Print

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๓๖๑

dungtrin_editor_cover

dungtrin_new2

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ฝึกสติกับจุดสูงสุดทางอารมณ์

   editor361

 

ใบหน้านองน้ำตา

คือทางมาของหายนะ

เริ่มจากหายนะทางอารมณ์ 

แล้วขยายผล

เป็นหายนะไปถึงตึกรามบ้านช่อง

บางคนไม่ได้ร้องไห้โฮๆ

แต่เก็บกดไว้ ไม่แสดงออก

แอบร้องอยู่ข้างในแรมเดือนแรมปี

ซึ่งท่านั้น เหมือนสะสมดินระเบิดไว้

รุนแรงเสียยิ่งกว่าพวกปล่อยโฮๆเสียอีก

 

แต่ขอบตาที่เอ่อน้ำ

ก็อาจบันดาลจากปีติที่เอ่อล้น

จากอารมณ์สุขท้นอก

แล้วขยายผล

ป็นนานาผลงานวิจิตรทางศาสนา

 

บางคนไม่ได้หลั่งน้ำตาเป็นสาย

แต่น้ำพุแห่งศรัทธาผุดพรายหลายวัน

เหมือนร้องไห้ในอีกรูปแบบหนึ่ง

ที่ก่อจินตนาการ หรือแรงปรารถนา

ไปในทางบุญมหาศาล

 


น้ำตาและเสียงร้องไห้

จึงเป็นสัญลักษณ์บอกการเหวี่ยง

ไปถึงจุดสูงสุดทางอารมณ์

ซึ่งในทางโลก

หากดีก็เป็นยอดบุญ

หากร้ายก็เป็นเหวบาป

เพราะกับความรู้สึกอยากร้องไห้

คนเราทำอะไรก็ได้

ออกกว้างเท่ามหาสมุทรก็ได้

เพราะไม่อยากเก็บแรงระเบิดทางอารมณ์ไว้

ในช่องอกอันคับแคบของมนุษย์


เมื่อพิจารณาเช่นนี้

ถ้าร้องไห้แล้วมีสติคุมสถานการณ์ทางอารมณ์ได้

คุณก็คุมได้ทุกสถานการณ์ในชีวิต

รวมทั้งคุมประตูสวรรค์นรกได้ดังใจด้วย

 

ผู้ที่ฝึกเจริญสติ

มักหนีนรกพ้นก็เพราะอย่างนี้

โปรแกรมตัวเองไว้ล่วงหน้าว่า

ถึงจุดสูงสุดของอารมณ์สวิง

จะยังไม่ทำอะไร

รอให้ตกกลับมาที่อุเบกขาเสียก่อน

อุเบกขาแล้วค่อยคิดตัดสินใจกระทำการ

ก็จะเป็นผู้ครองสติอย่างสมบูรณ์

แค้นแรงแล้วไม่ทำร้ายร่างกายใคร

ปีติในบุญแล้วไม่จ่ายหมดตัว

 

เมื่อฝึกสติเอากับจุดสูงสุดทางอารมณ์ได้

ก็จะไม่มีอารมณ์ดีร้ายชนิดใด

ส่งแรงกระทำให้คุณขาดสติได้อีกเลย!

 

ดังตฤณ

ตุลาคม ๖๓