Print

ดังตฤณวิสัชชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๔๓๔

 

dungtrin_cover

dungtrin_gru2a

 ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ ฉบับที่ ๔๓๔

กรกฎาคม ๒๔๖๖

 

จะมีจิตที่เมตตาอย่างแท้จริงได้อย่างไร

ถาม (๑) – สิ่งใดที่จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ใจมีเมตตาได้อย่างแท้จริงคะ

ตอบ (๑) - คือความสุขนะครับ ถ้าไม่มีความสุขเป็นจุดเริ่มต้น
ไม่มีทางที่คุณจะมีเมตตาที่แท้จริง

เพราะเมตตาก็คือการเผื่อแผ่ความสุขไปให้คนอื่น
ไม่ใช่เผื่อแผ่ความทุกข์หรือว่าความอาฆาตแค้นทิ้งออกไปนอกตัว ไม่ใช่อย่างนั้นนะ
คือการที่เราแผ่เมตตา สิ่งที่คนไม่เข้าใจที่จุดเริ่มต้น มันอยู่ที่ตรงนี้


ตราบใดที่คุณยังฟุ้งซ่าน ตราบใดที่คุณยังรู้สึกถึงอาการอาฆาตพยาบาทอยู่
ตราบนั้นคุณจะไม่มีทางที่จะแผ่เมตตาได้อย่างจริงใจ
ต่อเมื่อคุณสวดมนต์หรือว่าเจริญสตินั่งสมาธิ
หรืออย่างที่พระพุทธเจ้าสอน พิจารณาว่ามันเป็นอาการป่วยทางจิต
แล้วคุณรู้สึกว่าคุณทิ้งเชื้อโรคลงไปวางกองได้ อันนั้นน่ะใจเบา
ความเบาใจนั่นแหละที่มันจะเป็นใจจริงที่จะแผ่เมตตา

 

……………………………………………………………………

 

ถาม (๒) – ถ้าเราทำทานแล้วรู้สึกว่ามีพลังเอ่อล้น
บางครั้งรู้สึกอยู่อย่างนั้นเป็นนานกว่าจะหาย
ควรใช้ช่วงเวลานั้นมาทำสมาธิจะดีกว่าช่วงเวลาปกติไหมคะ

ตอบ (๒) - แน่นอนนะครับ อันนี้ชัดเลย ชัวร์เลย
ถ้ารู้สึกถึงพลังมันมีแรงค้ำจุนให้ตั้งนิ่งอยู่ได้
จะเกิดจากการทำทานสำเร็จ จะเกิดจากการถือศีลได้สำเร็จ
มีสิ่งยั่วยุแล้วเราห้ามใจได้ รู้สึกแบบสบายๆ ไม่เอาเรื่องผิด ไม่เอาเรื่องบาป
แล้วใจมันสว่างขึ้นมาทันที ปลอดโปร่งทันที
รู้สึกว่าพ้นจากวงจรแห่งการเบียดเบียนออกมาได้ห่างไกล
แบบนั้นเนี่ยเป็นลักษณะของการปรุงแต่งทางจิต
ที่เกื้อกูลให้เกิดสมาธิได้ง่ายทั้งสิ้นนะครับ

 

……………………………………………………………………

 

ถาม (๓) – ดิฉันฝึกสมาธิมานานแล้วแต่ยังไม่เคยพบว่าเกิดปีติเลย
อยากทราบว่าปีติคืออะไร และทุกคนที่ทำสมาธิจะต้องเกิดปีติหรือเปล่าคะ


ตอบ (๓) - เอาง่ายๆ นะครับ ปีติคือความรู้สึกเหมือนตอนที่คุณดีใจ
ตอนที่คุณดีใจมากๆ นั่นน่ะคือปีติ
แล้วอาการของจิตมันจะมีอาการเหมือนกับคล้ายๆ น้ำพุที่ฉีดซ่าน
ลักษณะที่ปีติแบบเยือกเย็น มันก็จะทำให้เกิดความสงบ สงบจากความฟุ้งซ่าน
แต่ว่ามาตื่นเต้นกับความสุขที่มันเกิดขึ้นแทน

อันนี้ก็เอาเป็นว่าถ้าเราทำสมาธิมาแบบถูกต้อง
แล้วก็แบบที่พระพุทธเจ้าสอนจริงๆ
ปีติเกิดขึ้นไม่ยากเลย
แค่มันปลดล็อกความยึดมั่นถือมั่นได้
จิตเปิด จิตสบาย จิตวางจากอาการยึดมั่นถือมั่นภาวะทางกายใจได้
แค่นี้มันก็เกิดความเบา เกิดความรู้สึกผ่องแผ้ว เกิดความรู้สึกว่าจิตมันขยายออกไป
เนี่ยปีติมันมาพร้อมกับลักษณะของจิตที่ขยายกว้างออกไปนี่แหละ


สำหรับท่านที่อยากจะเอาวิธีแบบง่ายๆ ลัดๆ ลองเข้าไป
นี่ไม่ได้แนะนำมานานแล้ว ก็เอามาแนะนำนิดหนึ่ง
เผื่อคนที่อาจจะยังไม่เคยเห็นนะครับ แล้วก็เพิ่งเข้ามาในช่วงหลัง
www.เสียงสติ.com มีทุกอย่างอยู่นั่น ครบเลยนะครับ
ที่เราจะเริ่มอย่างไรให้มันง่ายๆ สำหรับคนทั่วไป
แล้วก็จะอาศัยเครื่องช่วย เทคโนโลยีทางเสียงเนี่ย
มาทำให้เกิดสมาธิแบบที่มันมีความสงบ คลื่นสมองช้าลงได้
แบบที่มันไม่ต้องใช้ความพยายามมาก มือใหม่สามารถทำได้
ก็ลองเข้าไปดูนะครับ
www.เสียงสติ.com