Print

ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๑๖๕

dungtrin_cover

ถาม - เคยได้ยินมาว่าการทำบาปโดยไม่รู้กลับให้ผลแรงกว่า
เพราะเปรียบเสมือนคนที่กำลังจะเดินลุยไฟ
คนหนึ่งรู้ว่าไฟร้อนอีกคนไม่รู้ว่าไฟร้อนคนไหนจะเจ็บตัวกว่ากัน
แล้วถ้าทำบาปโดยไม่เจตนาหมายถึงไม่รู้ตัวด้วยหรือไม่คะ
และถ้าทำบาปโดยเจตนาหมายถึงทำบาปโดยรู้ตัวใช่หรือเปล่า
สรุปว่าสงสัยว่าระหว่างทำบาปโดยเจตนากับไม่เจตนาอันไหนให้ผลแรงกว่ากันคะ

dungtrin_gru2a

อย่างที่คุณเคยได้ยินมานั้นถูกแล้วครับ
ถ้ามีอาการยั้ง
จิตก็ไม่จับอารมณ์แน่น
อารมณ์ในที่นี้คือเครื่องมือในการกระทำ
เช่นความคิดคำพูดมือไม้ (และอุปกรณ์ประกอบมือไม้)
รวมทั้งตัวเป้าหมายที่ถูกกระทบ

เมื่อไม่จับอารมณ์แน่น
ลักษณะของเจตนาก็ไม่ก่อร่างสร้างตนแน่นหนา
สังเกตดูก็ได้หากมีโลภะหรือโทสะประกอบ
ก็ไม่พลุ่งขึ้นมาครอบงำจิตเต็มดวง
เพราะมีความขยาด
เหมือนจิตพยายามเลี่ยงอยู่

ต่างจากคนทำบาปโดยไม่รู้ตัวว่าบาป
ไม่รู้ว่าบาปจะให้ผลเป็นการสร้างรูปนามในอนาคต
ไม่รู้สึกกระทั่งวิบากจิตที่บังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
ก็แน่วไปในโลภะโทสะโมหะที่ประกอบจิต
เจตนาจึงแรงกล้ากิเลสครอบงำจิตเต็มๆ
ไม่แบ่งไว้ให้ความละอายต่อบาปบ้างเลย
ผลจึงหนักหน่วงรุนแรงตามพลังจิตที่ใช้ในการกระทำครับ

ที่มา http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/000350.htm

 

 



 

อย่างที่คุณเคยได้ยินมานั้นถูกแล้วครับ ถ้ามีอาการยั้ง จิตก็ไม่จับอารมณ์แน่น อารมณ์ในที่นี้คือเครื่องมือในการกระทำ เช่นความคิดคำพูดมือไม้ (และอุปกรณ์ประกอบมือไม้)รวมทั้งตัวเป้าหมายที่ถูกกระทบ

 

เมื่อไม่จับอารมณ์แน่น ลักษณะของเจตนาก็ไม่ก่อร่างสร้างตนแน่นหนา สังเกตดูก็ได้หากมีโลภะหรือโทสะประกอบ ก็ไม่พลุ่งขึ้นมาครอบงำจิตเต็มดวง เพราะมีความขยาดเหมือนจิตพยายามเลี่ยงอยู่

 

ต่างจากคนทำบาปโดยไม่รู้ตัวว่าบาป ไม่รู้ว่าบาปจะให้ผลเป็นการสร้างรูปนามในอนาคต ไม่รู้สึกกระทั่งวิบากจิตที่บังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ก็แน่วไปในโลภะโทสะโมหะที่ประกอบจิต เจตนาจึงแรงกล้ากิเลสครอบงำจิตเต็มๆ ไม่แบ่งไว้ให้ความละอายต่อบาปบ้างเลยผลจึงหนักหน่วงรุนแรงตามพลังจิตที่ใช้ในการกระทำครับ

 

ที่มา http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/000350.htm