Print

เพื่อนธรรมจารี - ฉบับที่ ๓๑๘

ngodngam1 งดงาม
  This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

 

 

ต้องทำที่บ้านได้

 dharmmajaree318

 

สวัสดีปีใหม่ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ
ในช่วงวันสิ้นปีที่ผ่านมา มีญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกผมว่า
ท่านอยากจะไปไหว้พระที่วัดแห่งหนึ่งในวันสิ้นปีหรือวันปีใหม่
จึงอยากจะให้ผมช่วยพาไปด้วย
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ผมก็เคยพาญาติผู้ใหญ่ท่านนี้ไปไหว้พระที่วัดหลายแห่ง
และวัดที่ท่านอยากจะไปในวันสิ้นปีหรือวันปีใหม่นี้ ก็เคยไปบ่อยแล้วด้วย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ผมไม่ได้ไปไหว้พระที่วัดในวันสิ้นปีหรือวันปีใหม่แล้ว
เพราะครั้งหลังสุดที่ไปนั้น ผมได้พบผู้คนจำนวนมหาศาล
ซึ่งผมก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มอายุมากแล้ว
ไม่ค่อยสะดวกที่จะไปเบียดกับคนจำนวนมาก
ประกอบกับการเดินทางและหาที่จอดรถก็ยากลำบาก
โดยเฉพาะหากต้องพาผู้สูงอายุไปด้วยแล้ว ยิ่งไม่อยากไป
เพราะจะเหนื่อยมาก แค่ดูแลตัวเองก็เหนื่อยพอสมควรแล้ว
โดยหากจะพาผู้สูงอายุไปแล้ว ผมก็จะเลือกไปวันที่คนน้อย ๆ
ดังนั้น ผมจึงตอบญาติผู้ใหญ่ท่านนี้ว่า ขอให้ไหว้พระสวดมนต์อยู่ที่บ้าน
และผมจะพาไปทานข้าวใกล้ ๆ บ้าน
ส่วนเรื่องจะไปวัดแห่งไหนนั้น ให้รอพ้นช่วงปีใหม่ก่อน
แล้วค่อยเดินทางไปในวันที่คนไม่เยอะ

ในเรื่องการไหว้พระ สวดมนต์ หรือปฏิบัติธรรมก็ตาม
เป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำที่บ้านให้ได้นะครับ
เพราะเราทุกคนคงไม่สามารถจะมีเวลาไปวัดได้ทุก ๆ วัน
หากเราจะต้องรอให้มีเวลาไปวัดก่อน
จึงจะไหว้พระ สวดมนต์ หรือปฏิบัติธรรมได้แล้ว
ย่อมเป็นการเสียโอกาสแก่ตนเอง
โดยหากสมมุติว่าในเดือนหนึ่งเรามีโอกาสไปวัด
เพียงแค่วันเดียวหรือสองวันแล้ว ก็จะกลายเป็นว่าในเดือนนั้น
เราจะได้ไหว้พระ สวดมนต์ หรือปฏิบัติธรรมแค่วันเดียวหรือสองวันเท่านั้น
แต่หากเราสามารถไหว้พระ สวดมนต์ หรือปฏิบัติธรรมที่บ้านได้แล้ว
เราย่อมสามารถจะไหว้พระ สวดมนต์ หรือปฏิบัติธรรมได้ทุกวัน

ในความเป็นจริงแล้ว พระพุทธรูปในบ้านก็ดี
หรือพระประธานในอุโบสถในวัดก็ดี
ก็เป็นสัญลักษณ์ถึงพระพุทธเจ้าเช่นเดียวกัน
ดังนั้นแล้ว หากเรากราบไหว้พระพุทธรูปด้วยใจระลึกถึงพระพุทธเจ้าแล้ว
ย่อมเป็นการกราบพระพุทธเจ้าและได้อานิสงส์เหมือนกัน

ในเรื่องของการสวดมนต์ ก็ทำนองเดียวกัน
เราเพียงแค่ใช้หนังสือสวดมนต์
หรือถ้าจำได้แล้ว ก็ไม่ต้องใช้หนังสือสวดมนต์ก็ได้
โดยเราก็สามารถสวดมนต์ที่บ้านก็ได้ ย่อมได้อานิสงส์เหมือนกัน

ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม ก็ทำนองเดียวกัน
เราปฏิบัติธรรมที่กาย และใจเรา
ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เราก็มีกาย และใจ จึงย่อมปฏิบัติธรรมได้

หากเราเข้าใจตรงนี้ และสามารถทำได้แล้ว
เราก็จะมีเวลาและโอกาสในการไหว้พระ สวดมนต์ และปฏิบัติธรรมมากขึ้น
โดยไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นที่วัด
แต่เราสามารถทำที่บ้านได้
และจริง ๆ แล้ว เราสามารถทำได้ทุกสถานที่ด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ระหว่างที่เรานั่งรอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์
หรืออยู่ระหว่างนั่งรถเมล์ไปทำงาน
เราก็สามารถไหว้พระ สวดมนต์ และปฏิบัติธรรมได้ เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญนะครับ
เพราะเราก็ย่อมจะมีอายุสูงวัยขึ้นเรื่อย ๆ
ย่อมจะเดินทางไปไหนมาไหนยากขึ้น และไม่สะดวก
การที่เราสามารถไหว้พระ สวดมนต์ และปฏิบัติธรรมที่บ้านได้
โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไหนแล้ว
ย่อมอำนวยประโยชน์ให้แก่เรามาก (และประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย)
และเราก็จะไม่ต้องทุกข์ใจว่า
เราไม่ได้เดินทางไปไหว้พระหรือปฏิบัติธรรมที่ไหน

อีกเรื่องหนึ่ง ที่แนะนำให้เราทำที่บ้านให้ได้ คือเรื่องการออกกำลังกายครับ
หลาย ๆ ท่านที่อาจจะมีปัญหาเรื่องน้ำหนักมากเกิน หรือเรื่องสุขภาพก็ดี
แต่ตนเองไม่มีเวลาออกกำลังกาย
ก็ควรต้องหาทางออกกำลังกายที่บ้านให้ได้
โดยควรจะเลือกวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตนเอง
และสามารถทำที่บ้านได้ ก็จะเป็นประโยชน์มาก
บางคนบอกว่าตนเองจะต้องไปออกกำลังกายที่สถานออกกำลังกาย
หรือจะต้องไปวิ่งที่สวนสาธารณะ หรือสถานที่อื่นก็ดี
แต่ตนเองก็ไม่ค่อยจะมีเวลาหรือโอกาสไปเท่าไรนัก
ย่อมเป็นการจำกัดโอกาสและเวลาในการออกกำลังกายของตนเอง
แล้วก็ส่งผลทำให้ตนเองมีปัญหาเรื่องน้ำหนักหรือสุขภาพได้

นอกจากเรื่องไหว้พระ สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม และออกกำลังกายที่กล่าวแล้ว
ท่านผู้อ่านก็อาจจะพิจารณาเรื่องอื่น ๆ ของตนเองก็ได้ว่า
มีเรื่องอื่น ๆ ไหมที่น่าจะพยายามทำที่บ้านให้ได้
ซึ่งหากทำได้ ก็ย่อมจะเพิ่มโอกาสและเวลาสำหรับเราในการทำเรื่องดังกล่าว
และยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย