Print

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๒๐๖

dungtrin_editor_coverความคิดที่คุณไม่อยากให้อยู่ในหัว

dungtrin_new2

มีอยู่หลายความคิด
ที่คุณไม่อยากยอมรับว่าตัวเองเป็นคนคิด
มีอยู่หลายความรู้สึก
ที่ทำให้คุณนึกเกลียดตัวเองที่รู้สึกเข้าไปได้


คิดอย่างนั้น คิดเข้าไปได้ยังไง
ท่านเป็นผู้มีพระคุณแท้ๆ
เขาเป็นลูกในไส้แท้ๆ
เธอทำดีกับเราทุกอย่างแท้ๆ ฯลฯ


รู้สึกอย่างนั้น น่าอายจริงๆ
อยากหาทางขโมยเอามาให้ได้
ตาต่ำขนาดนึกรักคนพรรค์นี้ได้ลงคอ
มันเขี้ยวอยากอาละวาดทั้งที่รู้ธรรมะออกสูงส่ง ฯลฯ


จริงๆแล้ว ธรรมะขั้นสูงในพุทธศาสนา
คือการเจริญสติ
ซึ่งหมายถึงการยอมรับทุกภาวะความจริงในตน
เพื่อให้เห็นถึงเหตุปัจจัยอันไม่แน่นอน
เมื่อยังมีเหตุ เมื่อยังเหลือเชื้อ
ก็ย่อมเกิดผลที่สอดคล้องกันได้ตามนั้นเอง


เมื่อเห็นภาวะใดเกิดขึ้น
ยอมรับว่าภาวะใดปรากฏในคุณจริงๆ
เมื่อนั้น คุณพร้อมที่จะเห็นมันหายไปแล้ว
และเมื่อสามารถเห็นอะไรหายไปได้
คุณก็พร้อมจะเห็นมันไม่ใช่ตัวคุณได้
นั่นแหละ! แก่นอันเป็นที่สุดของการเจริญสติ
นั่นแหละ! จุดหมายสูงสุดของพุทธศาสนา


แต่เพราะคนไม่เข้าใจความสำคัญของการยอมรับตามจริง
กดดันให้ตัวเองไม่ยอมรับ
บังคับตัวเองให้ฝืนใจปฏิเสธ
ผู้คนจึงเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจตนเอง
ในหัวเต็มไปด้วยความฟุ้งซ่านอลหม่านซับซ้อน
จับต้นชนปลายไม่ติด
บางทีทุกข์หนักก็ไม่แยกแยะไม่ออกด้วยซ้ำว่า
กำลังทุกข์เกี่ยวกับเรื่องอะไรกันแน่
รู้แต่ว่าแย่ รู้แต่ว่าขัดแย้งกับตัวเองอย่างหนัก
รู้แต่ว่าไม่อยากยอมรับอะไรสักอย่าง


ต่อเมื่อเริ่ม ‘ฝึก’ ยอมรับทุกความรู้สึก ทุกความนึกคิด
ด้วยการเห็นให้ได้ว่า ทุกความรู้สึกนึกคิดล้วนมีที่มาที่ไป
และไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจที่จะยอมรับความจริง
ตราบเท่าที่ความจริงในใจตนยังไม่พุ่งออกไปทำร้ายจิตใจคนอื่น
หรือถึงขั้นทำความบาดเจ็บให้ใคร
คุณไม่จำเป็นต้องห้ามใจ
แค่รู้ใจตัวเอง รู้ว่าเป็นอนัตตา
ไหนๆภาวะน่ารังเกียจหนึ่งๆก็อุตส่าห์มาปรากฏให้ดูแล้ว
ก็ดูไป ยอมรับไป อย่าให้มันมาเสียเที่ยว
เพื่อเข้าใจให้ได้ในที่สุดว่า
ภาวะหนึ่งๆเกิดจากเหตุ
เมื่อเหตุหมดไป ภาวะนั้นๆก็หมดตาม
นั่นแหละ! ‘ตัวน่ารังเกียจ’ ถึงจะไม่มีที่ยืนในใจคุณจริงๆ

ดังตฤณ
สิงหาคม ๕๗