Print

จากใจ บก.ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๒๘๓

dungtrin_editor_cover

dungtrin_new2

 

 

 

 

 

 

 

การเตรียมตัวตายที่ดีที่สุด



editor283

 

ความรู้สึกว่า
ยังมีเวลาในชีวิตเหลือเฟือ
ทุกคนจะใช้ชีวิต
แบบไม่คิดนับถอยหลัง
อารมณ์จะเรื่อยเปื่อย
ออกแนวตามใจตัวเอง
อยากทำอะไรก็ทำ
หายใจแบบไม่เห็นค่า

แต่ถ้าให้คนคนหนึ่ง
รู้ชัดๆว่าเหลือเวลา ๒๐ ปีบนโลก
เขาจะเร่ิมนับถอยหลังเป็นพักๆ
ยิ่งถ้าเป็นคนมีความคิด
ก็จะคิดวางแผนว่า
สามารถบรรลุเป้าหมายใดใน ๕ ปี
สร้างอะไรที่อยากทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์ได้ใน ๑๐ ปี
หรือจะใช้เวลา ๕ ปีสุดท้ายเพื่อเอาอะไรให้ตัวเองดี

ถ้าให้คนคนหนึ่ง
รู้ชัดๆว่าเหลือเวลาแค่ ๑ ปีบนโลก
เขาจะนับถอยหลังทุกวัน
อาจจะวันละหลายรอบ
และถ้าเป็นคนคิดเป็น
ก็จะไม่เอาแต่คร่ำครวญเสียดายชีวิต
ไม่เอาแต่อาลัยรักคนข้างหลัง
แต่จะเดินหน้าทำสิ่งที่คิดว่าทำได้แน่ๆภายใน ๑ ปี
ไม่ว่าจะเพื่อตัวเองหรือบุคคลอันเป็นที่รัก

ถ้าให้คนคนหนึ่ง
รู้ชัดๆว่าเหลือเวลาเพียง ๑ วันบนโลก
หากเขาไม่สติแตก
ไม่เอาแต่ร่ำร้องโวยวาย
มีสติพอจะ ‘รู้สึก’ ถึงความเป็นชีวิต
เขาอาจไม่นับถอยหลัง
แต่ใช้เวลาที่เหลือ
ทบทวนว่าเกิดอะไรกับชีวิตบ้าง
หรือชีวิตเขาทำอะไรให้เกิดขึ้นกับโลกนี้บ้าง

ทั้งหมดที่กล่าวมา
อาจต่างไปอย่างสิ้นเชิง
ถ้าให้ ‘คนปฏิบัติธรรม’ คนหนึ่ง
ที่ปฏิบัติธรรมจริง
มีสติรู้เข้ามาในกายใจตัวเองจริงๆ
เห็นว่ากายใจไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ
เมื่อรู้ชัดๆว่าเหลือเวลาบนโลกเท่าไร
เขาอาจจัดการเรื่องข้างนอกเหมือนคนอื่น
เตรียมอะไรดีๆไว้ให้บุคคลอันเป็นที่รัก
สร้างอะไรดีๆทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์บนโลก
แต่สำหรับการจัดการเรื่องข้างใน
ไม่มีอะไรต่างกัน
จะเหลือเวลา ๒๐ ปี หรือเหลือแค่นาทีเดียว
ก็รู้เหมือนเดิม
คือ รู้เข้ามาในกายใจไปเรื่อยๆ
ยิ่งรู้ยิ่งแจ่มแจ้งกระจ่างชัดว่า
นี่แหละ! สิ่งที่ควรรู้ที่สุดแล้ว
นี่แหละ! คือสิ่งสุดท้ายที่จิตสมควรรู้
การรู้เข้ามาในกายใจ
คือการเตรียมตัวตายที่ดีที่สุด

จะมีบางคนที่อ่านบทความนี้
เหลือวันนี้เป็นวันสุดท้าย
เขาอาจรู้ตัวตั้งแต่ก่อนอ่าน
หรือจนอ่านจบก็อาจจะยังไม่รู้ตัวเอาเสียเลย!

ดังตฤณ
สิงหาคม ๖๐