Print

ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๓๕๕

dungtrin_cover

dungtrin_gru2a

 ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ ฉบับที่ ๓๕๕

กรกฎาคม ๒๕๖๓ 

 

ลูกจะต้องทำตามที่พ่อแม่ขอทุกอย่างหรือไม่

ถาม – หากพ่อแม่ขอให้เราทำสิ่งใดๆ เราต้องทำตามทุกอย่างไหมคะ
แล้วถ้าไม่ตามใจท่านในบางเรื่องเพราะเราเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
แบบนี้คนที่เป็นลูกจะบาปหรือเปล่าคะ

ตอบ – อันนี้ก็เป็นคำถามสำคัญนะ
คือบอกว่าเราจะต้องทำตามทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อแม่ขอหรือเปล่านะ
เพราะบางอย่างเนี่ย คือมันให้ไม่ได้จริงๆ หรือมันฝืนใจเหลือเกินนะ
อันนี้คือก็ต้องมาดูนะว่า
เรามองแบบสุดโต่งที่สุดก่อน บอกว่าถ้าพ่อแม่เป็นคนไม่ดี
แล้วบอกขอให้ไปฆ่าคน อย่างนี้นะ เราจะต้องทำไหม
คือมันเห็นอยู่นะ มีบางสิ่งบางอย่างเนี่ย
คือถ้าเราทำไปแล้วมันบาปที่ตัวเราเองด้วย
แล้วก็ช่วยทำให้พ่อแม่เนี่ยได้ก่อบาปสำเร็จด้วยนะ
คือบาปสองเด้งเลยนะ ตัวเองเนี่ยทำสำเร็จด้วย
แล้วก็ส่งเสริมให้พ่อแม่เนี่ยได้ทำบาปทำกรรมสำเร็จไปด้วยนะ

แบบนี้ไม่ดีแน่ เพราะฉะนั้นเรายึดแค่ตัวนี้เป็นโมเดลเนี่ย
เราก็สามารถบอกได้แล้วว่าเราไม่จำเป็นต้องทำตามที่พ่อแม่ขอทุกอย่าง
การทำตามที่พ่อแม่ขอทุกอย่าง
ไม่ได้เป็นเครื่องหมายของการแสดงความกตัญญูกตเวทีเสมอไป

เหมือนอย่างที่บอกน่ะนะ ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดๆ เลย
บอกว่าถ้าเราสามารถเปลี่ยนพ่อแม่ที่เป็นมิจฉาทิฐิ
ให้กลายเป็นสัมมาทิฐิได้เนี่ย อันนี้เป็นบุญที่ประเสริฐที่สุด

แล้วลองคิดดูแล้วกันนะว่า
การเปลี่ยนพ่อแม่ที่เป็นมิจฉาทิฐิ ให้กลายเป็นสัมมาทิฐิ
หมายถึงจะต้องตามใจ หรือว่าเอาอกเอาใจทุกอย่างหรือเปล่า
ถ้าขืนเราตามใจทุกอย่าง เอาอกเอาใจทุกอย่าง
พวกท่านก็ยังเป็นมิจฉาทิฐิกันอยู่น่ะสิ
มันต้องมีเหมือนกับการให้สติบ้าง มันต้องมีการไม่ทำตามบ้าง
แต่ไม่ใช่ด้วยท่าทีแบบกระด้างกระเดื่อง
หรือว่าท่าทีของคนที่ฉันรู้ดีกว่าเธอ
หรือว่าฉันจะขอสั่งสอนเธอละ อะไรแบบนี้
คือต้องมีท่าทีแบบลูกที่พ่อแม่เนี่ยยอมฟังนะ


ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ยาก ผมเข้าใจนะ
บอก โอ๊ย
! เป็นลูกเนี่ยพ่อแม่ไม่มีทางเชื่อ ไม่มีทางฟังหรอก
จริงๆ แล้วเนี่ย ถ้าเรามองนะว่าชีวิตเนี่ยคือการสั่งสมบารมี
ถ้าหากว่าเรามีบารมีมากพอในทางใดทางหนึ่งเนี่ย
ก็สามารถนำมาบารมีนั้นเนี่ยไปทำให้พ่อแม่เกรงใจได้

คือไม่ใช่จะต้องเอาบารมีนั้นไปข่มนะ
แต่ว่าเอาบารมีนั้นไปให้ท่านเนี่ยเกรงใจพอที่จะฟัง
พอที่จะรู้สึกว่า เออ ถ้าเราไม่ทำตามเนี่ย เรามีจุดยืนของเรานะ
เรามีอะไรที่ทำให้จิตใจของพวกท่านเนี่ยเกิดความรู้สึกคร้ามเกรงขึ้นมานะ
พวกนี้เป็นเรื่องของศิลปะ
แล้วผมทราบ ผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องยาก แต่เป็นไปได้
อย่าตั้งไว้แค่ปีเดียวว่าปีนี้เราทำไม่ได้
แปลว่าทุกปีที่เหลือในชีวิตจะทำไม่ได้ต่อไป

คนเรายิ่งใช้ชีวิตไปนะบนเส้นทางที่ถูกต้องมากขึ้นเท่าไหร่
บารมีจะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
แล้วบารมีเนี่ยนะเป็นสิ่งเดียวที่จะเปลี่ยนใจคนได้

ถ้าเขาเคยไม่เชื่อ เห็นเราเป็นเด็กน้อยนะ
แต่ถ้าหากว่าเรามีความอดทน อดกลั้น ไม่ทำตัวเป็นเด็กๆ
ในที่สุดความรู้สึกเป็นเด็กๆ มันก็จะค่อยๆปรับ ค่อยๆ เปลี่ยน
ถ้าเราไม่ตามใจตะพึด ถ้าเรามีเหตุมีผลที่นุ่มนวลเสมอนะในการปฏิเสธ
ตรงนี้มันจะค่อยๆ เปลี่ยนความรู้สึกในใจว่า
แกเป็นลูกฉัน แกต้องทำตามที่ฉันต้องการ
แกต้องทำตามทุกอย่างเพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณฉัน
ความรู้สึกแบบนี้มันจะค่อยๆ เปลี่ยน ค่อยๆ ปรับนะ
อันนี้ลงรายละเอียดไม่ได้หรอกเพราะมันเยอะ

แต่ว่าขอบอกเป็นแนวทางนะครับว่า
คนเรายิ่งใช้ชีวิตบนเส้นทางที่ถูกต้องมากขึ้นเท่าไหร่
บารมีจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นในทางที่ถูกต้องนะ
เราก็อาศัยตรงนี้แหละเป็นตัวคาน คานอำนาจความรู้สึกแบบพ่อแบบแม่
ให้เกิดความเห็นใจเราขึ้นมาได้นะครับ