Print

ดังตฤณ วิสัชชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๒๘๔

dungtrin_cover

 ดังตฤณ วิสัชชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๒๘๔dungtrin_gru2a

 

 

หากจะหาเงินจากการเก็งกำไรทองคำจะผิดศีลไหม

ถาม – การที่เราเก็งกำไรจากทองคำ แบบโกลด์ ฟิวเจอร์ส (Gold Futures)
คือซื้อขายเป็นสัญญา สัญญาหนึ่งเท่ากับทองคำน้ำหนักสิบบาท
แล้วเอาสัญญามาเก็งกำไรโดยไม่ได้ถือทองคำจริงๆ
แบบนี้ถือว่าเป็นการพนันไหมคะ ผิดศีลไหมหากเราจะหาเงินจากทางนี้

ตอบ - การจะผิดหรือไม่ผิดศีลนะครับ
เราดูจากที่ว่าเราไปโกงใครเขาไหม เราไปขโมยของใครเขามาไหม
ถ้าหากว่าใจเรารู้อยู่ว่าทรัพย์สินนั้นนะ แม้แต่บาทเดียวเนี่ย
เป็นของคนอื่น เขายังไม่ได้ให้เรา
เขายังไม่ได้ยก เขายังไม่ได้ออกปากมาให้เราครอบครอง
แล้วเราไปถือเอาเป็นเจ้าของโดยไม่ได้รับอนุญาต
นั่นแหละเรียกว่าผิดศีล
แม้กระทั่งไปหลอกลวง โกหก ฉ้อฉล
ด้วยวิธีการซึ่งรู้อยู่แก่ใจว่าจะได้ทรัพย์เขามา
โดยที่เขาไม่ได้เต็มใจ เขาถูกหลอก
อย่างนั้นผิดศีลหมด ผิดศีลในเรื่องของโกหกด้วยลักทรัพย์ด้วยพร้อมกัน
เรื่องไปหลอกเอาทรัพย์เขามาเนี่ย

แต่ถ้าหากว่าเราไปเสี่ยงโชค
แม้กระทั่งการเข้าบ่อนเนี่ยนะ ก็ยังไม่ได้ผิดศีล
คือไม่ได้ผิดในการไปขโมยของเขามา
แต่ขอให้สังเกตจิตใจที่มีความเร่าร้อน ที่มีความหมกมุ่นดำมืด
เนี่ยตรงนี้มันจะแสดงชัดเลยว่ามีอะไรผิดปกติบางอย่างแล้วละ
การเข้าบ่อนหรือว่าการไปหมกมุ่นกับการเสี่ยงโชคมากๆ เนี่ย
จิตใจมันไม่มีความสุข จิตใจมันมืด
ไม่เป็นกุศลเหมือนตอนไปใส่บาตรพระ
ตัวความเร่าร้อน ตัวความหมกมุ่นมืดมนนั่นแหละ
เป็นตัววัดว่าจิตของเราเข้าสู่เข้าข่ายอบายมุขแล้ว

ทำอะไรที่มันเข้าข่ายอบายมุขแล้ว

ถ้าหากว่าเราเป็นนักลงทุน แม้ว่าจะไปลงทุนในหุ้น ลงทุนในทองคำ
จะด้วยรูปแบบอะไรก็แล้วแต่
จะถือทองจริง หรือไม่ถือทองจริงก็แล้วแต่เนี่ยนะ
ถ้าจิตใจของเราไม่เร่าร้อนกระวนกระวาย ไม่หมกมุ่น ไม่มืดมิดนะ
ก็อาจจะเป็นตัวชี้ได้ว่ายังไม่ได้เข้าข่ายอบายมุขก็ได้
ลักษณะของอบายมุขเนี่ยดูกันที่จิตชัดๆ เลย
ว่ามันมีการกังวลถึงแค่ไหน มันจะมีความโลภอยากเอาแค่ไหน
มันจะมีอาการเสี่ยงอยากได้อย่างรุนแรงแค่ไหน
นะ

แต่ถ้าจิตของนักลงทุนเนี่ย
เหมือนกับว่าศึกษาไว้อย่างดีแล้ว ใช้เหตุใช้ผลอย่างดีแล้วนะ
ว่าตรงนี้เราลงทุนไปเนี่ย
ด้วยความคาดหมายว่าจะได้มา มีความแน่นอนแค่ไหนนะ
หรือว่ามีความเย็นใจที่จะดองไว้นานๆ เพียงใด
ตรงนี้จะเป็นตัวชี้เลยครับว่าจิตของเราเป็นนักพนันหรือว่านักลงทุน
ส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้เนี่ยใช้คำว่านักลงทุนกันพร่ำเพรื่อ
ทั้งๆ ที่มันเป็นอาการของนักพนันแท้ๆ นะ

ก็ขอให้มีหลักการก็แล้วกันที่จะชี้วัดนะครับ
จิตของนักลงทุนจะเป็นจิตที่มีเหตุมีผล
แล้วก็ไม่โลภมากเกินไป มีความสบายใจมากพอ
คือใช้เงินเย็นในการซื้อในการลงทุน
แต่จิตของนักพนันเนี่ยนะ
ชัดเจนเลยคือเอาเงินเท่าที่มีอยู่เนี่ย มาโปะเข้าไป มาลงเข้าไป
ด้วยความคาดหมายว่ามันจะงอกเงยขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นสิบเท่ายี่สิบเท่า
แล้วก็มีการกระวนกระวายอยู่ตลอดเวลา
มีการคิดอยู่ทุกวันว่า เออ เราจะต้องเอามา
เราจะต้องมีให้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ นะครับ
อันนั้นแหละจิตของนักพนัน มีความเร่าร้อน มีความมืดมนนะ