ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๔๑๖

 ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ ฉบับที่ ๔๑๖

พฤศจิกายน ๒๕๖๕

ทำอย่างไรจึงจะหลับสนิทและตื่นนอนอย่างสดชื่น

ถาม – เวลาดิฉันนอนหลับ มักมีอาการเหมือนใจไหลไป ฝันไปเรื่อยๆ
ทำให้เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วอ่อนเพลียเพราะหลับไม่สนิท มีวิธีแก้ไขได้ไหมคะ

ตอบ – ที่ว่าพอหลับไปแล้วเหมือนหลับไม่สนิท
ใจมันไหลไป แล้วไม่สามารถควบคุมได้
ตื่นขึ้นมาเหมือนอ่อนเปลี้ยเพลียแรง
อันดับแรกที่ต้องที่ต้องทำความเข้าใจ
คือเราไปแก้ในขณะหลับไม่ได้
เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะไปแก้อาการไหลของจิต
ในขณะที่เรานอนไปแล้ว

ประการที่สอง คือต้องมีความเข้าใจ
ว่าที่เราหลับแล้วเกิดอาการแบบนั้น
ไม่ใช่อยู่ดีๆ มันเกิดขึ้น ต้องสาเหตุ
แล้วคุณลองสังเกตดูว่าก่อนนอน
สังเกตง่ายๆ ว่ามีอาการพร้อมจะคิดมากแค่ไหน
ถ้าหากว่าก่อนนอนหลับเรามีอาการวุ้งวิ้งๆ อยู่ในหัว
แล้วก็ไม่สามารถที่จะจับอะไรได้ติด
ไม่ว่าจะเป็นสภาพร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นลมหายใจ
ไม่ว่าจะเป็นคำบริกรรมอะไรต่างๆ
ใจมันพร้อมจะไหลไปก่อนที่จะหลับ

นั่นคือสาเหตุว่าจิตพอหลับไปแล้ว
ทำไมมันยังทำงานไม่หยุด ราวกับว่าไม่ได้พักเลย
สมองของคนสูบพลังงานไปจากร่างกาย ๒๐ เปอร์เซ็นต์
แล้วถ้าทั้งคืนสมองมันทำงานหนัก มันอาจจะสูบมากว่า ๒๐ เปอร์เซ็นต์ด้วย
พูดง่ายๆ ร่างกายเราดูเหมือนนอนอยู่ ดูเหมือนพักอยู่
แต่สมองของเรามันราวกับว่าเราอยู่ในท่าวิ่ง
หรืออยู่ในท่าเดิน หรืออยู่ในท่าทำงาน
ตรงนี้พอมีความเข้าใจอย่างนี้
ก็จะเห็นภาพว่าก่อนนอนสำคัญมาก
ถ้าหากจิตของเราสามารถที่จะตั้งอยู่ในที่ที่มีความสบาย
ตั้งอยู่ในที่ที่มันเป็นกุศล มีความสว่างมีความเบา
โอกาสที่หลับลงไปแล้วมันจะมีความเบาตามไปด้วยมันก็สูง

เพราะฉะนั้นคุณลองดู
ก่อนนอนถ้าพบว่าตัวเองใจไหลไปไหลมาเรื่องโน้นเรื่องนี้
พร้อมที่จะไปทางไหนก็ได้แล้วแต่ลมเพลมพัด
ให้ลองกำหนดดูว่าก่อนนอนเราจะสวดมนต์
สวดในแบบที่ไม่ใช่สวดขอพร
สวดในแบบที่ไม่ใช่สวดแบบนกแก้วนกขุนทอง
แต่เป็นสวดแบบเต็มปากเต็มคำ
อิติปิโส ภควา อรหํ สมฺมา
แล้วใจเปิดรับราวกับว่าเราถวายแก้วเสียงเป็นพุทธบูชา
ถ้าทำจนเกิดความเคยชิน จนเกิดความชำนาญ
ทุกคืนก่อนนอน สวดมนต์แบบเต็มปากเต็มคำ
แล้วจิตเปิดราวกับว่าจิตเป็นความสว่าง เป็นความศักดิ์สิทธิ์เสียเอง
ไม่ใช่เราเป็นฝ่ายบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว
แต่ความศักดิ์สิทธิ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นมาประดิษฐานในใจเรา
จนจิตของเรากลายเป็นความเบาความปีติความศักดิ์สิทธิ์เสียเอง

หลับลงไปมันจะสบายขึ้น แล้วตื่นขึ้นมาจะรู้สึกว่ามีกำลังวังชา
เพราะว่าอะไร เพราะว่าใจมันอยู่ในภาวะที่ไม่พร้อมไหลก่อนนอน
แล้วพอนอนหลับลงไปมันก็จะได้ที่ตั้ง
ถึงแม้ว่าจะไม่หยุดนิ่งเป็นสมาธิ ถึงแม้ว่าจะฝันอะไรบ้าง
แต่มันจะเป็นฝันที่มีรูปมีร่าง จับได้ว่าเป็นเรื่องเป็นราวอะไร
แล้วมักจะเป็นเรื่องในทางที่ดี
เพราะจิตก่อนนอนถ้าสว่างนะ มันจะปรุงแต่งให้ฝันสว่างตาม
หรือถึงแม้ว่าไม่สว่างเป็นกุศลเต็มที่ ก็จะสว่างเป็นสีสัน มีความชัดเจน
ไม่ใช่ว่าเป็นภาพอะไรเลอะๆ เลือนๆ แบบไม่มีรูปไม่มีร่าง
คนส่วนใหญ่จะบอกว่าตัวเองไม่ฝัน
แต่จริงๆ จิตอยู่ในภาวะหลับแล้วเห็นอะไรเลอะๆ เลือนๆ ต่างหากนะ