Print

ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๓๖๙

dungtrin_cover

dungtrin_gru2a

 ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ ฉบับที่ ๓๖๙

มกราคม ๒๕๖๔ 

 

ทำอย่างไรจึงจะไม่ติดสุขในทางโลก

ถาม (๑) – ถ้าเรามีความสุขดีในทางโลกอยู่แล้ว
เราควรมีวิธีคิดอย่างไรให้มีความก้าวหน้าในทางธรรมคะ
 

ตอบ - มันไม่ใช่คิด แต่ต้องตั้งมุมมองแล้วก็เจริญสตินะ
เอาแบบที่พระพุทธเจ้าสอนชัดๆ เนี่ย ก็คือเราเฝ้าดูอยู่เรื่อยๆ
ขณะนี้นะเรากำลังหายใจอยู่ในท่านั่งหรือท่าเดิน
ถ้าหากว่าหายใจแล้วรู้ว่าอยู่ในท่าไหน
แล้วก็ท่านั้นมันมีความอึดอัดหรือมีความสบาย

เนี่ยตัวนี้เขาเรียกว่ารู้จริงเข้ามาในปัจจุบัน ไม่ใช่คิดนะ
 

แล้วยิ่งเรารู้จริงเข้ามาในปัจจุบันมากขึ้นเท่าไหร่
ในความเป็นกาย ในความเป็นใจนี้ ที่ไม่เที่ยงไม่ใช่ตัวตน
เนี่ยมันก็จะก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ
ความต่อเนื่องคือความก้าวหน้านะครับ
มันไม่ใช่การคิด ไม่ใช่การยกระดับจิตด้วยวิธีคิด
แต่เป็นการยกระดับจิตด้วยการเจริญสติ

ทำให้ต่อเนื่อง แล้วก็เห็นให้ได้จริง
 

แบบนี้มันจะไม่ติดสุขแน่นอน
เพราะมันจะเห็นนะว่าแม้ความสุข แม้ความสบาย มันเกิดขึ้นแป๊บๆ
เดี๋ยวมันก็ต้องเปลี่ยนไป กลายเป็นความทุกข์ กลายเป็นความอึดอัด
กลายเป็นความฟุ้งซ่าน กลายเป็นความหดหู่ซึมเซา

 

.......................................................................................................

 

ถาม (๒) – หลังจากสวดมนต์หรือในขณะที่จิตกำลังมีปีติมาก
ควรอธิษฐานอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ตอบ - ถ้าจะอธิษฐาน อธิษฐานไปว่าด้วยจิตที่เป็นกุศลนี้
ขอให้เป็นที่ตั้งของกุศลอื่นๆ ที่จะตามมา

ขอให้จิตที่มันถูกแน่ๆ เพราะว่ามีความสว่าง มีความเป็นกุศล ถูกแน่นอนเนี่ย
จิตที่ถูกแบบนี้จงเป็นที่ตั้งของชีวิต ขับไล่จิตที่ผิดที่มันจะเกิดขึ้น
ไม่ว่า ณ เวลาไหน โอกาสใด กับบุคลใดนะ หรือกลุ่มใดก็ตามเนี่ย
ขอให้จิตที่เป็นกุศลแบบนี้มากลายเป็นหลัก
มากลายเป็นที่ตั้ง มากลายเป็นฐานที่มั่น เป็นชัยภูมิใหม่ของชีวิต
 

ถ้าหากว่าเราเติมความสว่างแบบนี้เข้าไปทุกวัน
ด้วยการสวดแบบนี้ ไม่ลืมนะครับ
คุณก็จะมีความรู้สึกว่าจิตที่สว่างนี้มีความตั้งมั่นมากขึ้นเรื่อยๆ นะ
แล้วก็ชีวิตเนี่ยมันใหม่เองโดยไม่ต้องขอนะ มันใหม่เองให้เห็นเลย
ณ เวลาที่เราสามารถจะมามีจิตแบบนี้ได้ทุกวันนะครับ