Print

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๓๘๕

dungtrin_editor_cover

dungtrin_new2

 

 

 

 

 

 

 

 

 

พลังสว่าง 

        editor385

แก่นพุทธชี้ว่า

ไม่มีตัวใครอยู่จริง

มีแต่ก้อนทุกข์

ที่เกิดแล้วตายตามกาล

ตายแล้วเกิดตามกรรม

 

เมื่อยังไม่รู้แจ้ง

ยังมีอวิชชาปิดบังอยู่

ชีวิตหนึ่งๆก็จะมีการ

สะสมกองบุญกองบาป

การถึงเวลาสิ้นชีวิต

ก็คือการตัดสินน้ำหนักว่า

กองบุญหรือกองบาปเป็นผู้ชนะ

 

ผู้ชนะ

คือผู้ที่มีสิทธิ์บันดาลชีวิตใหม่ขึ้นมา

โดยเริ่มจากการเนรมิตวิญญาณดวงแรก

ขึ้นในภพใหม่ ภาวะใหม่ อัตภาพใหม่

เหมือนอย่างเช่นที่จะได้ภาวะแบบมนุษย์มา

ผู้ชนะต้องเป็นกองบุญเท่านั้น

 

เมื่อเทียบเคียงกับภาวะแบบสัตว์เดรัจฉาน

เปรต และสัตว์นรก

ซึ่งมีกองบาปเป็นผู้บันดาลให้เกิดแล้ว

ต้องนับว่าภาวะแบบมนุษย์ดีกว่าเป็นไหนๆ

แม้เหมือนชีวิตแย่เพียงใด

อย่างไรก็คิดอ่านได้ พัฒนาได้ เรียนรู้ได้

เพียรสร้างบุญใหม่ๆได้

 

อย่างไรก็ตาม

ระหว่างมีสภาพเป็นมนุษย์

ก็ต้องรับผลที่เคยก่อไว้และลืมไปแล้วตามคิว

เนื่องจากกองบาปอันมืดมนหม่นหมอง

ไม่ได้หายไปไหน

มีแต่จ้องให้ผลตามคิวอยู่ทุกขณะจิต

นอกเหนือจากกองบุญและกองบาป

โลกนี้ยังมีพลังสว่างและพลังมืดชนิดอื่นๆอีกมาก

มีผู้ค้นพบ และสร้างเป็นศาสตร์ขึ้นมาหลายแขนง

โดยมีจุดมุ่งหมายคล้ายกัน

คือไขรหัส ปลดล็อก เรียกพลังสว่าง

เอามาจุดชนวนความรุ่งเรืองในชีวิตให้เกิดขึ้น

หรือเพื่อเอาตัวคนคนหนึ่ง

ที่อยู่ในช่วงวิบากมืดให้ผล

ออกจากหลุมดำมาลืมตาอ้าปากได้บ้าง

 

อะไรที่ทำให้ชีวิตเจริญขึ้นได้

ต้องอยู่ข้างสว่างเท่านั้น

ไม่ว่าจะเป็นพลังจากเลข

จากฮวงจุ้ย จากโหงวเฮ้ง

หรือจากการประกอบร่างเคล็ดลางใดๆ

 

อย่างไรก็ตาม

แม้เมื่อพลังความสว่างเหล่านั้น

ถูกจุดชนวนขึ้นได้จริง

เราๆท่านๆที่เป็นมนุษย์ธรรมดา

ก็ไม่อาจรู้เห็นด้วยตาเปล่า

ไม่แม้กระทั่งสัมผัสด้วยใจ

อีกทั้งผลลัพธ์ก็ได้ผลมากบ้าง น้อยบ้าง

หรือไม่ได้ผลเลย

ซึ่งมีเหตุปัจจัยพิสดารล้านแปด

จึงเป็นที่ถกเถียงมาตลอดกาลนานว่า

เคล็ดลางทั้งหลายเป็นเรื่องจริง

หรือเรื่องหลอกกันแน่

ผู้ที่เห็นผล ก็บอกว่าเป็นเรื่องจริง

ผู้ที่ไม่เห็นผล ก็บอกว่าเป็นเรื่องหลอก

 

หากเรารู้ทาง

สร้างพลังสว่างขึ้นจากกรรม

ก็จะสว่างอย่างรู้ประจักษ์ใจ

เช่น ให้ทานเป็นประจำ

แม้ถูกบีบให้ตระหนี่

จนรู้สึกว่าชีวิตสว่างขึ้นจากทาน

รักษาศีลได้แน่วแน่

แม้โดนยั่วยุให้ทำบาป

จนรู้สึกว่าชีวิตสว่างขึ้นจากศีล

เข้าสมาธิเบิกบานได้

แม้อยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย

จนรู้สึกว่าชีวิตสว่างขึ้นจากสมาธิ

เจริญสติเจริญปัญญาได้

แม้กำลังเป็นทุกข์สาหัส

จนรู้สึกว่าชีวิตสว่างขึ้นจากสติปัญญา

 

พลังความสว่างจากจิต จากกรรม

จึงเป็นพลังสว่าง

อย่างที่รู้ได้ด้วยตนเองว่า

เกิดขึ้นแล้วยกระดับชีวิตได้จริง!

 

(หมายเหตุ - ช่วงนี้เป็นช่วงของความลำบาก

ทุกคนหาวิธีเอาความสว่างเข้ามาสู่ชีวิตกันทั้งนั้น

ผมไม่ได้ปฏิเสธเคล็ดลางเพิ่มความสว่างทั้งหลาย

รู้ว่าศาสตร์เหล่านั้นมีจริง

แต่สิ่งที่อยากบอก คือ ไม่ควรลืม

หรือควรเรียนรู้กันใหม่จากของจริงว่า

ทาน ศีล ภาวนา คือความสว่างแบบพุทธ

ที่มีพลังอยู่จริงเหนือพลังทั้งหลาย

และประจักษ์ได้ด้วยใจตนนะครับ)

 

 

ดังตฤณ

กันยายน ๖๔