าศีลไม่สะอาดบริบูรณ์

เพราะพระพุทธเจ้าท่านให้แนวไว้ว่า

จะถึงโสดาปัตติผล

ก็ต่อเมื่อมีศีลที่ไม่บกพร่องเป็นฐานครับ

 

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..  

 

ศีลข้อมุสาวาทยังด่างพร้อยหรือขาดทะลุ

เพราะจำเป็นต้องทำ ทั้งที่ไม่อยากทำ

 

เพื่อจะรู้ว่า มันหนักหนา

ขนาดเป็นคลื่นรบกวน

ป่วนจิตเกินกว่าจะตั้งเป็นสมาธิหรือไม่

ให้สำรวจดูตามเกณฑ์แบ่งคร่าวๆตามนี้

 

หนึ่ง ผิดเต็มๆ

คือ ไม่ละอายใจ ไม่เชื่อว่านั่นเป็นบาป

จะทำให้จิตดำ เพราะยึดกรรมดำไว้เต็มเหนี่ยว

อย่างนี้ให้นั่งสมาธิก็เห็นเป็นเรื่องตลก

ไม่มีศรัทธาเป็นฐาน

แถมอาจจะอยากลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้

ราวกับเล่นหัวเพื่อน

 

สอง ผิดกลางๆ

ละอายใจ ส่วนลึกรู้สึกไม่ดี แต่ก็ยังทำ

โดยไม่คิดว่าจะเลิกเมื่อใด

ไม่หาทางหลีกเลี่ยงการโกหก

ขณะเดียวกัน ในแต่ละครั้ง

ก็มีความลังเลอยู่ว่าจะโกหกหรือไม่โกหก

ทำให้จิตเทา เพราะไม่ยึดกรรมดำไว้เต็มที่

อย่างนี้ให้นั่งสมาธิจะได้แบบครึ่งๆกลางๆ

บางวันใส บางวันขุ่น บางวันฟุ้งจัด บางวันฟุ้งน้อย

 

สาม ผิดน้อยๆ

ฝืนใจทำ และตั้งใจตลอดเวลาว่าจะหาทางเลิก

ทำให้จิตหม่นไม่มาก

เพราะใจจริงไม่ยึดกรรมดำไว้เลย

อยู่คนละข้าง คนละฝั่งกับกรรมดำจริงๆ

ที่ฝืนทำก็เพราะมีเหตุเฉพาะหน้า

แบบนี้ยังนั่งสมาธิยังไหวอยู่

มีสิทธิ์รุ่งได้ไม่ยากนัก

เพราะความรู้สึกผิดอาจผลักดันให้อยากเอาดี

เป็นการชดเชย หรือซักฟอกความสกปรก

จากพฤติกรรมผิดบาปที่ต้องฝืนทำ!

 

ดังตฤณ
เมษายน ๖๕