Print

จากใจบก.ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๒๖๒

dungtrin_editor_cover

dungtrin_new2

 

 

 

 

 

 


กดดัน...สวดมนต์คลายได้

 editor262

 

ทำงานภายใต้แรงกดดันของเวลาด้วย

เรียงลำดับงานไม่เป็นระบบด้วย

กำจัดความคิดถึงเรื่องเหลวไหลไม่ได้ด้วย

ในที่สุดคุณจะไม่ค่อยได้ทำงาน

แต่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการหัวหมุน

ด้วยพายุอารมณ์เครียด

เหมือนต้องก้มหน้าก้มตา

จมปลักอยู่กับชีวิตบัดซบ

รู้สึกแย่ โลกมืด หน้าดำคล้ำหมองไม่เลิก

 

ลำดับความสำคัญก่อนหลัง

ฟังดูง่าย ใครๆก็เข้าใจ

ให้คิดเลือกแบบ ก.ข.ค.

ทุกคนเลือกถูกหมดว่า

อันไหนควรอยู่หน้า อันไหนควรห้อยท้าย

แต่ในทางปฏิบัติ ในโลกความจริงภายใน

ความอลหม่านในหัวของคนที่

ปล่อยใจฟุ้งซ่านจนชินนั้น

มักหยิบยกเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้นมานำ

ไถลออกนอกทางไปคิดเรื่องส่วนตัวบ้าง

หลงไปคิดเรื่องสำคัญน้อยก่อนเรื่องสำคัญมากบ้าง

ผุดไอเดียที่ไม่เกี่ยวกับความคืบหน้าของงานปัจจุบันบ้าง

 

เพื่อจะลดกำแพงพายุบังตาบังใจ

หลักการง่ายๆ คือ ทำให้หัวโล่งทุกเช้า

แล้วคุณจะพบกับประสบการณ์ภายในเคลียร์ๆ

จิตใจปลอดโปร่ง เห็นทางสว่าง ทัศนวิสัยแจ่มชัด

หยิบเรื่องสำคัญขึ้นมาโฟกัสก่อนได้ง่ายๆ

ไถลออกนอกลู่นอกทางที่วางไว้ยากขึ้น

เมื่อผุดไอเดียใหม่ที่ยังไม่ช่วยให้บรรลุเป้าปัจจุบัน

ก็จดไว้ก่อน สามารถปัดออกจากใจไปก่อนสบายๆ

 

วิธีทำหัวให้โล่ง ที่เป็นไปได้จริงสำหรับคนเมือง

คือ สวดมนต์ แต่ต้องสวดเป็น

ไม่ใช่สวดงึมงำตามๆกัน

ต้องอ่านออกด้วยว่า สวดวรรคนี้ จิตอยู่ตรงนี้

สวดถึงอีกวรรค จิตไปถึงไหนแล้ว

 

ถ้าลองครั้งแรกๆ

ทั้งที่ไม่เคยลุกจากที่นอนขึ้นมาสวดมนต์เลย

แต่ละคนมักงัวเงีย ขี้เกียจสวด

จิตใจจึงพร่ามัว นึกถึงอะไรที่ไม่เกี่ยวกับการสวด

เช่น ที่นอน อาหารเช้า หรือไม่ก็เรื่องน่าฟุ้งซ่านทั้งหลาย

 

หากคุณอ่านออก เริ่มจับจุดได้จากตรงนี้

สังเกตใจตัวเองถูกว่าเป็นเช่นนี้เพราะยังไม่คุ้น

ก็จะสังเกตอาการทางใจขั้นต่อๆไปได้ถูก

รู้ว่าเริ่มต้นอึดอัดเพราะต้องฝืนเปล่งเสียงสวด

รู้ว่ายิ่งสวดนาน ใจยิ่งสบาย หายอึดอัด เพราะฝืนน้อยลง

รู้ว่าถ้าไม่ฝืน แล้วเปล่งเสียงเต็มปากเต็มคำขึ้น ก็จะสว่างขึ้น

รู้ว่าเมื่อโฟกัสกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จิตย่อมสว่างตามสิ่งศักดิ์สิทธิ์

รู้ว่าถ้าสวดเอื่อยๆ ก็กลับมามืดหม่น ฟุ้งซ่านอีก

รู้ว่าถ้าตั้งใจถวายแก้วเสียงเป็นพุทธบูชา เสียงจะไพเราะ

รู้ว่าถ้าเห็นความไม่เที่ยงของจิตได้ สติจะดีขึ้นเรื่อยๆ

รู้ว่าถ้าสวดมากรอบพอ ก็จะไปถึงจุดหนึ่งที่สว่างเต็ม

 

ความสว่างเต็มนั่นเอง คือความโล่งหัว โล่งอก

เพียงหัดสังเกตใจระหว่างสวดมนต์

จนสวดแล้วสว่างเต็มได้ทุกเช้า ก็เท่ากับได้จิตใหม่ทุกเช้า

บางคนสวดรอบเดียวก็เต็ม

บางคนสวดหลายรอบหน่อยถึงจะได้

แต่จะรอบเดียวหรือหลายรอบ ก็ได้จิตใหม่ดีๆ

ที่มีคุณภาพ ที่สว่างเป็นกุศล

พร้อมจะเลือกคิดสิ่งที่ควรคิด

พร้อมจะเลือกทำสิ่งที่ควรทำตามลำดับได้

โดยไม่จำเป็นต้องฝึกในที่ทำงานระหว่างหัวยุ่ง

นั่นเพราะฝึกแล้วในสถานการณ์ที่ยังง่ายก่อนออกจากบ้าน!

 

ดังตฤณ

พฤศจิกายน ๕๙