พุทธิปัญญา
พุทธิปัญญามี ๓ ระดับ
๑) เข้าหัว จากการสดับตรับฟัง
๒) เข้าใจ จากการจินตนาการผสมความจริง
๓) เข้าถึง จากการรู้สภาวะตรงหน้า
การคิดว่าไม่มีอะไรเป็นของเรา
หรือแม้แต่การระลึกว่า
ตอนกลางวันอมทุกข์อยู่
ตอนกลางคืนคายทุกข์บ้างแล้ว
ไม่เห็นมีสาระแก่นสาร ไม่มีอะไรน่าฟูมฟาย
จัดอยู่ในระดับ ‘เข้าใจ’
กล่าวคือ มีภาวะปัจจุบันบางอย่างเป็นตัวตั้ง เช่น จิตดีๆ
และมีภาวะอดีตบางอย่างเป็นตัวเทียบ เช่น จิตเสียๆ
เสร็จแล้วเกิดการประมวล ‘สรุปเอาด้วยเหตุผล’ ว่า
ที่ผ่านมาแล้วก็แล้วไป ไม่ใช่ตอนนี้
เสร็จแล้วก็ผลิตคำสอนตัวเอง หรือปลอบตัวเอง
ทำให้ ‘รู้สึกถึงความจริง’ ได้บ้าง
หากมองว่าเรากำลังทำศึกกับกิเลส
การเข้าใจจน ‘รู้สึกถึงความจริง’ ได้บ้างนี้
อยู่ในระดับทำให้กิเลสล้มเข่าถลอกนิดหนึ่ง
ยังไม่หัวร้างข้างแตก ยังไม่เลือดตกยางออกจริงจังนัก
อย่างไรก็ตาม
การ ‘เข้าใจธรรม’ เป็นสิ่งสำคัญ
ที่จะพัฒนาต่อเป็นความ ‘เข้าถึงความจริง’
หากเข้าใจธรรมได้บ่อยพอจะกระตุ้นให้เกิดสติ
รู้ความจริงเกี่ยวกับกายใจเดี๋ยวนี้เลยได้หลายครั้ง
ในที่สุดจะเกิด ‘สติรู้อย่างเดียว’
เช่น เห็นว่าภาวะเสียๆ อารมณ์แย่ๆ
เกิดขึ้นที่ลมหายใจไหน
เห็นว่าภาวะดีๆ อารมณ์ดีๆ
มาแทนที่ ณ ลมหายใจใด
รู้อย่างเงียบ รู้อย่างไม่คิด
รู้อย่างที่จิตจะตื่นขึ้นเป็นปกติได้นานขึ้นเรื่อยๆ
นั่นแหละการก้าวข้ามจาก ‘เข้าใจ’ เป็น ’เข้าถึง’
ซึ่งเมื่อเข้าถึงความจริงได้บ่อยพอ
ก็ต่อยอดเป็นการบรรลุแจ้ง
รู้จักธรรมอันเกินขอบเขตกายใจออกไป
นั่นคือ ‘เห็นนิพพาน’ ในที่สุด!
ดังตฤณ
มีนาคม ๖๑