จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๒๗๒
ข้อเสียของการเถียงกับคนบ้า
นิยามของคนบ้า
ตามความรู้สึกทั่วไป
คือ สติวิปลาส พูดไม่รู้เรื่อง
ใช้ชีวิตแบบคนมีสติในสังคมไม่ได้
ต้องอยู่ในเขตกักกัน
เพื่อความปลอดภัยของตนและคนอื่น
แต่ประสบการณ์อาการบ้า
เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้สึกได้จากประสบการณ์ตนเอง
เช่น ตอนกำลังโมโหปรอทแตก
ตอนหน้ามืดอาละวาดชนิดไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
ตอนโกรธเกลียดจนหูดับ ไม่เป็นอันได้ยินเสียงอธิบาย
ตอนอยากรักษาหน้าจนหัวใจมืดบอด ยอมโกหกคำโต
ตอนอยากได้ดี โดยไม่ต้องทำอะไรดีๆกับเขาเลย
ตอนอิจฉาริษยาจนอยากแช่งให้ชีวิตเขาพัง
ตอนเข้าข้างตัวเองแบบลืมโลก ลืมความผิดตัวเองหมด
ตอนงมงายหลับหูหลับตาเชื่อแบบไม่ต้องการข้อพิสูจน์
ฯลฯ
สรุปคือ ถ้าของขึ้น
ยอมให้อารมณ์ครอบงำ
สติหลุด ลืมวิธีใช้เหตุผล
จิตของคนเราดิ่งเข้าสู่
ภาวะ ‘บ้าชั่วคราว’ นอกเขตกักกันได้ทุกเมื่อ
ว่ากันว่า ความเครียดและความเบื่อในปัจจุบัน
รบกวนจิตใจคนในออฟฟิศให้ ‘บ้าชั่วคราว’ ง่ายขึ้น
เจ้านายบ้าใส่ลูกน้อง ลูกน้องบ้าใส่เจ้านาย
เพื่อนร่วมงานบ้าใส่กัน
จนคุณอาจแปลกใจถี่ๆ กระทั่งขี้เกียจแปลกใจแล้วว่า
‘คนนี้ก็เป็นไปได้กับเขาด้วย’
เหมือนโรคร้ายระบาดแบบห้ามไม่อยู่เสียแล้ว
ถ้าถอยออกมาหนึ่งก้าว เป็นผู้ดู ไม่ลงเล่นเอง
คุณจะรู้ว่า ไม่มีใครเถียงคนบ้าชนะ
เพราะตรรกะของคนบ้า
จะป่วนระบบความคิดของคู่เถียงให้รวนตาม
เรื่องไม่จริงก็ยกเอามาอ้างให้มันจริง
เรื่องไม่เกี่ยวก็ยกเอามาพูดให้มันเกี่ยว
เรื่องคิดไปเองก็ยกเอามาบังคับให้คนอื่นทึกทักตามไปด้วย
คำแรกๆที่คุณเถียงกับคนบ้า อาจตรงเหตุตรงผล
แต่คำหลังๆที่คุณยังไม่เลิกเถียงกับคนบ้า
อาจผิดเพี้ยน ออกอ่าว หาฝั่งไม่เจอ
ชนิดที่รู้สึกได้เดี๋ยวนั้นเลย
ไม่ต้องรอระลึกในภายหลัง
แต่บางทีรู้ทั้งรู้เช่นนั้น
คุณก็อาจอดไม่ได้
เผลอร่วมบ้าโดยไม่ทันตั้งตัว
ทางที่ดี คือ เตือนตัวเองไว้ก่อน
ตั้งใจไว้ก่อนว่า อย่าคิดเอาชนะคนบ้า
ถ้ารู้สึกว่าใคร ‘บ้าชั่วขณะ’ ขึ้นมา
ให้ยอมๆไปก่อน หรือถอยออกมาห่างๆ
หากโดนตามราวีอย่างจะแกล้งให้คุณบ้าตามให้ได้
วิ่งหนีได้ก็วิ่งหนีเลย อย่ามัวลังเลคิดรักษาศักดิ์ศรี
ยังไงมันก็ไม่มีศักดิ์ศรีในหมู่คนบ้าอยู่ดีแหละคุณ!
ดังตฤณ
มีนาคม ๖๐