Print

ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๑๒๑

ถาม - การปฏิบัติธรรมอย่างคนธรรมดา จะถึงจุดหมายปลายทางสุดท้ายแบบ ‘ไม่ต้องเกิดอีกแล้ว’ ช้ากว่าคนที่ถือบวชหรือไม่คะ?

dungtrin_gru2aถ้าถือบวชไปนั่งๆ
นอนๆ ไม่เพียรภาวนา ไม่รักษาจิตให้สะอาด
หรือแม้เพียรภาวนาและรักษาจิตให้สะอาดดีแล้ว แต่เป็นดำเนินจิตไม่ถูกต้องตามหลักสติปัฏฐาน
สภาพจิตไม่มีคุณภาพครบถ้วนด้วยองค์มรรคทั้งแปด
อย่างนี้ก็ไม่มีหวังได้บรรลุธรรมแม้แต่ขั้นต้นหรอกครับ
เผลอๆ ถ้าบวชแล้วขี้เกียจ ไม่ยอมทำตามกติกาต่างๆ ที่ตกลงไว้ตอนบวช
นอกจากจะไม่ได้เจอสวรรค์นิพพานแล้วยังมีสิทธิ์ไปอบายได้สูงกว่าฆราวาสเสีย ด้วย

ส่วนฆราวาสนั้นแม้นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ
แต่กลับบ้านแล้วปิดประตูห้องเพื่อบำเพ็ญเพียรภาวนา
กับทั้งมีกำลังใจรักษาจิตให้สะอาด ประกอบบุญกุศลยิ่งๆ ขึ้นไป
และที่สำคัญสูงสุดคือดำเนินจิตถูกต้องตามหลักสติปัฏฐาน
สภาพจิตทรงคุณภาพครบถ้วนด้วยองค์มรรคทั้งแปด
อย่างนี้ถึงแม้ตลอดชาติไม่ได้บวช ก็มีสิทธิ์บรรลุธรรมชั้นต้นได้
(ซึ่งแค่นั้นก็เที่ยงที่จะหลุดพ้นเด็ดขาดในอนาคตกาลแล้ว)
ส่วนถ้าจะเอาแบบไม่ต้องเกิดอีก คือบรรลุธรรมขั้นสูงสุดเป็นพระอรหันต์ขีณาสพ
อันนี้คงไม่ใช่วิสัยที่จะทำกันได้ในออฟฟิศแบบฆราวาสครับ
เพราะขั้นสุดท้ายนั้นต้องการสมาธิขั้นอุกฤษฏ์ จะปะปนแปดเปื้อนกับมลทินใดๆทางโลกคงไม่ไหว

สรุปคือการปฏิบัติเพื่อบรรลุธรรมนั้น
เครื่องแบบไม่ใช่ตัวกำหนดความช้าเร็ว
แต่เป็นเรื่องของความเข้าใจในเส้นทางที่ถูกต้องตลอดสาย ไม่หลงเถลไถลไปไหนเสียก่อนนั่นเองครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
http://www.dungtrin.net/newsletter/viewtopic.php?t=60