Print

ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๑๓๓

ถาม - ขออุบายดีๆ ในการทำให้คู่ครองหันมาสนใจการปฏิบัติธรรมด้วยครับ

dungtrin_gru2aในบางพระสูตรแสดงให้เห็นว่าแม้ครองเรือนกัน
ฝ่ายหนึ่งอาจดีชนิดมีสุคติเป็นที่หมาย
อีกฝ่ายอาจร้ายชนิดมีทุคติเป็นที่รอ
การอยู่ร่วมกันไม่ช่วยให้ฝ่ายที่ร้ายกลายเป็นดี
และไม่ดึงให้ฝ่ายดีกลายเป็นร้ายตาม

ทำนองเดียวกันกับธรรมะระดับสูงขึ้นมากว่านั้น
ถ้าคนหนึ่งมีความสุขจากธรรมอันเย็น
ด้วยวิธี ด้วยวิถีทางสั่งสมความรู้และประสบการณ์อันยาวนาน
ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถถ่ายเท
หรือถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้อีกฝ่าย
ทำให้อีกฝ่ายมีกิริยาจิตแบบเดียวกับตน
เพราะธรรมะไม่ใช่ของกิน ปรุงเสร็จใส่จานป้อนเข้าปากกันง่ายๆ
ธรรมะเป็นเรื่องของการอบรมจิต เป็นเรื่องของการฝึกหัด
เป็นเรื่องของความปรารถนาภายใน ในอันที่จะทำทุกข์ให้ทุเลาลง
หรือกระทั่งทำทุกข์ให้ถึงที่สุด

การพูดบอกตรงๆบางครั้งอาจเหมือนพยายามหักด้ามพร้าด้วยเข่า
คนเรายิ่งใกล้ชิดกันเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความรู้สึกว่าคนใกล้ตัวน่าจะมีกิเลสระดับเดียวกัน
จึงเข้ากันได้ คบกันได้ สนิทกันได้
ถ้าไปบอกว่าทุกข์ทำไม มันเป็นอนิจจัง เฝ้าดูความเป็นอนิจจังของอารมณ์เถิด
ในอารมณ์นั้น เขาอาจหมั่นไส้เรา หรือเกิดอาการสร้างกำแพงปิดกั้นถาวรไปเลย
คือเมื่อพูดถึงธรรมะ หรือพยายามชี้แนะในลักษณะนั้น ก็จะไม่ฟังอีก

สิ่งที่ถ่ายทอดได้ดีที่สุดสำหรับคนใกล้ชิดคือความเป็นตัวเราเอง
ภาพ เสียง สัมผัสอันเกิดจากเราเป็นอย่างไร
เขาก็จะค่อยๆซึมซับความเป็นเช่นนั้นเข้าไป
ยิ่งเราเย็นเท่าไหร่ เขาก็มีแนวโน้มจะเย็นตามเท่านั้น
เหมือนอย่างเราคุยกับคนที่ใจเย็นบ่อยๆ ก็รู้สึกอยากใช้น้ำเสียงเยือกเย็นตาม
ใช้ถ้อยคำที่อ่อนโยนนุ่มนวลตาม
แต่ถ้าเกิดอะไรกระทบนิดหน่อย เขายังเห็นเราแสดงกิเลสแบบโลกๆอย่างคนธรรมดา
หรือกระทั่งมีเหตุการณ์พิสูจน์ใจ เราแสดงความขึ้นลงให้เขาเห็น
ความรู้สึกที่ได้ก็ไม่ต่างจากสิ่งที่แวดล้อมเขาเป็นปกติ
เขาก็จะไหลไปตามปกติ คือกิเลสอย่างนั้นต่อไป เรื่อยไป

ถ้าเราเย็นได้จนวันหนึ่งเขาเย็นตาม
แล้วนึกอยากถามธรรมขึ้นเอง
นั่นคือความสำเร็จ นั่นคือสิ่งดีที่สุดที่เราสามารถให้เขาได้ครับ

ที่มา http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/000177.htm