ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๓๗๗

 ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ ฉบับที่ ๓๗๗

พฤษภาคม ๒๕๖๔ 

ถ้าเคยทำอกุศลกรรมทางใจไว้หนักมาก จะได้รับผลกรรมอย่างไร
ถาม – ถ้าเราเคยทำกรรมทางด้านมโนกรรมไว้หนักมาก จะได้รับผลกรรมอย่างไรคะ

ตอบ - มโนกรรม พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นกรรมที่หนักที่สุดนะ
หนักกว่าวาจา หนักกว่าทางกาย
กายกรรม วจีกรรม สู้มโนกรรมไม่ได้เลย
เพราะว่าคนเราเนี่ยคิดก่อนถึงได้พูด คิดก่อนถึงได้ทำ
แล้วพระพุทธเจ้ายังมียกตัวอย่างอีกเยอะเลยว่า
อย่างคนเนี่ยถ้าใช้มือเปล่าๆ มันไม่สามารถที่จะไปเผาเมืองได้
แต่ถ้าเป็นฤาษีที่สำเร็จอภิญญาชั้นสูง ได้สำเร็จกสิณไฟ
สามารถเผาเมืองได้ทั้งเมืองในพริบตาเดียวด้วยใจของตัวเอง
พระพุทธเจ้ายกเอาความจริงทั้งหลายเกี่ยวกับเรื่องของมโนกรรมมา
จึงได้สรุปว่ามโนกรรมมันมีผลรุนแรงที่สุด ใหญ่ที่สุด
มันใหญ่เหนือวจีกรรม แล้วก็ใหญ่เหนือกายกรรม

ทีนี้ถามว่ามโนกรรมมันมีอะไรได้บ้าง
คุณถามอย่างเดียวว่าทำกรรมหนัก ทำบาปทำกรรมทางมโนกรรมมา
แต่ไม่เจาะจงว่ามันเป็นเรื่องอะไร นึกคิดเกี่ยวกับอะไร
ก็ตอบได้ยากนะครับ
เพราะมโนกรรมมันเป็นไปได้ทั้งนั้น เป็นไปได้สารพัด
แต่ผมให้หลักเกณฑ์กว้างๆ ไว้อย่างนี้
มโนกรรม คือ เราจะคิดร้าย จะคิดไม่ดี จะคิดลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์
หรือว่าจะคิดอะไรที่มันแย่ หนักหนาสาหัสแค่ไหนก็ตาม
ตราบเท่าที่มันยังไม่ออกไปทางวจีกรรม ไม่ออกไปทางกายกรรม
มันก็ยังไม่ผิดศีลนะ

แล้วก็ตัวมโนกรรม มันก็คือใจของเรา
ถ้าเราเปลี่ยนใจ ก็คือเปลี่ยนมโนกรรม
จากใจที่มืดบอด จากใจที่ดำนะ
ถ้าทำให้มันเป็นใจสว่าง
ทำให้ใจที่เหมือนกับเป็นดวงกุศล ดวงแก้วที่ใสขึ้นมาได้
ตัวนี้ ถ้าเราทำได้ก่อนตายนะ ก็ไม่ต้องกังวลอะไรมาก

อย่างพระพุทธเจ้าท่านเคยตรัสไว้นะ
ว่าคนคิดไม่ดีกับท่าน คนคิดว่าท่านคิดเอาเอง พูดมั่วอะไรอย่างนี้
แบบนี้ แค่คิดแบบนี้นะ แล้วไปเหมือนกับปักใจเชื่อ แค่นี้ลงอบายได้นะ
แต่พระพุทธเจ้าตรัสด้วยว่าถ้าเปลี่ยนใจก่อนตาย
คือถ้ามาคิดใหม่ได้ ก็ไม่ต้องไป อย่างนี้นะ
แสดงให้เห็นว่า พระพุทธเจ้าตรัสไว้นะ
ถ้าเราเปลี่ยนใจได้ มันก็ไม่ต้องไปรับผลของมโนกรรมที่เราเคยทำไว้
เปลี่ยนใจตัวเอง ยกระดับใจตัวเองให้สูงขึ้น ให้ดีขึ้น ให้สว่างขึ้น
คิดแค่นั้นพอไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะได้รับผลอย่างไรนะ