Print

ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๓๕๓

dungtrin_cover

dungtrin_gru2a

 ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ ฉบับที่ ๓๕๓

มิถุนายน ๒๕๖๓ 

 

การไม่เลี้ยงดูบิดามารดา ส่งผลต่อความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมหรือไม่
 

ถาม – การไม่เลี้ยงดูบิดามารดา จะทำให้การปฏิบัติธรรมไม่ก้าวหน้าไหมครับ

ตอบ – คือมันขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอะไรบางอย่างร่วมด้วย
อย่างเช่นนะเรารับรู้แค่ไหนว่าไม่เลี้ยงดูแล้วเนี่ยพ่อแม่ลำบากหรือเปล่านะ
ถ้ารู้อยู่แต่แกล้งทำเป็นไม่สนใจนะ
รู้อยู่ว่าเนี่ยถ้าไม่ส่งเสียไม่ช่วยเลี้ยงดูเนี่ย
พ่อแม่ลำบากกันล้มลุกคลุกคลานแน่ๆ
แบบนี้มันติดอยู่ในใจชัวร์นะ ต่อให้พยายามฝังลืมอย่างไร
ต่อให้พยายามหาเรื่องอื่นมากลบเกลื่อนอย่างไร
ก็ไม่มีทางลืมได้นะ มันจะรู้อยู่ตลอดนะว่าเราปล่อยให้พ่อแม่ตกระกำลำบาก

เพราะฉะนั้นเนี่ยใจส่วนลึก
มันก็จะไม่ยอมให้ตัวเองเนี่ยได้ดิบได้ดีทางธรรมเต็มที่
มันนั่งสมาธิแล้วมีความรู้สึกเหมือนกับพ่อแม่เนี่ยเป็นหนามมาทิ่มตำบ้าง
หรือว่าเจริญสติไปใกล้จะเห็นว่ากายใจเป็นรูปเป็นนาม
มันกลับมีความรู้สึกนึกคิดลบๆ เกี่ยวกับพ่อแม่ขึ้นมารบกวนจิตใจอะไรแบบนี้
เนี่ยอันนี้เราสามารถที่จะดูได้ด้วยตัวเองนะครับ หลักฐานมันมีอยู่

แต่ถ้าหากว่าเรารู้ว่าไม่ได้ส่งเงินให้พ่อแม่นะ เพราะว่าเราไม่ค่อยมี
แล้วพ่อแม่ก็ไม่ได้ลำบากอะไร
อย่างนั้นเนี่ยมันก็ไม่ถึงขั้นที่จะมารบกวนจิตใจอะไรเราได้นะ
พูดง่ายๆ ว่าความทุกข์ของพ่อแม่ที่เกิดขึ้นจากวิธีปฏิบัติของเรานั่นแหละ
ที่มันจะเป็นตัวรบกวนหรือว่าส่งเสริมจิตใจของเรา

ถ้าหากว่าเราไม่มีเงิน เราเลี้ยงดูพ่อแม่ไม่ได้
แต่เราสามารถไปให้ความสุขกับพ่อแม่ได้
แค่นี้มันก็สบายใจแล้ว แค่นี้ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนแล้ว
เพราะว่าสิ่งที่พ่อแม่ต้องการแล้วเราให้ได้นั่นแหละ
เป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับท่านนะ
สิ่งที่มีค่าไม่ใช่เงินอย่างเดียว
ไม่ใช่การที่เราจะต้องเลี้ยงดูอย่างเดียว
บางครั้งมันมาในรูปของธรรมะ ความสว่าง ความเบิกบานใจ
หรือว่าการชักชวนกันให้คิดดี ให้เป็นไปในทางบุญอะไรต่างๆ เนี่ยนะ
นี่ก็เรียกว่าเป็นลูกกตัญญูแล้ว

แล้วพระพุทธเจ้านะท่านตรัสเลยว่าธรรมะนี่แหละ
หรือว่าการเปลี่ยนความเห็นผิด
ให้กลายเป็นความเห็นถูกต้อง กลายเป็นความเห็นชอบนะ
อันนี้แหละที่เรียกว่าเป็นการตอบแทนพ่อแม่อย่างแท้จริงนะครับ
การให้ที่พึ่งที่แท้จริงกับท่านนั่นแหละคือการตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ

พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้นะบอกว่า
ถ้าทำให้พ่อแม่ที่เป็นมิจฉาทิฐิเป็นกลับเป็นสัมมาทิฐิได้
มีความตั้งมั่นในศรัทธาที่ถูกทาง ศรัทธาในพระศาสดาที่จะพาไปดี
หรือว่าทำให้ตั้งมั่นในทาน ตั้งมั่นในศีล
ตั้งมั่นในการเจริญปัญญาภาวนาปฏิบัติธรรม เนี่ยอย่างนี้นะ
ไม่มีบุญอื่นใดที่จะตอบแทนพ่อแม่ได้มากไปกว่านี้อีกแล้วนะ

ต่อให้แบกพ่อแม่ขึ้นบ่าให้ขับถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่าของเราตลอดร้อยปี
ก็ยังเทียบไม่ได้กับการที่เราจะเปลี่ยนความเป็นมิจฉาทิฐิของท่านเนี่ย
ให้กลายเป็นสัมมาทิฐินะครับ