Print

ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๑๔๑

ถาม - ตอนนี้มีความทุกข์มากค่ะเคยฝึกนั่งสมาธิให้จิตใจสงบแต่ทำยังไงๆก็ไม่สงบสักทีขอคำแนะนำด้วยค่ะ

dungtrin_gru2aผมเองแรกๆก็เริ่มฝึกสมาธิในลักษณะทะเล่อทะล่า
กล่าวคือไม่เข้าใจถึงความสำคัญของการเตรียมจิตเตรียมใจให้พร้อมเสียก่อน
นั่งเพ่งเอาๆผลคือความไม่สำเร็จและความรู้สึกท้อ
อันนี้ต่อมาสบายใจอย่างหนึ่งคือไม่ได้โดดเดี่ยว
คนฝึกสมาธิโดยไม่มีคนแนะนำหรือกำกับจะเป็นอย่างนี้กันทั้งโลก

การที่จู่ๆมาเริ่มนั่งสมาธิก็นับว่ามีข้อดีอย่างหนึ่ง
คือทำให้รู้ตัวเองว่าจิตใจอยู่ในระดับสภาวะที่พร้อมจะต่อยอด
หรือว่าควรจะปรับเปลี่ยนปูพื้นเสียใหม่

ขอแนะให้สำรวจใจตัวเอง
ว่ามีความนุ่มนวลมีความเปิดกว้างสบายหรือยัง
ถ้ายังก็ปรับๆเปลี่ยนๆเสียหน่อย
พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เริ่มต้นด้วยทาน
เอาเครื่องร้อยรัดขัดข้องพะรุงพะรังทั้งหลายทิ้งออกไป
ถ้าตระหนี่ก็ให้ทรัพย์เป็นทานทำทีละนิดทีละหน่อยแต่บ่อยครั้งจนชื่นใจ
ถ้าช่างอาฆาตก็หมั่นภาวนาอภยังอภยังระลึกถึงจิตที่ให้อภัยเป็นทานบ่อยๆ
จนเหมือนใจเป็นกระแสน้ำเย็นแห่งการยกโทษยกโกรธ
ถ้าช่างคิดเล็กคิดน้อยเกี่ยวกับการได้เปรียบเสียเปรียบก็ให้ธรรมเป็นทาน
ให้ความรู้เป็นทานให้ความคิดหรือกำลังกายแก่ผู้คนรอบข้างกระทั่งศัตรู

จากนั้นก็ทำความมั่นคงให้จิตใจด้วยการล้อมรั้ว
ป้องกันไม่ให้จิตใจเหลวแหลก
โดยตั้งใจไว้ล่วงหน้าจะถือศีลห้าไม่บกพร่อง
ไม่ฆ่าสัตว์ไม่ลักทรัพย์ไม่ผิดประเวณี
ไม่โกหก (รวมทั้งไม่พูดพล่ามเพ้อเจ้อให้จิตเสีย)
และไม่กินเหล้าเมายา (เป็นผู้หญิงอยู่แล้วน่าจะง่ายหน่อย)

เมื่อจิตใจถูกปรับสภาพให้เหมาะควรกับงานสมาธิแล้ว
จะรู้สึกว่าเยือกเย็นออกมาจากภายใน
นึกถึงกายที่ตั้งนั่งตรงดูความต้องการของกาย
อย่าดูความต้องการของใจ
ว่าควรหายใจเข้าเมื่อไหร่ยาวแค่ไหน
ขาเข้ากับขาออกที่ถูกต้องเท่ากัน

จิตที่เป็นสมาธิไม่มีอะไรซับซ้อน
ตรงข้ามมีความเรียบง่ายเหลืองานอยู่อย่างเดียวให้ทำ
คือดูลมผ่านเข้าผ่านออกผ่านเข้าผ่านออกอยู่อย่างนั้น

ที่มา http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/000666.htm?2#2