Print

จากใจบก.ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๒๔๖

dungtrin_editor_cover

dungtrin_new2

 

 

 

 

 

 

 

ของขึ้นทีไรควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกที


editor246

 

หลายคนรู้ตัวว่ามีสองภาค

ภาคคนกับภาคผี

รู้คิดกับไม่รู้จักคิด

เดี๋ยวเป็นบัณฑิตเดี๋ยวเป็นพาล

วันหนึ่งพูดตรงๆอีกวันแกล้งพูดไม่ตรงกับใจ

โมโหกับเรื่องเล็กแต่ดันใจเย็นกับเรื่องใหญ่ ฯลฯ

 

พูดง่ายๆ

มีตัวดีกับตัวบ้าปะปนกัน

ตัวดีเกลียดตัวบ้า

ไม่อยากทำตัวเป็นบ้าเลย

ส่วนตัวบ้าก็หมั่นไส้ตัวดี

ไม่อยากดัดจริตโลกสวยแสนดีกับใครเขา

 

ถ้าเป็นอย่างที่ว่ามาก็ไม่ต้องตกใจ

เขาเป็นกันทั้งนั้นแหละ

เพียงแต่ไม่มีใครมาพูดสารภาพหมดเปลือก

ไม่มีใครมานั่งจาระไนว่าฉันก็เป็น แต่ยั้งๆ อยู่

 

ข้อเท็จจริงก็คือ

อารมณ์และเหตุผลของมนุษย์

เป็นสิ่งแปรปรวนกลับไปกลับมาง่าย

มีแต่คนที่ศรัทธาธรรมะถึงระดับหนึ่งเท่านั้น

ที่ตั้งใจฝึก เลือกข้างดีกันจริงจัง

 

ปัญหาเกิดตอนนี้แหละ

เดิมทีมีทั้งตัวดีและตัวบ้าอยู่ด้วยกัน

ไม่เห็นมีปัญหา ไม่ต้องกลุ้มอะไรเลย

แต่พออยากเลือกข้างดีไว้ข้างเดียวเท่านั้น

กลุ้มเลย! เพราะเวลาตัวบ้าออกฤทธิ์

ทำอย่างไรก็ข่มใจไม่อยู่

เหมือนตัวบ้าต้องอาละวาดให้พอ

ถึงจะหมดแรงสิงสู่ ยอมล่องลอยออกจากร่างไป

 

ปัญหาจะไม่เป็นปัญหา ถ้าเข้าใจให้ถูก อ่านให้ขาด

เราอยู่กับตัวบ้ามาทั้งชีวิต

แค่คิดว่าจะไล่ก็ไล่ได้ง่ายๆงั้นหรือ?

ลองคิดถึงคนร่วมบ้าน

แชร์บ้านด้วยกันมาแต่อ้อนแต่ออก

อยู่ๆบอกว่าฉันไม่ชอบหน้าแกแล้วว่ะ

ออกไปเดี๋ยวนี้เลย

ง่ายๆดื้อๆแค่นี้ ใครมันจะยอมไหม?

 

วิธีที่ถูกคือ

คุณต้องทำให้ตัวตนฝ่ายดี

เข้มแข็งขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่า

ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ด้วยการเกร็งตัว

เบ่งกำลังภายในออกมาจนเส้นเลือดปูด

แต่ต้องด้วยการเพิ่มความสว่าง

เพิ่มความอิ่มอกอิ่มใจ

กระทั่งใจรู้สึกมีกำลังเหลือเฟือ

เมื่อใดเงามืดของตัวบ้าเริ่มปรากฏ

เมื่อนั้นคุณใช้กำลังไล่มันได้ง่ายๆด้วยทุนทางใจ

ไม่ต่างจากเอานิ้วเขี่ยทิ้ง

 

เพิ่มกำลัง เพิ่มความสว่าง เพิ่มความอิ่มอกอิ่มใจ

เขาทำกันอย่างไรเล่า?

คำตอบคือ ทำบุญทำทาน

จะทำแบบไหน จะทำที่ใด ขอให้ใจอยากทำแล้วทำเถอะ

ทำด้วยความเข้าใจว่า

กำลังบุญ ก็คือกำลังใจที่เหนือธรรมดา

เมื่อได้ความพิเศษเหนือธรรมดานั้นมาแล้ว

ก็ให้ อธิษฐานแบบพุทธทันที

 

อธิษฐานแบบพุทธคืออย่างไร?

คือตั้งใจมั่น ตั้งอย่างเด็ดเดี่ยว

ตั้งใจว่าจะทำเรื่องดีๆ

หรือเปลี่ยนแปลงตนเองให้สำเร็จให้จงได้!

 

ล้มล้างความเชื่อเดิมๆเสีย

ที่เคยถูกสอนให้อธิษฐานขอนั่นขอนี่จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์

อันนั้นเป็นวิธีของศาสนาพราหมณ์หรือลัทธิเทพเจ้า

หาใช่การอธิษฐานจิตแบบพุทธแต่อย่างใดไม่

การอธิษฐานเป็นเรื่องของคนมีกำลังใจดี

ซึ่งถ้ามีอยู่แล้ว อยากทำ อยากเปลี่ยนตัวเองอย่างไร

ก็โพล่งอธิษฐานขึ้นมากับดินฟ้าอากาศรอบตัวเดี๋ยวนั้นเลย

จะอธิษฐานออกปากหรืออธิษฐานในใจไม่สำคัญ

แต่หากรู้ตัวว่ากำลังใจยังไม่ดี

ท่านก็ให้เพิ่มกำลังใจเสียด้วยการทำบุญทำทานนั่นเอง

 

อย่างกรณีทำลายล้างตัวบ้า เมื่อคิดจะอธิษฐาน

ก็เอาแบบเจาะจงลงไปชัดๆเลยว่า

ต้องการรบกับตัวบ้าประเภทไหนก่อน

เอาตัวเดียวพอ อย่าเพิ่งหลายตัวพร้อมกัน

เช่น ตัวบ้าประเภท โมโหแล้วพูดไม่คิด

ตัวบ้าประเภท เกลียดเมื่อไหร่ตะเบ็งเสียงใส่เมื่อนั้น

ตัวบ้าประเภท จับเป้านินทาถนัดแล้วน้ำลายแตกฟองไม่หยุด

ตัวบ้าประเภท อยากได้แล้วลืมเกรงใจเงินเก็บ

ตัวบ้าประเภท ขึ้นถนนแล้วต้องซิ่งหวาดเสียวโชว์สาว

ตัวบ้าประเภท ยอมด้อยไม่ได้ ข้าต้องเด่นตลอดฯลฯ

 

ถ้าการอธิษฐานนั้น

เกิดขึ้นขณะจิตใจมีกำลัง

เปี่ยมปีติสุขในบุญกุศลอยู่จริงๆ

คุณอาจต้องพบปรากฏการณ์ทางจิตที่น่าอัศจรรย์ในภายหลัง

นั่นคือ พอเกิดเหตุเรียกผี เรียกตัวบ้าอย่างเคย

ตัวบ้าจะไม่ออกมาเต็มตัวเหมือนเดิม

หรือออกก็ออกแบบแผ่วๆ กล้าๆกลัวๆ

ไม่เต้นงิ้วท่าแผลงฤทธิ์เต็มที่เหมือนเมื่อก่อน

 

ถ้าบังเกิดผลแล้วไม่ประมาท

ยังคงเดินหน้า ตั้งใจมั่น

อธิษฐานสำทับเข้าไปเรื่อยๆทุกครั้งที่ทำบุญทำกุศล

ตัวบ้าจะจืดจาง หรือกระทั่งหายไปเลย

จนคุณนึกไม่ออกว่า

มันเคยอยู่ตรงนี้มาตั้งนานได้อย่างไร

 

นอกจากกำจัดตัวบ้าที่ปลายเหตุแล้ว

ให้สังเกตต้นเหตุให้เกิดตัวบ้าไว้ด้วย

คนยุคเราเสพสื่อเหมือนๆกัน

ทั้งการบันเทิง ทั้งการเมือง

และเดี๋ยวนี้ลามไปถึงทางศาสนา

มองไปทางไหนเห็นมีแต่คนเอาแรงเข้าว่า

เพราะถ้าไม่ถึงใจ กลัวเดี๋ยวเรตติ้งไม่ดี

หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเสพของแรงไปกับคนอื่น

เพียงแต่คุณระวังได้ ไม่ให้ตัวเองพลอยสะใจ

กับภาษาป่าเถื่อน กิริยาแข็งกระด้างต่างๆนานารอบตัว

เพราะความสะใจนั่นเอง

คือประตูเปิดรับตัวบ้าเข้ามาสะสมไว้ในตน

คุณจะไม่รู้ตัวว่ามันเข้ามา

และเมื่อมันปรากฏตัว คุณก็จำไม่ได้แล้วว่า

ไปเก็บมันมาเลี้ยงตั้งแต่เมื่อใดกัน!

 

ดังตฤณ

มีนาคม ๕๙