Print

ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๒๘๙

dungtrin_cover

 ดังตฤณ วิสัชชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๒๘๙dungtrin_gru2a

 

 

เจริญสติเพื่อเห็นการทำงานของขันธ์ ๕ ไปเพื่ออะไร

ถาม – ผมฝึกเจริญสติและเห็นขันธ์ ๕ ทำงาน แล้วเห็นว่าไม่มีเราตรงนั้น
แต่ยังไม่แจ้งในไตรลักษณ์ ควรทำอย่างไรครับ

ตอบ - อย่าถามว่าควรจะทำอย่างไรนะครับ
ถามว่าเรามีความอยากที่เกินพอดีหรือเปล่า

ถ้าหากว่าเห็นขันธ์ ๕ ทำงานอยู่
เห็นว่ามีไตรลักษณ์บางส่วนปรากฏขึ้นมาแล้วในขันธ์ ๕ นะ
อย่างไรก็ตามเนี่ยนะ ถ้าเราเห็นขันธ์ ๕ เนี่ย
ต้องเห็นไตรลักษณ์อย่างใดอย่างหนึ่งแหละ
ถ้าไม่เห็นความเป็นอนิจจัง ก็ต้องเห็นความเป็นอนัตตา

เพราะว่าตัวขันธ์ ๕ เองเนี่ย โดยเนื้อหาโดยแก่นแท้แล้วเนี่ยนะ
ก็คือการแสดงตัวของอนัตตานั่นเอง อนัตตาที่แสดงความไม่เที่ยงอยู่

พระพุทธเจ้าตรัสไว้นะ เราเจริญสติเพื่อเห็นขันธ์ ๕ นะ
แล้วจะได้อะไร ได้อนิจสัญญา นี่เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้
เราเจริญสติเห็นการทำงานของอายตนะไปเพื่ออะไร

เพื่อได้อนัตตสัญญา
นี่ก็เป็นเรื่องของการรู้จักขันธ์จริงๆ
ถ้ารู้จักขันธ์ ๕ จริงๆ เนี่ย ถามตัวเองว่ารู้จริงแค่ไหนเนี่ย
ดูตรงที่ว่าเรารู้สึกถึงความไม่เที่ยงของกายใจรึเปล่า
นี่เรียกว่าเป็นตัวเป้าหมายที่ใช้วัดได้เลย

หรือถ้าหากว่าเราเกิดความรู้สึกว่านี่เป็นอนัตตา
นั่นก็เพราะว่าเห็นการทำงานของอายตนะ
ตาไปประจวบรูป แล้วเกิดอาการการร้อยรัด เกิดราคะ
หรือว่าตาไปประจวบรูป แล้วเกิดโทสะ
เกิดความเร่าร้อน เกิดความรุ่มร้อนขึ้นมา
นี่ตรงนี้ ถ้าหากว่าสามารถเห็นว่ามีการกระทบ แล้วเกิดปฏิกิริยาทางใจได้
ไม่ยึดมั่นถือมั่นว่านั่นเป็นตัวเรา มีแต่ไฟเกิดขึ้น แล้วหายไปตามเหตุปัจจัย
นี่แหละเรียกว่าการเห็นที่แท้จริง

อย่าไปสำคัญมั่นหมายว่า เราจะต้องเห็นให้ลึกซึ้ง
เราจะต้องได้บรรลุธรรมให้ได้เดี๋ยวนั้นนะ
สั่งสมไปเรื่อยๆ นี่คือหลักการที่ถูกต้อง