Print

เพื่อนธรรมจารี - ฉบับที่ ๓๗๓

ngodngam1 

 งดงาม  

  This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

 

ศีลเป็นเหตุให้ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์

 

        dhammajaree373

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา ได้มีคลิปข่าวดังข่างหนึ่ง
เกี่ยวกับภรรยาหลวงและแม่สามีร่วมกันไปบุกพังงานสมรสซ้อน
ของสามีตำรวจนายหนึ่งที่หลอกภรรยาหลวงว่าจะไปเข้าเวร
แต่กลับแอบหนีมาจัดงานสมรสซ้อนกับหญิงสาวคนใหม่
โดยแม่สามีได้เข้าไปตบศีรษะบุตรชายในงานสมรสซ้อน
ในระหว่างที่พระภิกษุกำลังสวดพระพุทธมนต์
หลังจากนั้น หญิงที่เป็นภรรยาหลวงก็ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจาก
หญิงที่สมรสซ้อนกับสามีตำรวจดังกล่าวเป็นจำนวน ๓ แสนบาท
พร้อมกับร้านทองที่เป็นนายจ้างของหญิงที่สมรสซ้อน
ก็ได้ให้หญิงที่สมรสซ้อนนั้นออกจากงานอีกด้วย
https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/live-from-the-scene/news_6038016
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000017916
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_5987687

ในเรื่องนี้ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึง
โทษของการผิดศีลในเรื่องกาเมสุมิฉาจารนะครับ
โดยหญิงที่สมรสซ้อนก็เสียชื่อเสียง เสียหน้าที่การงาน
และถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย
ในส่วนของสามีตำรวจที่สมรสซ้อนนั้นก็เสียชื่อเสียง
และถูกตั้งกรรมการสอบวินัยด้วย
https://www.komchadluek.net/news/regional/458816
ซึ่งหากหญิงที่สมรสซ้อน และสามีตำรวจได้รักษาศีลเรื่องกาเมสุมิฉาจาร
ก็ย่อมจะไม่ต้องเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และไม่ต้องเสียหายในเรื่องนี้

ในเวลาที่พระภิกษุให้ศีลนั้น เราจะได้ยินท่านกล่าวลงท้ายว่า
"สีเลนะ สุคะติง ยันติ” แปลว่า ศีลเป็นเหตุให้ถึงสุคติ
“สีเลนะ โภคะสัมปะทา” แปลว่า ศีลเป็นเหตุให้ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์
“สีเลนะ นิพพุติง ยันติ” แปลว่า ศีลเป็นเหตุให้ถึงพระนิพพาน
“ตัสมา สีลัง วิโสทะเย” แปลว่า เพราะเหตุนั้น พึงชำระศีลให้หมดจด
โดยขอให้สังเกตว่าในประโยคที่สองนั้น
พระภิกษุท่านกล่าวว่า ศีลเป็นเหตุให้ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์ครับ

ในเรื่องศีลเป็นเหตุให้ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์นี้
ในพระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ได้กล่าวสอนว่า
อานิสงส์แห่งศีลสมบัติของคนมีศีล ๕ อย่าง ได้แก่
๑. คนมีศีลถึงพร้อมแล้วด้วยศีลในโลกนี้ย่อมประสบกองแห่งโภคะใหญ่
ซึ่งมีความไม่ประมาทเป็นเหตุ
๒. กิตติศัพท์ที่ดีงามของคนมีศีล ถึงพร้อมแล้วด้วยศีล ย่อมระบือไป
๓. คนมีศีลถึงพร้อมแล้วด้วยศีล เข้าไปหาบริษัทใด ๆ คือ
ขัตติยบริษัท พราหมณบริษัท คฤหบดีบริษัท หรือสมณบริษัท
เป็นผู้แกล้วกล้าไม่เก้อเขินเข้าไปหา
๔. คนมีศีลถึงพร้อมแล้วด้วยศีล ย่อมเป็นผู้ไม่หลงทำกาละ (ตาย)
๕. คนมีศีลถึงพร้อมแล้วด้วยศีล ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/item.php?book=11&item=291&items=1&preline=0&pagebreak=0

ในทางกลับกัน ในพระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
ได้กล่าวสอนว่า โทษแห่งศีลวิบัติของคนทุศีล ๕ อย่าง ได้แก่
๑. คนทุศีลมีศีลวิบัติในโลกนี้ ย่อมเข้าถึงความเสื่อมแห่งโภคะใหญ่
ซึ่งมีความประมาทเป็นเหตุ
๒. กิตติศัพท์อันเสียหายของคนทุศีลมีศีลวิบัติ ย่อมระบือไป
๓. คนทุศีลมีศีลวิบัติเข้าไปหาบริษัทใด ๆ คือ ขัตติยบริษัท พราหมณบริษัท
คฤหบดีบริษัท หรือสมณบริษัท เป็นผู้ไม่แกล้วกล้า เป็นคนเก้อเขินเข้าไปหา
๔. คนทุศีลมีศีลวิบัติ ย่อมเป็นคนหลงทำกาละ
๕. ข้ออื่นยังมีอีก คนทุศีลมีศีลวิบัติ ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/item.php?book=11&item=290&items=1&preline=0&pagebreak=0

ดังนี้แล้ว การที่ไม่รักษาศีล ก็ย่อมเป็นเหตุให้สูญเสียโภคทรัพย์ได้
ดังที่เราจะเห็นได้จากเหตุการณ์ตัวอย่างมากมายในชีวิตจริง
ซึ่งนอกจากข่าวสมรสซ้อนที่ได้ยกมาในตอนต้นแล้ว
เราก็คงได้เห็นหลายข่าวในเรื่องเมาแล้วขับรถ
ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูญเสียมากมาย เป็นต้น
เช่นนี้ หากเราต้องการที่จะถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์แล้ว
เราจึงควรที่จะมุ่งรักษาศีล เพราะศีลเป็นเหตุให้ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์
โดยมีความไม่ประมาทเป็นเหตุครับ