Print

จากใจ บ.ก.ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๒๓๓

dungtrin_editor_cover

dungtrin_new2



 

 

 


 

 

e233

 

มีคนประเภทหนึ่ง

ที่แค่ปรากฏตัว ก็ปลุกคนเห็นให้ดีใจ

ขณะที่คนอีกประเภท

แค่เดินมาแต่ไกล ใครๆก็นึกอยากหลบ

 

แล้วก็มีคนประเภทหนึ่ง

แม้ทำตัวแสบ แต่อุตส่าห์มีคนแอบรักเยอะ

ขณะที่คนอีกประเภท

ดีแค่ไหนก็ไม่มีใครนึกรัก นึกอยากอยู่ด้วย

 

แถมยังมีคนประเภทหนึ่ง

หน้าตาดี แต่มองแล้วอยากเมิน

ขณะที่คนอีกประเภท

หน้าตาแค่พอใช้ แต่กลับจับตาได้นานกว่า

 

ทำไมเป็นอย่างนั้น?

 

คำตอบคงไม่ใช่ตื้นๆแค่

ทำดี เดี๋ยวก็มีคนมารักหรอกกระมัง?

 

เพื่อจะเข้าใจจริงๆ

คุณต้องหันไปดูดอกไม้

แล้วถามใจตัวเองว่า

ระหว่างกุหลาบสดกับกุหลาบเหี่ยว

คุณอยากมองดอกไหนมากกว่ากัน?

และแม้ระหว่างกุหลาบสดด้วยกัน

ทำไมคุณถึงอยากคัดแต่ดอกเด่น

มาปักแจกันมากกว่าดอกอื่น?

 

คนเราชอบพลังชีวิตที่สดชื่นไง

แค่กุหลาบดอกไหนช่วยให้คุณสดชื่นได้

ดอกไม้นั้นก็มีคุณงามความดีพอแล้ว!

 

พลังความสดชื่นเป็นสิ่งที่รับได้ง่าย

เจอคนบางคนปุ๊บ

เหมือนโด๊ปยาให้ตาสว่างได้ปั๊บ

อย่างนี้ใครเล่าจะไม่ชอบ?

 

ใครช่วยให้คุณรู้สึกดี

สมองคุณตัดสินทันทีแล้วว่าเขาเป็นคนดี!

 

คนดีบางคน

ทำดีไป สงสารตัวเองไป

บางทีก็ท้อใจกับชีวิตทั้งชีวิต

คิดสั้นอยากหนีไปสวรรค์บ้าง

หรือยอมปล่อยจิตปล่อยใจให้หดหู่

ฟุ้งซ่านอยู่กับเรื่องไม่เป็นเรื่องบ้าง

 

คนธรรมดาบางคน

หน้าตาไม่ดีแล้วยังปากไม่ดีอีก

เพราะวันๆหมกมุ่นครุ่นคิดถึงแต่แง่ร้าย

ชอบจับผิด ชอบเพ่งโทษ ชอบหาเรื่องด่า

ทำให้ฟุ้งซ่าน มีจิตหดหู่เป็นอาจิณ

ใครแค่เข้าใกล้ ก็รู้สึกเหมือนเจอหลุมดำ

โดนหลุมดำดูดพลังชีวิตด้านดีแบบฮวบฮาบ

อย่างนี้ใครมันจะไม่อยากหนี?

 

จิตหดหู่ครองเวลาในชีวิตคุณนานขึ้นเท่าไร

ออร่าทางความรักก็หายไปนานขึ้นเท่านั้น

เหมือนกุหลาบเหี่ยวที่ไม่มีใครอยากเอา

 

ในทางตรงข้าม

จิตสดชื่นยิ่งเกิดขึ้นนาน

ออร่าทางความรักยิ่งเบ่งบานขึ้นทุกที

ถึงแม้ทำตัวครึ่งดีครึ่งร้าย

แต่เมื่อชอบสนุก ชอบคึกคัก

ชอบยิ้มแย้ม ชอบพูดแต่เรื่องน่าสบายใจ

ก็เกิดออร่าพลังแม่เหล็กได้

ตามกติกาอันยุติธรรมทางธรรมชาติของจิต

 

ดาราดังบางคน

ดังขึ้นมาได้จากบุญเก่าที่เคยแจกจ่ายของดี

ช่วยให้ผู้คนและส่ำสัตว์มีชีวิตชีวาสดชื่น

เช่น ปล่อยปลาที่จะถูกฆ่าลงน้ำใหม่

พูดจาแบบที่ให้แง่คิดดีๆกับคนจำนวนมาก

เอาความรู้ความสามารถไปยกระดับ

ปรับเปลี่ยนชีวิตชาวบ้านที่เหี่ยวเฉา

ให้กลายเป็นเบิกบาน มีกินมีใช้

 

มาชาติปัจจุบัน แม้ลืมว่าเคยดี

แต่ความดีจะไม่ลืมเขาหรือเธอเลย

บุญในอดีตตกแต่งรูปชีวิตปัจจุบันให้ดูดี

สร้างแม่เหล็กดึงดูดใครต่อใคร

ให้อยากห้อมล้อมชื่นชม

ซึ่งก็เหมือนดอกไม้ได้น้ำ

ทำให้ดาราดังสดชื่นมากกว่าแห้งเหี่ยว

ยิ่งสดชื่นแรง สดชื่นนาน

ก็ยิ่งสะสมออร่าทางความรักไว้มาก

ต่อให้หลงตัวแค่ไหนก็กำใจผู้คนได้มากอยู่ดี

อยู่ในจอแกล้งทำดีก็มีคนเชื่อกันทั้งประเทศ

อยู่นอกจอถึงร้ายกาจบ้างก็ไม่มีคนเกลียดมากนัก

จึงสนุกกับการเป็นโรค แกล้งดีซ่อนร้ายจริงกันไป

 

ดูจากคนธรรมดา ดูจากดาราดัง

เมื่อเข้าใจหลักการ

เมื่อเข้าใจหลักความยุติธรรมทางธรรมชาติ

คุณจะจับจุดถูก

เลิกถามคนอื่นว่า ทำไมฉันแสนดีถึงไม่มีคนรัก?

ทำไมหมอนั่นหรือยายนี่แสนร้ายกลับมีแต่คนชอบ?

แล้วเปลี่ยนมาถามตัวเองใหม่ว่า

ฉันมีจิตหดหู่หรือจิตสดชื่นมากกว่ากัน?

จิตแบบฉันสมควรเป็นที่รักหรือถูกเมิน?

 

ถ้าตอบตัวเองถูกว่ามีจิตหดหู่บ่อยกว่าจิตสดชื่น

ก็ต้องฝึกสู้กับจิตหดหู่กัน

อาจเริ่มจากตกแต่งสภาพรอบตัวให้น่าอยู่ขึ้น

แต่งเนื้อแต่งตัวให้สดใหม่บ้าง

ตลอดจนเว้นวรรคการก้มมองมือถือ

เงยหน้าขึ้นมองนกมองไม้บ้าง

 

และที่สุดของการได้ความสดชื่นไว้เป็นสมบัติ

คือการรู้วิธีหายใจให้ยาวขึ้น และช้าลง

อีกทั้งรู้ว่าแม้ลมหายใจยาวๆ ช้าๆ ดีๆนั้น

ก็เกิดขึ้นไม่ได้ตลอดเวลา

เมื่อสังเกตเห็นความไม่เที่ยงอยู่เรื่อยๆ

จิตย่อมถอนจากอารมณ์ยึดมั่นหวงแหน

ถอนจากความรู้สึกไม่ได้อย่างใจ

ถอนจากความคิดน้อยเนื้อต่ำใจ

ถอนกันวันต่อวัน ทีละนิด ทีละน้อย

กระทั่งในที่สุดกลายเป็นจิตใหม่

สดชื่นในตัวเองโดยไม่พึ่งอะไร

นั่นแหละ! ยอดแห่งจิต

ที่ผลิตออร่าแห่งความเป็นที่รัก

ใครอยู่ใกล้ก็รู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจตาม

เครียดมาจากไหน เจอเข้าก็พลอยหายเครียด

จิตแบบนี้ใครจะไม่รัก ทั้งคนอื่นและเจ้าตัวเอง!

 

ดังตฤณ

กันยายน ๕๘