Print

จากใจ บก.ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๒๓๒

dungtrin_editor_cover

dungtrin_new2


ระหว่าง งานเยอะ

กับ คิดเกินงานไปเยอะ

ถ้าแยกแยะได้ว่าต่างกันอย่างไร

คุณอาจรู้สึกว่างานน้อยลงเยอะ

 

แค่เห็นโต๊ะทำงานรก

สมองของคุณจะตัดสินว่างานรุงรังทันที

 

แค่คิดเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบบ่อยๆ

ใจคุณจะตัดสินแล้วว่างานหนักเกินไป

 

แค่กลุ้มใจเรื่องเวลาที่กระชั้นเกินไป

คุณอาจเสียเวลาทำงาน

ให้กับอารมณ์กลุ้มเปล่าเสียเกือบครึ่ง

 

แค่นั่งนินทาเจ้านายที่ไม่เอาไหน

หรือเรียกลูกน้องมาด่าสาดเสียเทเสีย

พลังงานในการทำงานของคุณ

ก็อาจลดลงจนแทบไม่เหลือไว้ทำอะไรต่อ

 

แค่เรียงก่อนเรียงหลังไม่ถูก

ภาพในหัวของคุณจะสับสนอลหม่าน

มือกำลังทำงานนี้ แต่หัวไพล่ไปคิดถึงงานโน้น

แทนที่จะได้ทำงานหนึ่งให้เสร็จ

กลับปล่อยให้หลายงานเล่นชักกะเย่อในหัวคุณแทน

 

ถ้ายอมเสียเวลาจัดโต๊ะทำงานให้ว่าง

หาตู้หาลิ้นชักมาซ่อนความรุงรัง

เห็นโต๊ะทำงานว่างๆแล้วสมองคุณ

จะตัดสินทันทีว่างานน้อย

 

ถ้ายอมสละอารมณ์คิดเทียบเขาเทียบเรา

สละอารมณ์กลุ้มเรื่องเวลากระชั้น

สละอารมณ์อยากนินทาเจ้านาย

สละอารมณ์อยากเรียกลูกน้องมาด่า

เหลือไว้แต่อารมณ์อยากทำงานให้จิตนิ่ง

คุณจะไม่รู้สึกเหมือนคนถูกหลายงานรุม

แต่จะเห็นสองมือตนช่วยกันรุมหนึ่งงานให้เสร็จ

 

และถ้ายอมฝึกจับเป้าหมายของงานให้แม่น

นิยามให้ชัดว่าสุดท้ายต้องออกมาแบบนี้

แล้วจำภาพสุดท้ายนั้นไว้ดีๆ

ก้าวที่หนึ่ง สอง สาม จะเกิดขึ้นจริงตามลำดับ

ส่วนการไม่มีภาพในหัวเป็นศูนย์กลางดึงดูดใจ

คือการไม่มีต้นแหล่งความคิดก้าวเดินเลยสักก้าว

 

คิดเยอะ จะรู้สึกว่างานเยอะ

คิดน้อย จะรู้สึกว่างานน้อย

ฉะนั้น แม้งานเยอะ ทว่าคิดน้อยๆแบบเข้าเป้า

ก็รู้สึกว่างานน้อยได้

แต่ถ้างานเยอะอยู่แล้ว แล้วยังคิดเยอะกว่างานเข้าไปอีก

ก็ย่อมรู้สึกว่างานล้นมือจนทนไม่ไหวเป็นธรรมดา