Print

ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๔๑๘

 

dungtrin_cover

dungtrin_gru2a

 ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ ฉบับที่ ๔๑๘

ธันวาคม ๒๕๖๕

 

การสวดบทโพชฌังคปริตรมีที่มาอย่างไร

ถาม (๑) – การสวดบทโพชฌงคปริตร
เพื่อปัดเป่าอาการอาพาธของพระภิกษุสงฆ์ มีที่มาอย่างไรคะ

 

ตอบ (๑) - ในสมัยพุทธกาล มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทรงประชวรหนัก
ท่านก็ให้พระอรหันต์ด้วยกันมาสวดโพชฌงค์
เพราะว่าโพชฌงค์นี่ก็เป็นองค์ธรรมที่สูงที่สุด
เพราะสามารถยกปุถุชนขึ้นเป็นอริยบุคคลได้
ทีนี้พอมาสวดด้วยความเข้าใจแบบพระอรหันต์
ความเข้าถึงแล้วแบบพระอรหันต์
ธรรมชาติที่สว่างอย่างใหญ่อยู่แล้วของโพชฌงค์
ก็จะยิ่งมีพลังอย่างมาก แล้วก็สามารถที่จะขจัดปัดเป่าโรคภัยได้

คือนึกถึงพลังความสว่างระดับดวงอาทิตย์
แล้วคูณเข้าไปกว่านั้นเป็นร้อยเท่า
บางทีอาการประชวรของพระพุทธเจ้าอาจเกิดจากกายก็ได้
หรืออาจเกิดจากวิบากเก่า อันนี้เราไม่รู้นะ
แต่ว่าการที่เรามีพลังด้านสว่างอย่างใหญ่
ใหญ่หลวงขนาดที่ยิ่งกว่าพระอาทิตย์ทางธรรมเป็นร้อยๆ เท่า
ก็สามารถขจัดปัดเป่าให้พระพุทธเจ้าหายประชวรได้ในครั้งนั้น

 

ก็เลยกลายเป็นการจำสืบๆ กันมา
ว่าถ้าสวดโพชฌังคปริตรแล้วจะเป็นการปัดเป่าโรคภัย
ซึ่งบางคนก็ได้จริงๆ เพราะคนสวดอาจจะมีศีลมีธรรม
หรือว่าอาจจะมีบุญสัมพันธ์กับธรรมะบางอย่างนะครับ
แต่คุณไปวัดเป็นเปอร์เซ็นต์เถอะ
มันไม่ใช่ร้อยเปอร์เซ็นต์ที่สวดโพชฌังคปริตรแล้วจะหายป่วยหายไข้
มันจะมีเปอร์เซ็นต์ที่ผมก็ไม่รู้หรอก ไม่เคยไปทำ
แต่ว่าผมรับประกันว่ามันไม่ใช่ร้อยเปอร์เซ็นต์ที่สวดแล้วจะหาย

 

ต้องทำความเข้าใจด้วย
ว่า ณ จุดที่พระพุทธเจ้าท่านประชวร แล้วท่านหาย
เพราะว่าคนที่สวดโพชฌังคปริตรหรือว่าจาระไนธรรมอันเป็นองค์ตรัสรู้
ท่านเป็นพระอรหันต์ เป็นพระอรหันต์ใหญ่
ณ นาทีนี้จำไม่ได้ว่าเป็นท่านไหนที่สวด
แต่ว่าเป็นพระอรหันต์แน่นอนนะครับ
แล้วพระอรหันต์สวดกับปุถุชนสวดโพชฌังคปริตร
มันคนละเรื่องกันนะครับ พลังจะออกมาต่างกัน

...........................................................

 

ถาม (๒) – ช่วงนี้ดิฉันหลงไปกับการดูหนังฟังเพลง
ทำให้ลืมกายลืมใจ ฟุ้งซ่านมาก เลยอยากกลับมาปฏิบัติธรรมอีก
แล้วก็กลัวว่าตัวเองจะหยุดปฏิบัติอีกรอบ อยากขอคำแนะนำค่ะ

 

ตอบ (๒) - ก็ให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก่อนก็ได้
ทุกครั้งที่เรามาปฏิบัติ นึกได้แล้วกลับมาปฏิบัติ
มันก็คือมาเพิ่มกำลัง มาทำให้กำลังเพิ่มพูนขึ้น
แล้วพอกำลังเพิ่มพูนขึ้น มากขึ้นๆ มากขึ้นๆ
มันก็เกิดฉันทะ มีความพอใจที่จะทำให้มากขึ้นนานขึ้น
ขอให้ทำถูกทำตรงแล้วเกิดฉันทะ
เกิดความพอใจที่จะทำบ่อยๆ เถอะ
ในที่สุดคุณไม่ต้องไปพยายามละ มันละเอง ใจมันไม่เอาเอง

เพราะได้ที่หมายใหม่ ได้บ่อน้ำใหม่ที่มันใหญ่กว่าเดิม
แล้วน้ำอร่อยกว่าเดิม