Print

ดังตฤณวิสัชชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๔๒๘

 

dungtrin_cover

dungtrin_gru2a

 ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ ฉบับที่ ๔๒๘

เมษายน ๒๔๖๖

 

จิตถือกำเนิดขึ้นได้อย่างไร

 

ถาม – จิตที่เกิดดับตลอดเวลา จริงๆ แล้วมีต้นกำเนิดจากแหล่งไหนครับ

ตอบ - ตรงนี้พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าเงื่อนต้นเงื่อนปลายมันไม่มี สังสารวัฏเนี่ย
พอเราขยายสเกล (
scale) ออกไป
เหมือนกับดวงดาว ตอนแรกเราจะเห็นว่ามีดวงดาวอยู่ใกล้เราดวงหนึ่งแน่ๆ
แต่พอขยายขอบเขตออกไปเป็นกาแล็กซี
(galaxy)
มีแสนล้านดวงในหนึ่งกาแล็กซีนะ
แล้วเสร็จแล้วในจักรวาล มีอยู่ตอนนี้สองล้านกว่า

เฉพาะที่ค้นพบสองล้านกว่ากาแล็กซี
มันกลายเป็นแบบว่าดวงดาวมันเป็นคลาวด์ (
cloud) เป็นกลุ่มเมฆหมอก
มันนับเป็นดวงๆ ไม่ได้ มันต้องบอกว่าเป็นอนันต์

ทีนี้จำนวนการเกิดตายในสังสารวัฏก็เป็นอนันต์แบบนั้นแหละ
มันเป็นอนันตชาติ มันหาไม่เจอนะ

แม้แต่พระสัพพัญญุตญาณ พระสัพพัญญุตญาณคือรู้ทุกอย่างจริงๆ
แล้วพอเอาสัพพัญญุตญาณของพระพุทธเจ้าเล็งไป
ถ้าอะไรไม่มีให้เห็นแปลว่ามันไม่มี
ท่านตรัสว่าสังสารวัฏไม่มีเงื่อนต้น ไม่มีชาติแรก
เพราะอะไร เพราะว่าการที่จะเกิดขึ้นมาเป็นอะไรอย่างหนึ่งได้
ต้องมีการสั่งสมบุญบาป เพื่อให้กลายเป็นความเป็นอย่างนั้น
อย่างเป็นมนุษย์ ต้องมีบุญมากกว่าบาป
ถ้ามีชาติแรกโดยที่ไม่ต้องอาศัยบุญบาป
อย่างนี้ปฏิจจสมุปบาทไม่เป็นความจริงเลยนะ
เสร็จแล้วพระพุทธเจ้าก็เลยตรัสว่า เพื่อที่จะเอาเงื่อนต้นจริงๆ
อย่าเอาชาติแรก ท่านให้เอาที่อวิชชา

อวิชชาเนี่ยมาก่อน เป็นหัวหน้านำมา
พอมีอวิชชา มีความไม่รู้ในแต่ละชาติ
ก็เกิดการสะสมบุญบาปในแต่ละชาติ
พอจะสิ้นชาติภพในแต่ละครั้ง ตัวกองบุญกองบาปก็จะมางัดข้อกัน
กองบุญชนะ มันก็จะบันดาลจิตแรกในภพใหม่
หรือที่เรียกว่าปฏิสนธิวิญญาณขึ้นมา
ถ้าไม่มีกองบุญกองบาป ปฏิสนธิวิญญาณในภพต่อไปไม่มีทางเกิดขึ้นได้
ปฏิสนธิวิญญาณเกิดขึ้นแล้ว มันหมายความว่าอย่างไร
คือเป็นภวังคจิต เข้าไปอยู่ในท้องคนบ้าง
เข้าไปผุดเกิดเป็นสัตว์นรกเต็มตัวเลยบ้าง
ไปผุดเกิดเป็นเทวดาเต็มตัวเลยบ้าง

แล้วเสร็จแล้วพอมีจิตประจำภพแล้ว ชัวร์ๆ แล้ว
ก็ถึงได้มีจิตหรือว่าวิญญาณขันธ์
ที่ไปรู้ภาพ รู้เสียง รู้กลิ่น รู้รส รู้ผัสสะทางกาย
จะเป็นกายมนุษย์หยาบๆ หรือกายทิพย์ของเทวดาก็ตาม
หรือกายแบบสัตว์นรกก็ตาม
หรือว่าไปรู้ความคิด รู้ธรรมารมณ์ สภาพอันมากระทบใจ
อย่างนี้มันก็เกิดขึ้นเป็นเหตุปัจจัย ไหลเป็นสายน้ำต่อเนื่อง

เพราะฉะนั้นคือวิญญาณเกิดมาจากกองบุญกองบาป
กองบุญกองบาปสะสมได้เพราะว่าจิตยังมีอวิชชาอยู่
สะสมกองบุญกองบาปได้ในแต่ละชาตินะ
อันนี้เป็นธรรมชาติ เป็นการอิงอาศัยให้เกิดขึ้นพร้อมกัน
ไม่ใช่ว่ามีหนึ่ง สอง สาม เรียงลำดับมา แต่มันเกิดขึ้นพร้อมกันทีเดียว

นี่แหละที่เรียกว่าปฏิจจสมุปบาท หรือว่าอตัมมยตานะครับ