Print

เพื่อนธรรมจารี - ฉบับที่ ๓๖๖

ngodngam1 

 งดงาม  

  This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

 

อย่าเชื่อง่าย

 

       dhammajaree366

 

ในยุคของโซเชียลมีเดียในปัจจุบันสามารถกระจายข่าวได้อย่างรวดเร็วก็จริง
แต่ในบรรดาข่าวที่กระจายนั้นก็มีข่าวปลอม (Fake News) จำนวนมาก
ซึ่งเราก็พึงระมัดระวังตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของข่าวปลอมเหล่านั้น
เพราะว่าการหลงเชื่อข่าวปลอมโดยง่าย ก็ย่อมจะก่อผลเสียแก่เราเองครับ
ใน “ทัตวาอวชานาติสูตร” (พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต)
ได้สอนว่า บุคคล ๕ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก
๕ จำพวกเป็นไฉน คือ บุคคลให้แล้วย่อมดูหมิ่น ๑
บุคคลย่อมดูหมิ่นเพราะอยู่ร่วมกัน ๑ บุคคลเป็นผู้เชื่อง่าย ๑
บุคคลเป็นผู้โลเล ๑ บุคคลเป็นผู้เขลาหลงงมงาย ๑

บุคคลให้แล้วย่อมดูหมิ่นอย่างไร?
บุคคลในโลกนี้ให้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารแก่บุคคล
เขาย่อมคิดอย่างนี้ว่า เราให้ ผู้นี้รับ ดังนี้ ให้แล้วย่อมดูหมิ่นบุคคลนั้น
บุคคลย่อมดูหมิ่นเพราะอยู่ร่วมกันอย่างไร?
บุคคลในโลกนี้ อยู่ร่วมกับบุคคลสองสามปีย่อมดูหมิ่นผู้นั้นเพราะอยู่ร่วมกัน
บุคคลเป็นผู้เชื่อง่ายอย่างไร?
บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อเขากล่าวคุณหรือโทษของผู้อื่น ย่อมน้อมใจเชื่อโดยเร็วพลัน
บุคคลเป็นผู้โลเลอย่างไร?
บุคคลบางคนในโลก เป็นผู้มีศรัทธาเล็กน้อย มีความภักดีเล็กน้อย
มีความรักเล็กน้อย มีความเลื่อมใสเล็กน้อย
ภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลผู้เขลาหลงงมงายอย่างไร?
บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมไม่รู้กุศลธรรมและอกุศลธรรม
ย่อมไม่รู้ธรรมที่มีโทษและไม่มีโทษ ย่อมไม่รู้ธรรมที่เลวและประณีต
ย่อมไม่รู้ธรรมฝ่ายดำและฝ่ายขาว
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=22&A=3845&w=%E0%AA%D7%E8%CD%A7%E8%D2%C2

ในสมัยพุทธกาล มีเหตุการณ์ที่พระเทวทัตหลอกทำลายภิกษุ ๕๐๐ รูป
ซึ่งพระผู้มีภาคเจ้าได้ตรัสให้พระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ
ไปช่วยเหลือ มิฉะนั้นแล้ว ภิกษุเหล่านั้นจะถึงความย่อยยับ
โดยในพระวินัยปิฎก จุลวรรค ภาค ๒ ได้เล่าว่า
พระเทวทัตได้ทูลขอวัตถุ ๕ ประการ เช่น ภิกษุทั้งหลายพึงถืออยู่ป่าเป็นวัตรตลอดชีวิต
ภิกษุทั้งหลายไม่พึงฉันปลาและเนื้อตลอดชีวิต เป็นต้น
แต่พระผู้มีภาคเจ้าไม่ทรงอนุญาต
พระเทวทัตจึงนำเรื่องนี้มาหลอกภิกษุบวชใหม่
และรู้พระธรรมวินัยน้อย ๕๐๐ รูป ให้หลงเชื่อ
หลังจากนั้น พระเทวทัตได้พาภิกษุ ๕๐๐ รูปนั้น ไปทางคยาสีสะประเทศ

ครั้งนั้น พระสารีบุตรพระโมคคัลลานะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
กราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า พระเทวทัตทำลายสงฆ์แล้ว
พาภิกษุประมาณ ๕๐๐ รูป หลีกไปทางคยาสีสะประเทศ

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูกรสารีบุตร โมคคัลลานะ
พวกเธอจักมีความการุญในภิกษุใหม่เหล่านั้นมิใช่หรือ
พวกเธอจงรีบไป ภิกษุเหล่านั้นกำลังจะถึงความย่อยยับ
พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะทูลรับสนองพระพุทธพจน์แล้ว
ลุกจากอาสนะถวายบังคมพระผู้มีพระภาค ทำประทักษิณ
แล้วเดินทางไปคยาสีสะประเทศ

สมัยนั้น พระเทวทัตอันบริษัทหมู่ใหญ่แวดล้อม แล้วนั่งแสดงธรรมอยู่
เธอได้เห็นพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ มาแต่ไกล
จึงเตือนภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เห็นไหม ธรรมเรากล่าวดีแล้ว
พระสารีบุตรโมคคัลลานะอัครสาวกของพระสมณโคดม
พากันมาสู่สำนักเรา ต้องชอบใจธรรมของเรา

ลำดับนั้น พระเทวทัตแสดงธรรมกถาให้ภิกษุทั้งหลายหลายราตรีแล้ว
เชื้อเชิญท่านพระสารีบุตรว่า ท่านสารีบุตร ภิกษุสงฆ์ปราศจากถีนมิทธะแล้ว
ธรรมีกถาของภิกษุทั้งหลายจงแจ่มแจ้งกะท่าน เราเมื่อยหลังจักเอน
ท่านพระสารีบุตรรับคำพระเทวทัตแล้ว
ลำดับนั้น พระเทวทัตปูผ้าสังฆาฏิ ๔ ชั้น แล้วจำวัตรโดยข้างเบื้องขวา
เธอเหน็ดเหนื่อยหมดสติสัมปชัญญะ ครู่เดียวเท่านั้น ก็หลับไป

ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรกล่าวสอนภิกษุทั้งหลาย
ด้วยธรรมีกถาอันเป็นอนุศาสนีเจือด้วยอาเทสนาปาฏิหาริย์
ท่านพระมหาโมคคัลลานะกล่าวสอน พร่ำสอน ภิกษุทั้งหลาย
ด้วยธรรมีกถาอันเป็นอนุศาสนีเจือด้วยอิทธิปาฏิหาริย์
ขณะนั้น ดวงตาเห็นธรรมที่ปราศจากธุลี ปราศจากมลทินได้เกิดขึ้นว่า
สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับเป็นธรรมดา
ที่นั้น ท่านพระสารีบุตรเรียกภิกษุทั้งหลายมาว่า
ท่านทั้งหลาย เราจักไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค
ผู้ใดชอบใจธรรมของพระผู้มีพระภาคนั้น ผู้นั้นจงมา
ครั้งนั้น พระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะพาภิกษุ ๕๐๐ รูปนั้นเข้าไปทางพระเวฬุวัน
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=7&A=3864&Z=3896&pagebreak=0
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=7&A=3897&Z=4077&pagebreak=0

ในกรณีข้างต้นนี้จะเห็นได้ว่า เหล่าภิกษุใหม่หลงเชื่อพระเทวทัต
และจะถึงความย่อยยับ แต่เพราะได้พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะไปช่วยไว้
จึงรอดมาได้ และได้ดวงตาเห็นธรรม

ในทำนองเดียวกัน มีพระสูตรหนึ่งเล่าถึงฝูงโคที่ติดตาม
นายโคบาลที่มีปัญญาเขลาแล้ว ย่อมนำไปสู่ความย่อยยับได้
ใน “จูฬโคปาลสูตร” (พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์)
เล่าว่า นายโคบาลที่มีปัญญาเขลา มิได้พิจารณาในสารทสมัย
มิได้พิจารณาฝั่งข้างนี้แห่งแม่น้ำคงคา
ให้ฝูงโคข้ามในสถานที่มิใช่ท่าไปสู่ฝั่งข้างโน้น
ครั้งนั้นแล ฝูงโคว่ายไปเข้าวนในกระแสกลางแม่น้ำคงคา
ถึงความพินาศในแม่น้ำนั้น

ส่วนนายโคบาลที่มีปัญญา พิจารณาในสารทสมัย
พิจารณาฝั่งข้างนี้แห่งแม่น้ำคงคา
ให้ฝูงโคข้ามในสถานที่เป็นท่าไปสู่ฝั่งข้างโน้น
โคที่เป็นพ่อฝูงนำฝูงข้ามไปก่อน
โคเหล่านั้น ว่ายตัดกระแสแม่น้ำคงคาขวางไปได้ถึงฝั่งโดยสวัสดี
จากนั้น จึงให้เหล่าโคที่มีกำลังและโคที่ฝึกไว้ข้ามไป
โคเหล่านั้น ว่ายตัดกระแสแม่น้ำคงคาขวางไปได้ถึงฝั่งโดยสวัสดี
จากนั้น จึงให้เหล่าโคหนุ่มโคสาวข้ามไป
โคเหล่านั้น ว่ายตัดกระแสแม่น้ำคงคาขวางไป ได้ถึงฝั่งโดยสวัสดี
จากนั้น จึงให้พวกลูกโคที่มีกำลังยังน้อยข้ามไป
ลูกโคเหล่านั้นว่ายตัดกระแสแม่น้ำคงคาขวางไป ได้ถึงฝั่งโดยสวัสดี
ส่วนลูกโคเล็กที่เกิดในวันนั้น ก็ลอยไปตามเสียงโคเมียที่เป็นแม่
แม้ลูกโคนั้น ก็ว่ายตัดกระแสแม่น้ำคงคาขวางไป ได้ถึงฝั่งโดยสวัสดี
http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=12&A=7247&Z=7322&pagebreak=0

ฉะนั้นแล้ว เราไม่ควรเป็นบุคคลผู้เชื่อง่าย โดยเมื่อรับข่าวสารใด ๆ แล้ว
ควรจะพิจารณา วิเคราะห์ ตรวจสอบ และศึกษาให้ดีเสียก่อน
เพราะการที่หลงเชื่อข่าวปลอมหรือหลงเชื่อผู้อื่นโดยง่ายแล้ว
ย่อมจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่เราเองได้

เชิญร่วมบุญทอดผ้าป่าสามัคคี
สนับสนุนการพัฒนาเด็กเยาวชนร่วมกับชมรมเรียนรู้กายใจ นครสวรรค์
วันอาทิตย์ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๑.๓๐ น.
ณ สวนธรรมประสานสุข บ้านโค้งดารา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

ด้วยชมรมเรียนรู้กายใจ นครสวรรค์ สวนธรรมธาราศัย อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ ได้จัดกิจกรรมนำพาเด็กเยาวชน และผู้เกี่ยวข้องได้ฝึกปฏิบัติเรียนรู้กายใจ มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ เพื่อให้เด็กเยาวชนมีสติเป็นเกราะป้องกันภัย ดำเนินชีวิตในทางที่ถูกต้องดีงามเหมาะสม เป็นประโยชน์ต่อตนเองครอบครัวและสังคม รวมทั้งเป็นการสืบทอดส่งต่อพระพุทธศาสนาสู่เด็กเยาวชน และร่วมกันธำรงรักษาพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไป

พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล ประธานสงฆ์สวนธรรมประสานสุข บ้านโค้งดารา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาชมรมเรียนรู้กายใจฯ และคณะกรรมการและสมาชิกชมรมเรียนรู้กายใจฯ ได้ร่วมกันจัดทอดผ้าป่าสามัคคี ประจำปี ๒๕๖๓ ขึ้น เพื่อสนับสนุนให้ชมรมเรียนรู้กายใจฯ ได้ใช้เป็นทุนในการจัดค่ายเรียนรู้กายใจ ทั้งในและนอกสถานที่ รวมทั้งเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการต่างๆ ตามปัญหาความจำเป็น โดยการทอดผ้าป่าสามัคคีคร้ังนี้ จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๑.๓๐ น. ณ สวนธรรมประสานสุข บ้านโค้งดารา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

ร่วมบุญทอดผ้าป่า
ชื่อบัญชี นางพจนา ทรัพย์สมาน และนางปราณี ศิริวิริยะกุล และนางชญาณัฒ ธิเนตร
ธนาคารกรุงเทพ สาขาบิ๊กซี นครสวรรค์
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 627-0-34831-8