ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๓๖๒

 ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ ฉบับที่ ๓๖๒

ตุลาคม ๒๕๖๓ 

ควรทำบุญอย่างไรเพื่อให้บุพการีที่ล่วงลับไปแล้วได้ไปสู่สุคติ

ถาม –  ถ้าเราร้องไห้ข้างศพบุพการีที่เพิ่งเสียชีวิต
จะทำให้ท่านต้องจะไปอบายภูมิไหม
แล้วควรทำบุญอย่างไรเพื่อที่จะส่งท่านให้ไปสู่สุคติคะ

ตอบ - อันนี้ถามกันเยอะมากเลยนะ ว่าจะส่งคนตายอย่างไรนะครับ
คือเอาแบบรวบรัดก็คือว่า
ถ้าคนตายไปแล้วเนี่ย เอาแน่เอานอนไม่ได้นะ
เพราะว่ากรรมที่นำไปเกิดใหม่ของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ
ถ้านำไปเกิดในที่ที่ไม่สามารถรับรู้นะ
ถึงการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลของเราไปได้
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าไปเกิดเป็น สมมติ ยกตัวอย่างดีที่สุดนะ
สมมติท่านเป็นพระอรหันต์ อันนี้ก็อุทิศส่วนกุศลอะไรไปนี่ ไม่มีประโยชน์นะ
คือได้ประโยชน์เฉพาะเรา แต่ว่าไม่มีตัวท่าน
ไม่มีการเกิดใหม่ในภพใหม่เนี่ยมารับบุญรับกุศลอะไรได้อีกแล้ว
หรือถ้าหากว่าไปอยู่ในท้องสัตว์เดรัจฉานหรือไปอยู่ในภพของสัตว์นรกนะ
พวกนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมีอายตนะ
ในแบบที่มารับรู้การอุทิศส่วนกุศลอะไรแบบจิตแบบธรรมดาได้นะ

ที่จะมีความเป็นไปได้ก็พวกเปรต แล้วก็เทวดา
เปรตที่มีความจำได้ว่าเป็นญาติกับใครนะ
แล้วก็จะปรากฏตัวที่ไหนถึงจะเจอญาติเก่านะ
แล้วก็รับส่วนบุญส่วนกุศลนะ พวกนี้ก็มีสิทธิ์
กับพวกเทวดา พวกนี้ก็ไม่ได้อยากได้ส่วนบุญส่วนกุศลนะ
แต่จะปลื้มเวลาที่เห็นญาติเก่าๆ เนี่ยทำบุญอุทิศส่วนกุศลมาให้ตัวเองนะ
มันรู้สึกดี คือมันไม่ได้ได้บุญเพิ่มหรอก
ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงอะไรทางจิตนะ
เพราะจิตดีกว่าอยู่แล้ว เป็นทิพย์อยู่แล้ว แต่จะรู้สึกดี
เหมือนกับเราอยู่ใกล้กับใคร แค่หยิบน้ำให้เนี่ย ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้น
แต่รู้สึกดีขึ้นที่ญาติหรือว่าคนใกล้ตัวเนี่ยให้ความเอาใจใส่
ยังมีความผูกพันทางใจกัน อะไรแบบนี้นะครับ

สรุปแล้วนะ คือเรื่องแล้วไปแล้วเนี่ย แล้วท่านไปแล้วเนี่ย
เอาเป็นว่าเราพยายามที่จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลด้วยความรู้สึกดีๆ ให้ท่าน
ตามธรรมเนียมที่ชาวพุทธไทยเราเนี่ยนะได้ปฏิบัติกับผู้ล่วงลับไปแล้ว
เป็นการแสดงออกถึงความผูกพันที่ยังคงอยู่นะครับ
แล้วก็ตัวเราเองเนี่ยก็จะได้รู้สึกว่าทำหน้าที่ลูก
แม้วาระสุดท้ายผ่านไปแล้ว เราก็ยังอยากจะเป็นลูกที่ดีอยู่
ผลบุญผลกุศลเนี่ยที่ได้แน่ๆ ก็คือเราเองนะครับที่มีความผูกพันในเชิงบวก
ในเชิงที่เป็นกุศลมหากุศลกับผู้ล่วงลับไปแล้วนะ
ส่วนท่านจะได้หรือไม่ได้เนี่ย ขึ้นกับว่าท่านไปเกิดที่ไหนนะครับ