Print

ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๔๐๘

 

dungtrin_cover

dungtrin_gru2a

 ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ ฉบับที่ ๔๐๘

กรกฎาคม ๒๕๖๕

 

จะมีวิธีไล่แมลงที่มารบกวนต้นไม้โดยไม่บาปได้อย่างไร



ถาม (๑) – ที่บ้านของดิฉันปลูกต้นไม้ชนิดต่างๆ เป็นจำนวนมาก
แล้วก็มีแมลงมารบกวน โดยเฉพาะต้นไม้ที่ออกผล
จึงจำเป็นต้องพ่นยาฆ่าแมลงเพราะบ้านอื่นเขาใช้กันหมด
ไม่อย่างนั้นแมลงก็จะมารุมที่บ้านของดิฉันอยู่บ้านเดียว
ดิฉันพยายามคิดว่าไม่ได้ต้องการฆ่าแมลง แต่ทำเพื่อไล่แมลงเท่านั้น
ไม่ทราบว่าควรจะตั้งจิตอย่างไรจึงจะไม่เป็นบาปคะ

 

ตอบ แค่การที่เราไม่คิดฆ่ามัน
ก็เท่ากับเราไม่ได้ก่อกรรมครบวงจรเป็นปาณาติบาตแล้ว
อันนี้ฟังดีๆ ฟังให้เข้าใจนะ
มันขึ้นอยู่กับการรับรู้ตั้งต้นของเราขึ้นมา
ว่าสิ่งที่เราฉีดลงไปมันจะฆ่าหรือว่าไล่กันแน่
ตัวรับรู้เป็นตัวแรกที่จะตัดสินว่ากรรมของเรามันจะเป็นไปในทางไหน


แต่ถ้าหากว่าเราคิด เราตั้งอยู่ในใจว่า เออ ขอให้ไปๆ เถอะ
การฉีดยาครั้งนั้นของเรา มันก็จะเหมือนกับ เข้าข่ายกตัตตากรรม
หมายความว่าเราไม่ได้ตั้งใจให้มันตาย
แต่มันรู้อยู่ครึ่งๆ ว่าอย่างไรมันก็คงไม่รอด
หรือว่าเราอาจจะเผื่อใจไว้
ว่าถ้าหากเราหาวิธีที่จะป้องกันหรือว่าขับไล่ได้จริงๆ
เราจะใช้วิธีนั้น เราจะไม่ใช้วิธีทำให้มันตาย
ตัวกำลังใจที่คิดจะจัดการกับแมลงจริงๆ มันจะเป็นตัวกำหนดทิศทาง
ว่าเราจะเป็นผู้ทำบาปโดยมากหรือว่าไม่ได้ทำบาป

 

การที่ใจจะเป็นบาปจริงๆ ก็คือมีความยินดี
มีความคิดตั้งไว้เลยว่าจะให้มันเป็นอย่างนั้น
แต่ถ้าหากว่าเราไม่ได้คิดให้มันเป็นอย่างนั้น แต่ต้องฝืนทำ
อย่างนั้นเรียกว่า กตัตตากรรม
กตัตตากรรมเป็นกรรมที่เมื่อไม่ได้ทำด้วยความตั้งใจไว้อย่างนั้นแล้ว
ก็จะมีความเบาเพราะว่ากำลังใจอ่อน
เวลาผลมันถึงเวลาเผล็ดผลจะไม่ออกมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย
สมมติว่าเราออกแรงไปสิบ ออกแรงไปสิบในแบบที่เป็นกตัตตากรรม
เวลาผลเหวี่ยงกลับมา มันจะกลับมาสักห้าหรือว่าสี่
ไม่เท่ากับที่แรงที่เราทำลงไป

 

แต่ถ้าหากว่าเราตั้งใจอะไรเต็มเหนี่ยวเลย มีความยินดีเต็มที่เลย
สมมติทำเข้าไปสิบ มันก็ได้กลับมาสิบหรือมากกว่าสิบ
อันนี้เป็นหลักการทางธรรมชาติของกรรมวิบาก
ที่พุทธศาสนาเราเปิดเผยไว้
ไม่ใช่มีใครไปตั้งกฎอย่างนี้ไว้ตามอำเภอใจ
แต่เป็นสิ่งที่มันเกิดขึ้นตามธรรมชาติของจิต ตามธรรมชาติของกรรมนะครับ

 

ถาม (๒) – ที่ผ่านมาดิฉันหาข้อมูลว่าจะมีวิธีไล่แมลงโดยไม่ต้องใช้ยาบ้างไหม
แล้วก็นึกขอให้พวกแมลงไปจากต้นไม้ในบ้าน แต่แมลงก็ยังมาอยู่เรื่อยๆ
พอต้องไล่ด้วยการพ่นยาก็ยังกลัวบาปอยู่ค่ะ

 

ตอบ - เอาเป็นว่ากรณีของคุณมันแค่ครึ่งๆ
มันไม่ได้เป็นการตั้งใจฆ่า มันเป็นการตั้งใจไล่
แต่บังเอิญว่าในการรับรู้ของเรา
เรารู้ว่าถึงแม้จะตั้งใจไล่ มันก็มีสิทธิ์ที่จะไม่รอด
เพราะว่าแม้กระทั่งพระนะ เวลาที่ท่านกวาดลานวัด
ท่านก็กังวลใจกันตอนแรกๆ
โดยเฉพาะพวกพระนวกะ จะคอยถามครูบาอาจารย์
เนี่ยเห็นชัดๆ เลยกวาดใบไม้ไป มดมันจะต้องตาย
ตัวสัตว์อะไรที่มันเล็กๆ เห็นกับตาเลยว่ากวาดไปมันก็โดนไปด้วย
แล้วก็บางทีมันอาจจะไม่รอดอย่างนั้นนะ

อันนี้เป็นพระป่าครูบาอาจารย์เลยนะ
ที่ท่านสั่งสอนลูกศิษย์ท่าน ท่านบอกว่าอย่าไปกังวล
อย่าไปมองว่าตรงนั้นมันเป็นการฆ่า
เพราะเราไม่ได้ตั้งใจจะฆ่า เราตั้งใจจะกวาดลานวัด
นี่คือคำตอบของท่าน

 

แม้แต่ในพระวินัย พระพุทธเจ้าท่านก็บัญญัติไว้นะ
ห้ามไม่ให้มีหยากไย่ใยแมงมุม นั่นหมายความว่าอะไร
หมายความว่าเราจะต้องทำให้หยากไย่ใยแมงมุม
ซึ่งแมงมุมถักมันทอขึ้นมามันหายไป คงเข้าใจนะ