Print

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๓๕๑

dungtrin_editor_cover

dungtrin_new2

 

 

 

 

 

 

 

 

ตัวตนใหม่ในฝัน

  editor351

โทสะ

เป็นมูลความร้อนในจิต

ใครก็ตามที่ใช้ชีวิต

แบบสะสมความร้อนในจิตเพิ่มทุกวัน

ในที่สุดย่อมเกิดความรุนแรงขึ้นในจิต

พร้อมทะเลาะทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทะเลาะ

พร้อมหาเรื่องทั้งที่ไม่จำเป็นต้องมีเรื่อง



เมื่อหันมาเจริญสติปฏิบัติธรรม

มุ่งหมายที่จะสงบจิตสงบใจ

มีสติตื่นรู้ หายทุกข์หายโศกเสียที

คุณจะพบว่าจิตตัวเองเหยียบเรือสองแคม

เหมือนอยู่ในสองโลก

คือ อยากอยู่ในโลกแห่งความเย็น

แต่ขณะเดียวกัน

ก็ยังผูกยึดอยู่กับโลกของความร้อน

ถอนตัวออกมาไม่ได้ทันที



ในยามตื่น

ภาวะครึ่งผีครึ่งคน

จะปรากฏในรูปของความขัดแย้งทางใจ

รักสงบ แต่ก็พร้อมจะหงุดหงิดตัวเองง่าย

โมโหคนอื่นง่าย

และระดับความรุนแรงในจิต

จะรายงานตัวให้เห็นเป็นภาพได้ง่ายที่สุด

ก็ผ่านสภาวะของจิตขณะหลับฝัน

สร้างตัวละครขึ้นมาทะเลาะกับตัวเองให้ดู

ให้รู้ว่าโทสะยังไม่หายไปไหน

ยังเป็นเงาติดตามไล่ล่าได้ตลอด



เพื่อจะเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากมัน

ให้ดูตอนลืมตาตื่นจากฝันใหม่ๆ

จะมี ๓ ภาวะที่เกิดขึ้นได้

หนึ่ง คือ เฉยๆ

อันนั้นแปลว่าจิตงง ไม่พร้อมเรียนรู้อะไร

สอง คือ หงุดหงิดอยากทะเลาะต่อ

อันนั้นแปลว่าจิตติด ยังยึดกับโทสะเหนียวแน่น

สาม คือ เสียใจ รู้สึกผิด

อันนั้นแปลว่าจิตอยากถอน ไม่อยากเอากับโทสะแล้ว



ถ้ารู้ตัวเองว่าเป็นพวกที่สาม

ก็แปลว่าจิตเดินมาถูกทางสละกิเลส

ให้หัดแผ่เมตตาเพิ่ม ฝึกมีสติเพิ่ม

ค่อยๆยอมรับตามจริงไปในระหว่างวันว่า

เกิดโทสะขึ้นที่ลมหายใจไหน

รู้ว่าโทสะจางตัวลงที่ลมหายใจใด

อย่าเร่งร้อน อย่าคาดหวังว่า

จะปลิดโทสะจากจิตทิ้งได้ในเร็ววัน

เพราะนั่นจะกลายเป็นความเร่งร้อน

อึดอัดตัวเอง เกลียดตัวเอง

เพิ่มโทสะขึ้นมาอีกส่วนโดยไม่รู้ตัว



ความยากเย็นสำหรับบางคน

คือ ลักษณะงานที่ทำ

อาจจำเป็นต้องเร่งความรุนแรงในจิต

เช่นประเภทปลุกเร้ามวลชน

หรือประเภทที่

ต้องเร่งงานให้เสร็จทันเวลาเป็นประจำ

แบบนี้ควรมีนโยบายทางจิต

คิดล้างความสกปรก

คิดสยบความรุนแรง

ด้วยการสวดมนต์

ทำสมาธิแผ่เมตตาก่อนนอนทุกคืน

และไม่ใช่เป็นสมาธิแบบเหยียบโทสะให้จมดิน

แต่เป็นสมาธิแบบยอมอยู่กับโทสะ

อย่างรู้และยอมรับว่า

ลมหายใจนี้ใจขุ่น ลมหายใจนี้ใจใส

ลมหายใจนี้ใจร้อน ลมหายใจนี้ใจเย็น



เมื่อทั้งลืมตาและหลับตา

สามารถเห็นความไม่เที่ยงในจิตไปเรื่อยๆ

ในที่สุดจะเกิดความตื่นรู้

สว่างโพลงไร้โทสะได้เรื่อยๆ

แล้วจะพบว่า การฟาดฟันกับคนอื่นในความฝัน

ทุเลาเบาบางลง

หรือกระทั่งเกิดสติรู้ตัวในฝัน

รู้สึกขึ้นมาว่า ฉันไม่เอาด้วยแล้ว

เห็นตัวเองในฝันให้อภัย เลิกแล้วต่อกัน

แล้วมีตัวตนใหม่ในฝันที่สงบเย็นได้

ตื่นขึ้นมาก็ยังเป็นตัวตนนั้นอยู่

นั่นแหละ! จุดสรุปของผู้เจริญสติ

ที่ไปถึงจุดของความเอือมระอาความรุนแรงทางจิต!

 

ดังตฤณ

พฤษภาคม ๖๓