Print

ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๓๕๔

dungtrin_cover

dungtrin_gru2a

 ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ ฉบับที่ ๓๕๔

มิถุนายน ๒๕๖๓ 

 

ทำอย่างไรจึงจะเลิกอาฆาตต่อผู้ที่เคยทำร้ายเราได้

 

ถาม – ถ้าเราคิดพยาบาทคนที่ทำร้ายเรา
อยากให้เขาเสียใจและเจ็บปวดแบบที่เขาเคยทำกับเราบ้าง
แบบนี้ถือว่าเป็นมโนกรรมหรือไม่ และจะควรแก้อย่างไรดีคะ

ตอบ - เป็นมโนกรรมนะครับ
แล้วจะแก้อย่างไรดี ก็คือตั้งใจง่ายๆ เลยนะ
พอเกิดความคับแค้น เกิดความอยากจะเอาคืนนะ
ก็ให้ยอมรับตามจริงไปว่า อันนี้เกิดขึ้นด้วยแรงกระตุ้น
เป็นอกุศลจิตที่เกิดขึ้นแล้วนะ
อย่าไปพยายามลบล้าง อย่าไปพยายามดีลีท (
delete)
บอกว่าไม่เคยเกิดขึ้นกับใจเรา
แต่ให้ยอมรับตามจริงว่านี่แหละเป็นปฏิกิริยาทางใจของเรา
ที่เกิดขึ้นตอนถูกกระทำ

เมื่อยอมรับตามจริงแล้วนะครับ ก็ให้บอกตัวเองว่า
ความคิดแบบนี้แหละ ที่จะลากพากันไปสู่ความเดือดร้อนไม่มีที่สิ้นสุด

เราเล่นเขาคืน เขาก็เล่นเรากลับอีกนะ
เพราะฉะนั้นเราขอเป็นฝ่ายตัดวงจรที่จะต้องต่อเวรต่อกรรมกัน


เนี่ย อย่างถ้าเราจะมีแบบนี้อีกสักล้านคนเนี่ย
ลองคิดดูแล้วกัน ล้านชาติก็ไม่พอนะที่เราจะต้องมาชดใช้กับคนพวกนี้
เพราะฉะนั้นเราตัดไปได้คนหนึ่งเนี่ย
เราก็จะได้กำลัง ได้ตัวอย่าง ได้ความสามารถในการตัดกับคนต่อๆ ไปได้อีกนะ
ตัดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งในที่สุดเนี่ยเรารู้สึกว่าเราอยู่ห่างจากภัยจากเวรนะ
แล้วดูที่ใจของเราที่ว่างจากภัยเวรนั่นแหละว่านี่คือรางวัล
รางวัลที่แท้จริง ไม่ใช่ว่ามีใครมาหยิบยื่นให้
หรือเทวดาที่ไหนมาประทานของขวัญจากฟ้า
แต่ว่าเป็นใจของเราเองที่ตรงนี้นะ
ที่อยู่ติดตัวของเราเนี่ย ๒๔ ชั่วโมงเนี่ยนะครับ
เป็นความสบาย เป็นความไม่เดือดร้อน นี่เอารางวัลกันที่ตรงนี้นะ

 

คือบางทีเนี่ย การทำสมาธิ มันไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุนะครับ
หรือว่าอย่างฟังเสียงสติเนี่ย
บางทีมันก็อาจจะช่วยให้ความคิดมันบรรเทาเบาบางลง แต่จะไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ
ต้นเหตุจริงๆ ก็คือเราต้องพิจารณานะว่า
เราจะเอาจิตแบบไหนเป็นรางวัล จะเอาจิตแบบไหนเป็นการลงโทษต่อ
คือพิจารณาแบบนี้นะให้เข้ามาจนถึงใจ
แล้วมันอาจต้องบ่อย อาจต้องเป็นสิบครั้งร้อยครั้ง
แต่ทุกๆ ครั้งที่เราคิดแบบนี้นะ เอาจิตเนี่ยเป็นเป้าหมายนะครับ
มันจะได้ความรู้สึกว่าใจของเราเนี่ยถอยออกมา
จากอาการอาฆาต จากอาการคิดร้ายมากขึ้นๆ ทุกทีนะครับ