Print

ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๓๐๑

dungtrin_cover

dungtrin_gru2a

 

 

 

เมื่อเกิดโทสะแล้วข่มไว้ไม่แสดงออก
จะรู้สึกเหมือนอาการทางหัวใจกำเริบ ควรทำอย่างไร

ถาม – เมื่อเกิดความโกรธขึ้น แล้วควบคุมด้วยการข่มเอาไว้
พิจารณาแล้ว แต่เหมือนเผลอหรืออะไรไม่ทราบ โทสะมันพุ่งขึ้นมา
แต่ก็ไม่ได้แสดงความโกรธออกไปนะคะ
รู้สึกว่าเหมือนมีออร่า (
aura) ทะมึนๆ น่าขยะแขยงออกมาค่ะ

ตอบ – คือเข้าใจว่าอันนี้คงเป็นออร่าของตัวเองนะ
ตรงนี้รู้สึกได้เนี่ยดีเลยนะ เพราะว่าทุกคนเนี่ยรู้สึกเหมือนกันหมดแหละ
แต่ว่าไม่สังเกต แล้วก็ไม่เชื่อว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นเป็นของจริง

ถาม – พอไม่ได้ระบายออกไป ผลก็คือเหมือนอาการทางหัวใจกำเริบ
แบบนี้ควรทำอย่างไรดีคะ

ตอบ - เอาเป็นว่าถ้าเรารู้สึกว่ามีอะไรทะมึนๆ ขึ้นมา
แล้วก็รู้สึกจุกอก รู้สึกว่ามันแน่น ไม่ได้ระบายออกไปเนี่ย
ก่อนอื่นเลยนะ ให้พยายามที่จะขยับเนื้อขยับตัวอะไรเสียบ้าง
มันจะได้มีจุดสังเกตของสติ
มันจะได้มีจุดสังเกตว่าเราเนี่ยสามารถที่จะตั้งสติขึ้นมาได้หรือเปล่า
ถ้าขยับเนื้อขยับตัวแล้วรู้สึกว่ามันยังทื่อๆ มันถูกบล็อกนะ
ขยับแล้วก็ยังไม่รู้สึก หรือรู้สึกแบบขาดๆ เหมือนกับหนังขาด
เหมือนกับหนังที่มันไม่ต่อเนื่องนะ ที่มันไม่ประติดประต่อ

แบบนั้นเนี่ยเราได้จุดสังเกตแล้ว
ว่าสติของเราเนี่ยมันขาดตอน สติของเราไม่เกิด ณ ขณะนั้น
ถ้าเกิดความรู้สึกอึดอัดอยู่
ขอแนะนำให้มีความเคลื่อนไหวแบบเร็วๆ
สมมติว่าอยู่ในสถานการณ์ที่เดินไปไหนไม่ได้เนี่ย
ก็เราเดินวนเวียนอยู่แถวนั้นแหละ เดินแบบชับๆ ชับ
เพื่อให้เกิดความรู้สึกกระทบอะไรขึ้นมาบ้าง

ที่มันเป็นกระทบแบบไม่ร้อน กระทบแบบไม่มีความเสียดแทง
อย่างความรู้สึกเท้ากระทบพื้นเนี่ย มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เสียดแทงนะ
มันเป็นความรู้สึกว่า กระตุ้นให้เกิดความรับรู้ว่า
เนี่ยมันมีอาการตั๊บๆ กระทบระหว่างฝ่าเท้านุ่มๆ ของเรากับพื้นแข็งๆ
แล้วเกิดความรู้สึกเหมือนกับรู้สึกตัวขึ้นมาได้
มีความรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาได้ว่า เออ นี่เป็นกระทบของจริง
เป็นกระทบอีกแบบหนึ่ง ไม่ใช่กระทบอันเกิดจากไฟร้อนทางคำพูด
หรือไฟร้อนของสายตาของคนที่อยู่ต่อหน้าต่อตาเรา

พอเกิดความรู้สึกถึงกระทบได้ นั่นแสดงว่าสติเกิด
พอสติเกิดนะ ขอให้สังเกตเลย
อาการอึดอัดจุกอกหรือว่าออร่าทะมึนๆ อะไรทั้งหลายที่เรารู้สึกได้เนี่ย
มันจะลดลง มันจะคลี่คลายลง
เราก็รีบบอกตัวเองเลยว่าเนี่ยเห็นความเปลี่ยนแปลงของโทสะแล้ว
ระดับของโทสะมันลดดีกรีลงแล้ว

แล้วจากนั้นเนี่ย คือถ้ายังพูดอะไรไม่ออก
มันยังไม่สามารถระบายอะไรออกไปได้ ก็ให้ใช้สติดูโทสะไปเลยนะ

เข้าใจไหม คือเริ่มต้นขึ้นมาเนี่ย
เราต้องหาจุดสังเกตของสติว่ามีกำลังแค่ไหนก่อน
อย่างเช่น ร่างกายเนี่ยถ้าได้เคลื่อนไหวไปบ้างเนี่ย
มันปลุกสติขึ้นมา มันสังเกตได้ว่าสติของเรามีกำลังมากพอหรือเปล่า
ถ้าหากว่ามันไม่สามารถรู้ได้กระทั่งอาการเคลื่อนไหวของร่างกายนะ
ไม่มีทางเลยที่เราจะไปรู้ลักษณะของความเป็นโทสะ
ที่กำลังปรากฏอยู่ ณ ขณะนั้น
แต่ถ้าหากว่าเราสามารถรู้สึกถึงร่างกายขึ้นมาได้
อันนั้นแหละเราถึงจะสามารถรู้สึกถึงโทสะขึ้นมา
และเมื่อสามารถดูโทสะได้ เห็นว่าโทสะมันไม่เที่ยงได้
ตรงนั้นความอึดอัดมันจะหายไปทันที
เพราะปัญญามันเกิด สติมันเกิด กุศล พอกุศลจิตเกิดนะ
ร่างกายมันผ่อนคลายตาม มันตอบสนองต่อกุศลจิตทันที

นี่แหละที่จะทำให้อาการอึดอัดไม่เกิดขึ้น
แล้วก็อาการทางหัวใจก็จะไม่กำเริบนะครับ