Print

เพื่อนธรรมจารี - ฉบับที่ ๓๒๘

ngodngam1 

 งดงาม  

  This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

ศีลเป็นทางดำเนินชีวิตที่ดี

 

   dhammajaree328

เราอาจจะเคยได้อ่านหรือได้ฟังบางท่านให้ความเห็น
ในเรื่องศีลว่า ศีล เป็นภาระ หรือเป็นข้อจำกัด
โดยการที่ถือศีลย่อมเป็นการจำกัดอิสรภาพตนเอง
หากไม่ถือศีลแล้ว เท่ากับว่ามีอิสรภาพ
ไม่ถูกจำกัด และทำอะไรก็ได้ ย่อมจะดีกว่าถือศีลจำกัดตนเอง

ความเข้าใจเช่นนั้นเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องครับ
ในเวลาที่เราสมาทานหรือรับศีลจากพระภิกษุนั้น
เราย่อมจะได้ฟังพระภิกษุท่านสวดว่า
“สีเลนะ สุคะติง ยันติ”
(แปลว่า ศีลเป็นเหตุให้ถึงสุคติ)
สีเลนะ โภคะสัมปะทา
(แปลว่า ศีลเป็นเหตุให้ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์)
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ
(แปลว่า ศีลเป็นเหตุให้ถึงพระนิพพาน”
ตัสมา สีลัง วิโสทะเย
(แปลว่า เพราะเหตุนั้นพึงชำระศีลให้หมดจด)

ในประโยคที่ว่า “สีเลนะ สุคะติง ยันติ”
ซึ่งแปลว่า ศีลเป็นเหตุให้ถึงสุคตินั้น
คำว่า “สุคติ” แปลว่า คติดี, ทางดำเนินที่ดี,
สถานที่ที่ดีที่สัตว์โลกซึ่งทำกรรมดีตามแล้วไปเกิด ได้แก่ มนุษย์และเทพ
http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%CA%D8%A4%B5%D4&original=1
ส่วนคำว่า “คติ” แปลว่า 1. การไป, ทางไป, ความเป็นไป,
ทางดำเนิน, วิธี, แนวทาง, แบบอย่าง หรือ
2. ที่ไปเกิดของสัตว์, ภพที่สัตว์ไปเกิด, แบบการดำเนินชีวิต
http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%A4%B5%D4&original=1
ดังนี้ ศีลจึงเป็นทางดำเนินชีวิตที่ดี หรือเป็นแบบการดำเนินชีวิตที่ดี
ซึ่งในเมื่อเราบอกว่าเป็นทางดำเนินชีวิตที่ดี
หรือเป็นแบบการดำเนินชีวิตที่ดีแล้ว
ก็ย่อมจะต้องมีเส้นทางของทางดำเนิน
หรือมีกรอบของแบบการดำเนิน
ดังนั้น การที่เราเดินอยู่ในเส้นทางดำเนินที่ดี
หรือปฏิบัติอยู่ในกรอบของแบบการดำเนินที่ดี
จึงไม่ใช่เรื่องที่เราถูกจำกัดอิสรภาพ
แต่เป็นเรื่องที่เราเลือกที่จะเดินอยู่ในเส้นทางดำเนินที่ดี
หรือปฏิบัติอยู่ในกรอบของแบบการดำเนินที่ดี
เพื่อประโยชน์แก่ชีวิตเราเอง

ในทางกลับกัน หากเราเลือกดำเนินชีวิตไปโดยไม่มีเส้นทาง
หรือประพฤติตนเองอย่างไม่มีกรอบ
อยากจะทำอะไรก็ได้ นึกจะทำอะไรก็ทำได้
เช่นนั้นแล้วชีวิตก็ย่อมจะหลงไปทำผิดหรือทำชั่วได้ง่าย
แล้วก็ย่อมจะทำให้เกิดผลเสียหายแก่ตนเอง

เราลองยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับกฎจราจรนะครับ
หากเราขับรถโดยสนใจและปฏิบัติตามกฎจราจรแล้ว
เราย่อมจะลดความเสี่ยงแก่ตนเองที่จะประสบอุบัติเหตุ
ซึ่งก็ย่อมจะส่งผลดีแก่ทั้งชีวิตเราเอง และผู้อื่นด้วย
ในทางกลับกัน หากเราไม่สนใจและไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร
เรานึกจะฝ่าไฟแดงก็ฝ่า นึกจะเลี้ยวตรงไหนก็เลี้ยว
เราก็ย่อมจะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ซึ่งก็ย่อมจะส่งผลเสียหายแก่ทั้งชีวิตเราเอง และผู้อื่น
ในกรณีนี้ เราจะมองไหมครับว่า การปฏิบัติตามกฎจราจรนั้น
เป็นการจำกัดอิสรภาพตนเอง และส่งผลเสียแก่ตนเอง?
เราย่อมจะไม่มองเช่นนั้น แต่เราย่อมจะมองว่า
เราจะเลือกที่จะปฏิบัติตามกฎจราจรเพราะว่า
การปฏิบัติตามกฎจราจรส่งผลดีแก่ทั้งชีวิตเรา และผู้อื่น

ฉันใดก็ฉันนั้น ในเรื่องของศีลก็เป็นทำนองเดียวกันครับ
ในเมื่อเราเห็นประโยชน์ของการถือศีล
เห็นว่าการถือศีลเป็นทางดำเนินชีวิตที่ดี
หรือเป็นแบบการดำเนินชีวิตที่ดี อันจะส่งผลดีแก่ชีวิตเราและผู้อื่น
เราเลือกที่จะถือศีล และใช้ชีวิตในกรอบของศีล
ก็ย่อมจะไม่ได้เป็นการจำกัดอิสรภาพตนเอง
และไม่ได้ส่งผลเสียแก่ชีวิตตนเองครับ

นอกจากศีลจะเป็นเหตุให้ถึงสุคติแล้ว
ศีลก็ยังเป็นเหตุให้ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์
และเป็นเหตุให้ถึงพระนิพพานด้วย
ดังนั้น ศีลจึงเป็นเส้นทางดำเนินที่ดี หรือแบบการประพฤติที่ดี
ที่อำนวยประโยชน์หรืออานิสงส์ให้แก่ชีวิตเราอย่างมาก