Print

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๓๔๓

dungtrin_editor_cover

dungtrin_new2

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เลือกแดนเกิดใหม่ในชีวิตหน้า 

 

editor343

 

เมื่อพูดถึงพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด

ถ้าไม่อยากเชื่อว่าความบังเอิญเป็นผู้เข้ารหัส DNA

ถ้าไม่อยากเชื่อว่าเป็นความอยุติธรรมของฟ้าดิน

เราก็เหลือทางเลือกเดียว

คือ เชื่อว่าเป็นกรรมเก่าของตนเอง

 

พระพุทธเจ้าตรัสว่า

เรามีกรรมเป็นของตน

เราเป็นทายาทแห่งกรรม

เรามีกรรมเป็นกำเนิด

เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์

เรามีกรรมเป็นที่พึ่ง

ที่ทำกรรมดีไว้ก็ตาม

ที่ทำกรรมชั่วไว้ก็ตาม

เราจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้นๆ

(อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต)

 

ใจความสำคัญ

ซึ่งเป็นคำตอบเบ็ดเสร็จจากพุทธพจน์นี้

คือ เรานั่นแหละ เป็นลูกหลานของสิ่งที่เราทำไว้

สิ่งที่เราทำไว้นั่นแหละ

จะเป็นต้นกำเนิด จะเป็นต้นตระกูลต่อไปของเรา

จะคัดเลือกคู่ชายหญิงที่เหมาะมาเป็นพ่อแม่ของเรา

 

เกณฑ์คัดเลือกพ่อแม่

ที่วิบากกรรมคัดสรรให้

ได้แก่ ผลของกรรมที่ต้องได้รับแน่ๆ

ในช่วงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

ในช่วงยังไม่มีทางต่อสู้ขัดขืน

คือ ยังเป็นทารกตัวน้อย

ที่ต้องการการฟูมฟักจากผู้อื่นอยู่

 

พูดง่ายๆว่าภาวะในช่วงทารกเป็นอย่างไร

สะท้อนสิ่งที่ทำไว้กับคนอื่นเด่นชัดที่สุด

สมควรได้รับผลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่สุด

เช่น ดูว่าถ้าถูกพ่อแม่ฆ่า

จะด้วยการทำแท้ง

หรือด้วยการทิ้งถังขยะหลังคลอด

ก็แปลว่า กรรมที่เคยทำไว้

สมควรได้รับผลเป็นการมีแดนเกิดเป็นแดนประหาร

แม้มีบุญบางอย่างเพียงพอที่จะส่งมา

ถือกำเนิดในภพภูมิมนุษย์

แต่ก็มีบาปตัดรอนจากความเป็นมนุษย์ในทันที

บาปดังกล่าวได้แก่ การเคยฆ่าลูกตัวเอง

หรือเคยฆ่าลูกน้อยของสิ่งมีชีวิตอื่นไว้

แบบไม่ปรานีปราศรัย ด้วยจิตใจเหี้ยมโหด

 

หรือดูว่า ถ้าได้พ่อแม่ ถ้าได้ผู้ปกครอง

ที่มีจิตใจวิปริต แทนที่จะเห็นร่างกายผู้เยาว์เปราะบาง

ควรแก่การทะนุถนอมปกป้อง

กลับกลายเป็นเกิดจิตมืด หมั่นไส้ ชิงชัง

นึกคึกอยากลงไม้ลงมือชก

ออกหมัดออกเท้าเตะ

ให้เกิดความเจ็บปวดทรมานไปแทน

ก็แปลว่า เคยเป็นพ่อแม่ที่ไม่เต็มใจให้ลูกเกิดมา

เลี้ยงลูกไม่ดี ทุบตีทารุณลูก

หรืออาจเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ความโหดเหี้ยม

ทรมานผู้คนแบบถึงเลือดถึงเนื้อเอาไว้

 

ส่วนการโตมาแล้วไม่ได้รับความเมตตาจากผู้หลักผู้ใหญ่

เจอแต่ผู้ใหญ่เลวๆที่คอยกลั่นแกล้ง เตะสกัดดาวรุ่ง

ดุด่ากระโชกโฮกฮากไม่สมเหตุสมผล

ก็เกิดจากการไม่ปรานีคนอื่นไว้ในแบบเดียวกัน

ไม่มีคำว่าฟลุก ไม่มีแม้แต่จังหวะชีวิตที่ผิด

บางคนเจอแต่เจ้านายหน้ายักษ์ไปทุกที่

หนีเสือจากงานหนึ่ง

ก็ไปปะจระเข้ในงานใหม่อยู่ดี

ต่างจากบางคน ที่ถูกเหวี่ยงไปตรงไหน

ก็เจอแต่เจ้านายดีๆได้ตลอด

 

พวกเราใจร้ายกับตัวเองโดยไม่รู้ตัว

มีตัวตนในอดีตที่ลืมแล้ว

เป็นผู้สร้างตัวตนในปัจจุบัน

บางคนเจ็บปวดรวดร้าว

จนถูกบีบให้สังหารพ่อแม่ตัวเอง

ก็กลายเป็นผิดกติกาเกมกรรมขั้นร้ายแรงสูงสุด

ข้อที่เรียกว่า อนันตริยกรรม

ซึ่งหมายถึงเป็นผู้ขุดรากตัวเอง

ไม่มีทางเจริญงอกงามในชาติถัดไป

หลังตายเที่ยงที่จะลงไปสู่อบายสถานเดียว

 

เมื่อพิจารณาถึงโทษของบาปกรรม

ที่ทำต่อผู้น้อยแล้ว

ชาวพุทธที่ฉลาดย่อมเลือกปฏิบัติต่อผู้น้อย

ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานหรือลูกน้อง

ด้วยความคิดว่า

อยากได้แดนเกิดใหม่ในชีวิตหน้าอย่างไร

ในชีวิตนี้ ก็ขอให้ปฏิบัติกับลูกหลาน

และลูกน้องอย่างนั้นเถิด!

 

ดังตฤณ

ธันวาคม ๖๒