Print

ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๓๕๖

dungtrin_cover

dungtrin_gru2a

 ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ ฉบับที่ ๓๕๖

กรกฎาคม ๒๕๖๓ 

 


ถ้าคิดว่าจะพยายามลืมเรื่องร้ายต่างๆ ไปให้หมด จะทำให้กลายเป็นคนขี้ลืมไหม

ถาม – ที่ผ่านมาดิฉันไม่ใช่คนขี้ลืม แต่เมื่อเกิดเรื่องสะเทือนใจอย่างหนักหลายครั้ง
จึงบอกใจตัวเองใหม่ว่าไม่ว่าจะพบเจอเรื่องราวใดๆ ก็จะพยายามลืมไปให้หมดทุกเรื่อง
หลังจากที่คิดแบบนี้ ก็พบว่าตัวเองกลายเป็นคนขี้ลืมไปแล้วจริงๆ นึกอะไรไม่ค่อยออก
อยากทราบว่าการที่คิดว่าจะลืมเรื่องต่างๆ ไปให้หมดแบบนี้ผิดไหมคะ

ตอบ – มันก็เป็นไปได้จริงนะ คือจิตของเรามีอำนาจ
พอเราเจอเรื่องอะไรที่ทุกข์แรงๆ
ใจมันแบบว่าอยากจะผลักความทุกข์นั้นออกไปมากๆ
มันใช้วิธีแบบว่าเหมือนว่ากดความจำไว้

เนี่ยอย่างอันนี้แบบรู้จักตัวเลยนะ คือเหมือนกับว่าก็มีอายุแล้ว
แล้วเสร็จแล้วเนี่ยมีความทุกข์จากลูก ลูกมี ๔-๕ คน
มีอยู่คนหนึ่งที่ทำให้เกิดความทุกข์มาก ทุกข์แรงมาก
ทุกข์แบบว่าเหมือนกับจะเอาค้อนมาทุบหัวใจ
หรือว่าเอาคีมมาบีบหัวใจนะ ทุกข์แบบขนาดนั้นเลย
ทุกข์มาเป็นสิบๆ ปี หลายสิบปี
ทุกข์แบบเหมือนกับรู้สึกว่ากำลังจะดับดิ้น กำลังจะเป็นจะตายเนี่ย
ผ่านความทุกข์แบบนั้นมาหลายครั้ง

จนถึงจุดหนึ่ง ทะเลาะกันครั้งสุดท้ายกับลูกคนนี้
วันต่อมา ลืม คือลืมแบบลืมจริงๆ นะว่าเคยมีลูกคนนี้
ลูกคนอื่นจำได้หมด เหตุการณ์อะไรอย่างอื่นจำได้หมด
นี่ก็คือการทำงานของสมองแบบหนึ่ง
ที่พยายามจะหนีภาวะที่เจ็บปวดรุนแรง แล้วก็ทนไม่ได้
ซึ่งทางจิตวิทยาเนี่ยก็ทราบมานานแล้วว่ามีโรคความจำเสื่อมชนิดนี้จริงๆ
อย่างเช่น อย่างเวลาที่เห็นบุคคลอันเป็นที่รักประสบอุบัติเหตุต่อหน้าต่อตา
บางคนเนี่ยคือกลายเป็นความจำเสื่อมไปเลยนะ
คือไม่ใช่จำไม่ได้เฉพาะบุคคลอันเป็นที่รักที่ตายไป
แต่ลืมหมดเลยว่าตัวเองเป็นใคร อย่างนี้มีนะ

อันนี้เป็นวิธีที่เราหลบความทุกข์สาหัสที่เกิดขึ้น
แล้วถ้าอธิบายแบบในเชิงวิทยาศาสตร์เนี่ย เขาบอกว่าสมองมันกลัวพัง
มันก็เลยสับสวิตช์ (
switch) ไปสู่ฟังก์ชั่น (function) อื่น
หรือว่าหาฟังก์ชันอื่นเนี่ยมากลบทับฟังก์ชันเดิม
ที่มันจะยังสามารถรับรู้อะไรแบบเดิมๆ ได้เนี่ย
กลบทับไปเลย มันจะได้ไม่ต้องเสียหาย สมองจะได้ไม่ต้องเป็นอันตราย
อันนี้เป็นคำอธิบายแบบนักวิทยาศาสตร์
แต่จริงๆ เนี่ยมันไม่ใช่แบบนั้นหรอก
คือมันไม่ใช่ว่าสมองมันเก่ง ฉลาดเองขนาดนั้นนะ
มันเป็นกลไกการทำงานของจิตมาก่อน

จิตเนี่ยถ้าหากว่ามันมีกำลังมากๆ นะ
มีกำลังอันเกิดจากความอัดอั้นของก้อนทุกข์ ก้อนร้อนหนักๆ เนี่ย
มันสามารถที่จะโปรแกรมตัวเองนะ
ให้ตัดอะไรบางอย่างทิ้งออกจากใจ ภาพอะไรบางอย่างนะ
ซึ่งอันนี้สมองก็จะรับลูก สวิตช์การทำงาน
ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้ มันต้องเกิดภาวะที่เข้าล็อกตรงนั้นจริงๆ เนี่ย
สมองมันเปลี่ยนฟังก์ชันได้เลยนะ จากเดิมที่รับรู้อะไรได้เป็นปกติเนี่ย
สวิตช์อีกฟังก์ชันหนึ่ง แบบพื้นที่นั้นถูกปิดไปเลยนะ
อันนี้ก็เป็นเรื่องธรรมชาติ ความสัมพันธ์ของจิตกับกาย