Print

จากใจ บก.ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๒๘๒

dungtrin_editor_cover

dungtrin_new2

 

 

 

 

 

 

 

สีของเสื้อผ้ากับความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม



editor282

 

เสื้อผ้าที่คนเราสวมใส่
ทำให้เกิดออร่าต่างกัน
เห็นชัดจากสายตาคนอื่น
และรู้สึกได้ด้วยอารมณ์ที่ต่างไปของตนเอง
อย่างเช่นที่เมื่อคุณอยู่ในเครื่องแบบเต็มยศ
ก็จะรู้สึกถึงหน้าที่ ภารกิจที่มากับยูนิฟอร์มนั้นๆ
หากประดับยศตำแหน่งสูงส่ง
ก็รู้สึกถึงอำนาจเหนือกว่าคนล่างๆลงมา
เกิดอัตตาเป็นภูเขาเลากาเคลื่อนที่ได้
ต่างจากตอนใส่เสื้อยืดกางเกงสั้นอยู่กับบ้าน
ที่รู้สึกว่าเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง
ไม่ได้เป็นภูเขาเลากาอะไรไหน

ชุดขาวตามมาตรฐานนักปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน
จัดเป็นยูนิฟอร์มชนิดหนึ่ง
ซึ่งใส่แล้วเตือนให้ระลึกถึงการคุมสติ
หลายคนจึงรู้สึกราวกับสติดีขึ้นกว่าเดิม
เพียงได้ใส่ ‘ยูนิฟอร์มนักปฏิบัติ’

สีขาว เข้ากับจิตขาว กรรมขาว ออร่าขาว
ความเรียบง่าย เข้ากับใจที่ไม่เอาอะไรให้วุ่นวาย
วัสดุราคาถูก เข้ากับความนึกคิดในทางอ่อนน้อม
ยิ่งขาว ยิ่งสงบผาสุก ยิ่งอ่อนน้อม
ก็ยิ่งรู้สึกถึงความเป็นกุศลของจิตใจ

อย่างไรก็ตาม
เมื่อจดจำแบบตายตัวว่า
ชุดขาว คือของสูง ใส่แล้วสูงส่งทางจิตวิญญาณ
ชุดขาวก็อาจกระตุ้นให้ทะนงในความขาวด้วย

ขอให้ระลึกว่า ในยุคพุทธกาล
แม้นางวิสาขาที่เป็นโสดาบันบุคคลตั้งแต่เด็ก
ท่านก็ไม่ยึดมั่นกับยูนิฟอร์มขาว
ท่านเป็นบัณฑิตทางธรรมออกมาจากใจ
แม้กายห่อหุ้มด้วยเครื่องประดับเรือนล้าน
ความเป็นบัณฑิตทางธรรมของท่าน
ก็ไม่ได้เสื่อมคุณค่าลงตรงไหน
จิตวิญญาณของท่านยังคงสะอาดสูงส่ง
ด้วยคุณธรรมแห่งสติระดับโสดาฯ
โดยไม่จำเป็นอาศัยยูนิฟอร์มใดๆมารักษาระดับให้

สรุปคือ ใส่ชุดขาวแล้วดีหรือไม่ดี
อยู่ที่ใส่เพื่อช่วยให้เกิดสติ
หรือเสริมให้เกิดความทะนง
การปฏิบัติธรรมที่บ้าน การถือศีล ๘ เป็นบางวัน
ถ้าใส่ชุดขาวแล้วพบว่าเสริมกัน
อันนั้นนับว่าชุดขาวเป็นนิมิตมงคลทางธรรม
แต่หากใส่ชุดขาวแล้วพบว่าอัตตาโตขึ้น
ราวกับประดับยศตำแหน่งหลายบั้ง
ไม่เห็นหัวใคร ไม่สนหัวหงอกหัวดำ
นึกว่าใส่ชุดขาวแล้วแปลงร่างเป็นเทพยดาทันที
อันนี้นับว่าชุดขาวเป็นนิมิตอัปมงคลทางธรรมแล้ว

ใส่ชุดขาว
อย่าหยุดแค่กรรมขาว
พยายามไปให้ถึงกรรมใส
คือเจริญสติ รู้ความหลงตัวหลงตนให้ได้ด้วย!


ดังตฤณ
สิงหาคม ๖๐