Print

ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๒๐๑

dungtrin_cover

นิพพานแล้วไปไหน

dungtrin_gru2a

ถาม - รบกวนอธิบายคําว่า "นิพพาน" ให้อ่านหน่อยนะครับ
สงสัยว่าหลังจากนิพพานแล้วไปไหนหรือครับ

ตอบ - ต้องเข้าใจว่าพระอรหันต์ก็สักแต่มีธาตุ ๖
คือดิน (ของแข็งเช่นเส้นผม ผิวหนัง กระดูก ตับ ปอด ฯลฯ)
น้ำ (ของเหลวเช่นน้ำลาย น้ำเลือด น้ำเหลือง ฯลฯ)
ลม (ของไหวเช่นลมหายใจ ลมในช่องท้อง ฯลฯ)
ไฟ (ของร้อนเช่นไออุ่น ธรรมชาติที่เร่าร้อนภายใน ฯลฯ)
อากาศ (ของว่างเช่นช่องว่างในปาก ช่องว่างในช่องหู ฯลฯ)
วิญญาณ (ของที่มีธรรมชาติรู้ ที่มีโลก มีสมมุติ มีพระอรหันต์ก็เพราะมี "รู้")

หากพิจารณาว่าเราเป็นองค์ประกอบของธาตุทั้ง ๖
ก็จะเห็นได้ชัดขึ้น ว่าตัวเรานี้มีความเกิดดับอยู่แล้ว
ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว นอกจากแปรสภาพไปเป็นอย่างอื่น

สำหรับวิญญาณธาตุนั้น เมื่อสิ้นสุดอัตภาพหนึ่งจะเกิดการ "เคลื่อน" หรือที่เรียกว่า "จุติ"
มีบัญญัติศัพท์เฉพาะคือ "จุติจิต"
เมื่อเคลื่อนจากอัตภาพหนึ่ง ย่อมปฏิสนธิในอัตภาพใหม่ทันที
จะดีร้ายก็ขึ้นอยู่กับว่าอัตภาพเก่าทำกรรมหนักไปทางไหน
กรรมก็พาให้เกิด "ปฏิสนธิจิต" เหมาะสมกับน้ำหนักกรรมของแต่ละบุคคล

ที่ยังเกิดปฏิสนธิจิตอยู่ได้ ก็เพราะมีการสืบเชื้อ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน
หากขาดเชื้อหรือโครงสร้างภพชาติอันได้แก่ อวิชชา ตัณหา อุปาทานแล้ว
หลังจากเกิดจุติจิตแล้ว ก็ไม่มีการต่อกระแสใดๆอีก
กระแสจิตเดิมมีพลังอยู่เท่าไหร่ก็คายพลังออกมาเท่านั้น แล้วจบ
ส่วนธาตุหยาบคือดิน น้ำ ลม ไฟ ก็แปรเป็นปุ๋ยไปตามธรรมชาติของโลกหยาบ

เรื่องของเรื่องคือไม่มีการ "ไปไหน" มาตั้งแต่แรกแล้ว
มีแต่ธาตุ ๖ เกิดดับของมันอยู่อย่างนี้
ไม่มีความจำของใครดำรงอยู่ ไม่มีไออุ่นของใครวนเวียนอยู่ ณ จุดใด
และเมื่อสิ้นสุดการสืบทอด "กระแสธาตุ ๖"
ก็ไม่ได้มีธาตุใหม่ หรือการแปรธาตุใดๆมารองรับ
เว้นแต่อยากจะเรียกว่า "นิพพานธาตุ"
อันหมายถึงธรรมชาติที่ปราศจากการปรุงแต่ง
เป็นธรรมชาติที่พระพุทธองค์ตรัสว่าเป็น "ของจริง" เพราะไม่เคลื่อน ไม่เปลี่ยนแปลง
ไม่ใช่ "ของเท็จ" เหมือนอย่างธาตุที่ปรุงแต่ง อันมีอันเป็นไป เลอะเลือนไปเป็นธรรมดา

ที่มา http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/003294.htm?1#1