Print

ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๒๖๑

dungtrin_cover

 dungtrin_gru2a

 

 

 

อยากเอาดีทั้งทางโลกและทางธรรมควรทำอย่างไร

 

ถาม – อยากเอาดีทั้งทางโลกและทางธรรมควรทำอย่างไรครับ

ตอบ – การที่เราเป็นฆราวาสแล้วอยากจะเจริญสติเนี่ย
เขาเรียกว่าเหยียบเรือสองแคมอยู่แล้ว
เพราะว่าหน้าที่เจริญสติเนี่ย ดูๆ ไปเหมือนกับเป็นหน้าที่ของภิกษุอย่างเดียว
ไม่ได้เป็นหน้าที่ของฆราวาส
พระพุทธเจ้าเนี่ยท่านไม่เคยสอนสติปัฏฐานให้ฆราวาสเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะ
ในพระไตรปิฎกเนี่ย สติปัฏฐานเนี่ยท่านจะสอนแต่เฉพาะภิกษุ
เหมือนกับจะแยกให้เห็นเลยว่าฆราวาสอยู่ส่วนฆราวาส
ทำมาหากินไป แล้วก็เลี้ยงพระ
ส่วนพระก็ไม่ต้องทำมาหากิน ไม่ต้องแข่งขันอะไรใดๆ ทั้งสิ้น
ทำมรรคผลนิพพานให้แจ้งอย่างเดียว
ด้วยการเข้ามารู้ เข้ามาดู ภายในกายภายในใจของตัวเอง
อย่าไปยุ่งเรื่องของชาวบ้าน อย่าไปแข่งกับชาวบ้าน
นี่ตรงนี้พระพุทธเจ้าท่านแบ่งแยกไว้ชัดเจน

แต่ในขณะเดียวกันเราก็จะเห็นเป็นหลักฐาน
ว่าแม้ฆราวาสแม้ชาวบ้าน พระพุทธเจ้าก็สอนธรรมะขั้นสูง
จนกระทั่งชาวบ้านหลายต่อหลายคนนะ บรรลุธรรมขั้นสูงกันไป
บางคนเนี่ยเป็นถึงพระอนาคามี เกือบจะเป็นพระอรหันต์อยู่แล้ว
แสดงว่าท่านก็ไม่ได้ละเลยหรือว่าจะเห็นฆราวาสไม่มีความสามารถนะ
ท่านก็โปรด แต่โปรดเป็นคนๆ ไป

ทีนี้เราต้องทำความเข้าใจอย่างนี้ก่อน
โดยทั่วไปเนี่ยชาวบ้านที่อยู่ในโลกเนี่ยนะ อยากเจริญสติ
เจริญได้น่ะดี ดีมากๆ เลย
แต่อย่าคาดหวังอะไรมากมาย
คือขอให้ทำไปเรื่อยๆ ขยันให้มันจริง ทำให้มันจริง
แล้วมันจะพัฒนาก้าวหน้าขึ้นไปเอง

ในขณะเดียวกัน เราไม่ได้ทอดทิ้ง เราไม่ได้ดูดายเรื่องทางโลกภาระทางโลก
เรายังทำเต็มที่ เรายังเสพสุขอยู่ด้วยซ้ำนะ
พระสารีบุตรท่านก็บอกว่าเสพสุขทางโลกน่ะได้ โลกียสุขน่ะเสพไป
แต่ขอให้มีสติรู้ว่ายังมีความสุขอื่นเหนือกว่านี้
แล้ววิธีเดียวที่จะรู้ได้ว่าความสุขอื่นที่เหนือกว่าความสุขแบบโลกๆ ได้
ก็คือนะ เราต้องเจริญสติให้เป็น
หรืออย่างน้อยที่สุดต้องฟังธรรม
รับรู้นะครับว่าสิ่งที่เหนือกว่ากามสุขก็คือวิมุตติสุข

ถ้าหากว่าเรารู้อย่างนี้แล้ว ถือว่าเป็นฆราวาสชั้นเยี่ยมอยู่โดยตัวเองแล้วนะ
ไม่ต้องไปแข่งกับตัวเองให้มากขึ้น ไม่ต้องไปขัดแย้งกับตัวเอง
อะไรที่เราติดใจแบบโลกๆ ก็ทำไปเถอะ ติดใจไปเถอะ เสพไปเถอะความสุขนั้น
แต่ว่าเราค่อยๆ ทำ ค่อยๆ เจริญสติแบบค่อยเป็นค่อยไป
ถ้ายังเจริญสติไม่ได้ ลองหัดให้ทานดู
ถ้าหากว่าหัดให้ทานได้แล้ว เขยิบขึ้นมารักษาศีลให้ได้ทุกข้อ

จากรักษาศีลให้ได้ทุกข้อ
มีความรู้สึกว่าใจมีเมตตามีน้ำใจแล้วก็ใสสะอาดด้วยศีลด้วยสัตย์
จากนั้นค่อยมาทำสมาธิแล้วฝึกเจริญสติดู
จะรู้สึกว่าแม้แต่เป็นฆราวาสก็สามารถบรรลุธรรมได้
เป็นพระโสดาบันได้เหมือนกัน