Print

เพื่อนธรรมจารี - ฉบับที่ ๒๒๙

 

 

ngod-ngam2 งดงาม
  This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.


ช้างสารชนกัน (ตอนที่ ๒)

dhammajaree 229

 

ในธรรมะใกล้ตัวฉบับที่ ๒๑๕ ในเดือนมกราคม ๒๕๕๘ ที่ผ่านมา
ผมได้เขียนบทความเรื่องช้างสารชนกัน
โดยได้คุยถึงแนวโน้มของสงครามเศรษฐกิจในปี ๒๕๕๘ นี้
ซึ่งอาจจะพัฒนาไปถึงสงครามอาวุธร้ายแรง จนกระทั่งเป็นสงครามโลกครั้งที่ ๓ ก็ได้
http://www.dharmamag.com/mag/index.php/dhammajaree-issues/1144-2015-01-05-05-09-09

หากพิจารณาสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้นนะครับ
ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าอเมริกายังคงหาเรื่องก่อกวนรัสเซียไม่เลิก
โดยอเมริกาพยายามจะนำอาวุธไปติดตั้งในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก
ซึ่งอยู่ใกล้กับรัสเซีย จนทำให้รัสเซียต้องออกมาประกาศว่า
นี่คือภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับแต่สมัยสงครามเย็น
http://www.dailynews.co.th/foreign/328554

http://www.reuters.com/article/2015/06/15/us-usa-military-europe-idUSKBN0OT0TR20150615


แม้ว่าอเมริกาจะพยายามอ้างว่าอาวุธที่จะนำไปติดตั้งในประเทศยุโรปตะวันออกเหล่านี้
เป็นอาวุธเพื่อป้องกันประเทศยุโรปตะวันออกจากการรุกรานของรัสเซีย
แต่เราต้องเข้าใจว่าอาวุธที่ใช้ป้องกันนั้น ก็สามารถนำมาใช้โจมตีได้เช่นกันนะครับ
รัสเซียจะเชื่อได้อย่างไรว่าอเมริกาจะไม่นำอาวุธเหล่านี้ไปโจมตีรัสเซียในระยะเผาขน
ซึ่งในเมื่อจะนำจรวดไปติดตั้งอยู่ในประเทศติดกับรัสเซียอย่างนี้แล้ว
จะไม่ทำให้รัสเซียต้องวิตกกังวลได้อย่างไร
รัสเซียจึงต้องออกมาประกาศไว้ก่อนว่าประเทศไหนหรือตรงจุดไหน
ที่มีการติดตั้งอาวุธของอเมริกาดังกล่าว จะถือเป็นเป้าหมายที่ต้องโดนถล่มก่อน
http://www.wsj.com/articles/russia-threatens-nato-over-missile-shield-1429185058


บางท่านอาจจะสงสัยว่าอเมริกาไปหาเรื่องรัสเซียจริงหรือ
อเมริกาเป็นประเทศประชาธิปไตย และเป็นตำรวจโลกที่คอยช่วยเหลือประเทศอื่นมิใช่หรือ
ในเรื่องที่ว่าอเมริกาเป็นประชาธิปไตย หรือเป็นประเทศที่ดีเลิศนั้น
เป็นภาพลวงตาที่บรรดาภาพยนตร์ฮอลลิวูด หรือสื่อต่าง ๆ สร้างมาหลอกคนในโลกเท่านั้น
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประเทศอเมริกาเป็นประเทศที่ค้าขายอาวุธมากที่สุดในโลก
และเป็นประเทศที่ก่อสงครามกับประเทศอื่น ๆ ไปทั่วมากที่สุดในโลกเช่นกัน
ยกตัวอย่างว่า อเมริกาพยายามจะโฆษณาชวนเชื่อว่า เกาหลีเหนือ หรืออิหร่าน
เป็นประเทศที่พยายามจะสร้างนิวเคลียร์ และเป็นประเทศอันตราย
แต่เราพิจารณาข้อมูลนะครับว่า ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองปี ค.ศ. ๑๙๔๕ แล้ว
เกาหลีเหนือ และอิหร่านได้เคยไปราวีหรือเอาระเบิดไปทิ้งใส่ประเทศไหนบ้าง
ซึ่งก็มีแค่เกาหลีเหนือเคยรบกับเกาหลีใต้ และอิหร่านเคยรบกับอิรัก
แต่หากลองเทียบกับอเมริกาแล้ว เราจะเห็นได้ว่า
อเมริกานำระเบิดไปทิ้งประเทศอื่นมากมายต่างกันสิ้นเชิง ดังต่อไปนี้

ค.ศ. ๒๐๑๔ – ปัจจุบัน ประเทศอิรัก และประเทศซีเรีย
ค.ศ. ๒๐๑๑ – ปัจจุบัน ประเทศโซมาเลีย
ค.ศ. ๒๐๑๑  ประเทศลิเบีย
ค.ศ. ๒๐๐๔ – ปัจจุบัน ประเทศเยเมน
ค.ศ. ๒๐๐๔ – ปัจจุบัน ประเทศปากีสถาน
ค.ศ. ๒๐๐๓ – ๒๐๑๑   ประเทศอิรัก
ค.ศ. ๒๐๐๑ – ปัจจุบัน ประเทศอัฟกานิสถาน
ค.ศ. ๑๙๙๙ ประเทศยโกสลาเวีย – เซอร์เบีย
ค.ศ. ๑๙๙๘ ประเทศอัฟกานิสถาน
ค.ศ. ๑๙๙๘  ประเทศซูดาน
ค.ศ. ๑๙๙๘    ประเทศอิหร่าน
ค.ศ. ๑๙๙๕ ประเทศบอสเนีย
ค.ศ. ๑๙๙๒ – ๑๙๙๔ ประเทศโซมาเลีย
ค.ศ. ๑๙๙๑ ประเทศคูเวต
ค.ศ. ๑๙๘๙ – ๑๙๙๐ ประเทศปานามา
ค.ศ. ๑๙๘๙  ประเทศลิเบีย
ค.ศ. ๑๙๗๙ – ๑๙๘๘ ประเทศอิหร่าน
ค.ศ. ๑๙๗๙ ประเทศนิคารากัว
ค.ศ. ๑๙๘๑ – ๑๙๙๒ ประเทศเอลซาวาดอร์
ค.ศ. ๑๙๘๖ ประเทศลิเบีย
ค.ศ. ๑๙๘๓  ประเทศเกรเนดา
ค.ศ. ๑๙๘๒ – ๑๙๘๔ ประเทศเลบานอน
ค.ศ. ๑๙๖๙ – ๑๙๗๐ ประเทศกัมพูชา
ค.ศ. ๑๙๖๑ – ๑๙๗๓  ประเทศเวียดนาม
ค.ศ. ๑๙๖๔ – ๑๙๗๓  ประเทศลาว
ค.ศ. ๑๙๖๕ ประเทศเปรู
ค.ศ. ๑๙๖๕ – ๑๙๖๖ ประเทศสาธารณรัฐโดมินิกัน
ค.ศ. ๑๙๖๔ ประเทศกัวเตมาลา
ค.ศ. ๑๙๖๔ ประเทศคองโก
ค.ศ. ๑๙๖๑ ประเทศคิวบา
ค.ศ. ๑๙๖๐ ประเทศกัวเตมาลา
ค.ศ. ๑๙๖๙ – ๑๙๖๐ ประเทศคิวบา
ค.ศ. ๑๙๕๘ ประเทศอินโดนิเซีย
ค.ศ. ๑๙๕๔ ประเทศกัวเตมาลา
ค.ศ. ๑๙๕๐ – ๑๙๕๓  ประเทศจีน
ค.ศ. ๑๙๕๐ – ๑๙๕๓  ประเทศเกาหลี
ค.ศ. ๑๙๔๕ – ๑๙๔๖ ประเทศจีน

      

https://wikispooks.com/wiki/US_Bombing_campaigns_since_1945

ดังนั้นประเทศที่อันตรายที่แท้จริงนั้น น่าจะเป็นอเมริกามากกว่า
โดยในบางกรณีที่เอาระเบิดไปทิ้งในประเทศคนอื่นนั้น
ก็ทำไปอย่างไม่มีเหตุผลอันสมควร ยกตัวอย่างเช่น
กรณีที่อเมริกาบุกอิรักในปี ค.ศ. ๒๐๐๓
โดยอ้างว่าอิรักมีอาวุธชีวภาพหรืออาวุธเคมีร้ายแรงในครอบครอง
แต่หลังจากที่เอาระเบิดไปทิ้งในอิรัก และยกกองทัพไปถล่มอิรักเสียราบแล้ว
ข้อเท็จจริงก็ปรากฏภายหลังว่า ไม่ปรากฏว่าอิรักมีอาวุธชีวภาพ
หรืออาวุธเคมีร้ายแรงดังที่อเมริกากล่าวอ้างแต่อย่างใด
http://mic.com/articles/101420/no-iraq-didn-t-have-weapons-of-mass-destruction-after-all

http://www.wsj.com/articles/bush-the-truth-and-iraqs-weapons-of-mass-destruction-letters-to-the-editor-1423868736


กรณีจึงเป็นเรื่องที่อเมริกากุเรื่องโกหกหลอกลวงคนทั้งโลก
เพื่อที่อเมริกาจะเข้าไปยึดครองอิรัก ซึ่งเต็มไปด้วยทรัพยากรน้ำมัน
และตนเองจะได้ก่อสงคราม อันจะเป็นประโยชน์แก่บริษัทค้าอาวุธ
เพราะในเมื่ออเมริกาเป็นประเทศที่ค้าอาวุธแล้ว
สิ่งที่บริษัทค้าอาวุธต้องการก็คือ ความวุ่นวาย และสงครามระหว่างประเทศ
ยิ่งมีสงครามมากเท่าไร ก็ยิ่งขายอาวุธได้มากเท่านั้น
โดยที่ในเมื่ออเมริกากุเรื่องอิรักมาหลอกคนทั้งโลกแล้ว เรื่องอื่น ๆ ก็ย่อมมีครับ

อเมริกาได้เข้าไปวุ่นวายในยูเครนโดยสนับสนุนให้ยูเครนแตกแยกกับรัสเซีย
โดยยูเครนเองไม่มีเงินที่จะซื้ออาวุธมารบ ก็ให้ IMF ปล่อยเงินกู้ให้แก่ยูเครน
http://russia-insider.com/en/2015/03/16/4531
ยูเครนได้เงินกู้มา แทนที่จะนำไปพัฒนาประเทศให้เจริญ
หรือนำเงินช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากความอดยาก
แต่กลับนำเงินกู้มาซื้ออาวุธจากกลุ่มประเทศ NATO รวมทั้งอเมริกาด้วย

http://www.theguardian.com/world/2015/feb/11/us-weapons-to-ukraine-would-be-matched-by-russian-arms-to-rebels


http://www.rt.com/news/240705-ukraine-poroshenko-weapons-europe/


http://www.wsj.com/articles/ukraine-president-meets-u-a-e-officials-to-secure-weapons-purchase-1424788248


ซึ่งท้ายสุดแล้ว คนที่ได้เงินจากสงครามนี้ก็คือบริษัทค้าอาวุธ
แต่ประชาชนยูเครนเองไม่ได้อะไร มีแต่สงครามภายในประเทศ และหนี้สิน

การที่อเมริกาไปสร้างความวุ่นวายในประเทศติดกับรัสเซีย
และพยายามไปติดตั้งอาวุธร้ายแรงในประเทศใกล้กับรัสเซียเช่นนี้
ย่อมเป็นการยุแหย่รัสเซียอย่างชัดเจน ซึ่งรัสเซียต้องใช้ความอดทนอย่างมาก
หากเทียบกับสมัยอดีตก็คล้ายกับวิกฤตการณ์ที่สหภาพโซเวียตจะติดตั้งอาวุธให้คิวบา
ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ใกล้กับอเมริกา ทำให้อเมริกาออกมาประกาศว่า
หากสหภาพโซเวียตติดอาวุธให้กับคิวบาเท่ากับประกาศสงครามกับอเมริกาในทันที
https://en.wikipedia.org/wiki/Cuban_Missile_Crisis
แต่ในปัจจุบันอเมริกากลับพยายามจะติดตั้งอาวุธในประเทศติดกับรัสเซียเสียเอง

ในทางฝั่งเอเชียเอง อเมริกาก็พยายามยุแหย่หาเรื่องจีน
โดยพยายามเข้ามาวุ่นวายและยุ่งเกี่ยวในเรื่องหมู่เกาะทะเลจีนใต้
ซึ่งจีนกำลังมีปัญหาพิพาทกับหลายประเทศในแถบทะเลจีนใต้
โดยอเมริกาพยายามเข้ามาเรียกร้องให้จีนถอนกำลังและสิ่งปลูกสร้างออกจาก
หมู่เกาะทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จีนยอมรับไม่ได้
แต่อเมริกาก็ยังพยายามเข้ามาวุ่นวายไม่เลิก
ซึ่งหลายฝ่ายได้ให้ความเห็นว่ากรณีนี้สามารถนำไปสู่สงครามระหว่างอเมริกากับจีนได้

http://www.telegraph.co.uk/news/worldnews/asia/china/11630185/US-China-war-inevitable-unless-Washington-drops-demands-over-South-China-Sea.html


http://www.theage.com.au/comment/south-china-sea-the-tiny-islands-that-could-lead-to-war-20150601-gheecs.html


http://time.com/3904129/south-china-sea-spratlys/

ในทางด้านเศรษฐกิจเอง สงครามเศรษฐกิจเต็มรูปแบบก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
โดยฝ่ายอเมริกาได้ถล่มขายหุ้นในตลาดหุ้นของจีนทำให้หุ้นตกกว่า ๓๐%
และมูลค่าในตลาดหุ้นจีนหายไปกว่า ๓ ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
http://geopolitics.co/2015/07/18/wall-street-attack-on-chinese-stock-market-confirmed-by-us-ceos/

http://www.economist.com/blogs/freeexchange/2015/07/chinas-stockmarket-crash

ในส่วนของประเทศไทยเอง ซึ่งไทยเราก็คงไม่อยากจะไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย
ในความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจเหล่านี้
แต่ประเทศมหาอำนาจเหล่านี้ก็จะต้องหาพวก และย่อมจะต้องหาทางมาวุ่นวายกับไทยเรา
อย่างเช่นใน ค.ศ. ๒๐๑๒ ที่ผ่านมา ทาง NASA ก็จะมาขอใช้สนามบินอู่ตะเภาของไทย
โดยอ้างว่าจะใช้เพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และไม่เกี่ยวกับเรื่องการทหาร
แต่ถามว่าใครจะเชื่อบ้างว่าจะไม่เกี่ยวกับเรื่องการทหารจริง ๆ
แล้วทำไม NASA จะต้องมาใช้สนามบินอู่ตะเภาของไทยด้วย
ในเมื่อสนามบินอื่นในประเทศอื่นก็มีเยอะแยะ
http://www.bangkokpost.com/news/politics/296312/nasa-sets-sights-on-u-tapao-for-study-base

ถึงปัจจุบันนี้ อเมริกาก็ยังไม่เลิกที่จะต้องการใช้ไทยเป็นฐานทัพ
โดยอ้างเรื่องผู้อพยพชาวโรฮีนจา (หรือโรฮิงญา) ที่อพยพกันทางทะเล
ว่าต้องการขอใช้สนามบินอู่ตะเภา หรือสนามบินภูเก็ตของไทย
เพื่อตั้งฐานช่วยเหลือผู้อพยพทางทะเลเหล่านี้

http://www.phuketgazette.net/phuket-news/Phuket-Airport-possible-base-US-military-support/59215


ถ้าอเมริกาต้องการจะช่วยเหลือผู้อพยพจริง ๆ แล้ว
ทำไมอเมริกาไม่นำเรือไปรอช่วยผู้อพยพที่น่านน้ำแถบพม่าหรือบังคลาเทศเสียเลย
แล้วก็ให้เรือขนหรือช่วยผู้อพยพไปที่อื่นได้เลย
จะเอาเครื่องบินมาใช้ที่สนามบินของไทยทำไม (ในเมื่อผู้อพยพนั้นลอยมาทางเรือ)
ซึ่งถ้ารูปเรื่องมันมาแนวนี้แล้ว เราก็ย่อมพอจะเห็นได้นะครับว่า
การที่มีปัญหาชาวโรฮีนจาอพยพเหล่านี้เกิดขึ้น
ใครจะได้ประโยชน์ และใครที่น่าจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้

ทีนี้ ในเมื่อฝ่ายไทยไม่ยอมฝ่ายอเมริกาในหลาย ๆ เรื่อง
ก็เป็นธรรมดาที่เราจะต้องโดนอเมริกาเล่นงานและบีบบังคับในหลาย ๆ ทาง
อย่างเมื่อไม่นานมานี้ อเมริกาก็ประกาศให้ไทยอยู่ใน Tier 3
ในกลุ่มประเทศที่มีปัญหาการค้ามนุษย์
ทั้ง ๆ ที่ในขณะเดียวกัน อเมริกาปรับมาเลเซีย และคิวบาไปอยู่ใน Tier 2
(ซึ่งแม้องค์กรสิทธิมนุษยชนสากลก็รับไม่ได้ที่มาเลเซียหลุดไปอยู่ที่ Tier 3)
โดยอเมริกาให้มาเลเซีย และคิวบาไปอยู่ใน Tier 2 ได้
เพราะว่ามาเลเซียได้บรรลุผลเจรจาข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนรวมชาติแปซิฟิก
หรือทีพีพี (Trans-Pacific Partnership) กับอเมริกาแล้ว
ในขณะที่กรณีประเทศคิวบาที่อยู่ใน Tier 3 มาตลอด ๑๒ ปี
แต่ก็หลุดจาก Tier 3 ทันทีที่อเมริกาประกาศฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับคิวบา
http://www.bangkokbiznews.com/mobile/view/news/658551

ส่วนประเทศอื่น ๆ ที่อยู่ใน Tier 3 ก็เช่น รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ ลิเบีย และซีเรีย เป็นต้น
ซึ่งก็คือประเทศที่มีความขัดแย้งและไม่ยอมตกเป็นอาณานิคมให้อเมริกานั่นแหละครับ
สรุปแล้วเรื่องเหล่านี้ ผมเห็นว่าไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของหลักสิทธิมนุษยชนจริง ๆ หรอก
แต่ทั้งหมดคือเกมการเมืองและผลประโยชน์ระหว่างประเทศทั้งนั้นแหละ
หากไทยยอมเป็นอาณานิคมให้อเมริกา โดยยอมให้อเมริกามาตั้งฐานทัพในไทย
หรือยอมเข้าทำข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนรวมชาติแปซิฟิก
หรือทีพีพี (Trans-Pacific Partnership) กับอเมริกาแล้ว ไทยก็หลุด Tier 3 ได้ไม่ยากหรอกครับ
แต่ในเมื่อเราไม่ยอมเป็นอาณานิคม และไม่ยอมเป็นทาสเขา เราก็ต้องถูกกดดันเช่นนี้ไปเรื่อย

เรื่องการพยายามกดดันไทยนี้ก็จะมีในหลาย ๆ ทาง และหลายรูปแบบนะครับ
อย่างเช่น ในฝั่งสหภาพยุโรปก็จะพยายามกดดันไทยในเรื่องของประมง
โดยอ้างว่าไทยทำประมงผิดกฎหมาย และพยายามจะกีดกันสินค้าของไทย
เพื่อให้ไทยได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ
http://www.bangkokpost.com/news/general/626108/eu-warns-thailand-still-not-doing-enough-to-end-illegal-fishing

รวมถึงเรื่องการพยายามทำลายเศรษฐกิจไทยในทางอื่น ๆ เช่น ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลง
ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ค่าเงินบาทได้อ่อนตัวลงไปถึง ๓๔.๙๑ บาทต่อดอลลาร์
ซึ่งเป็นการอ่อนตัวมากที่สุดในรอบ ๖ ปี
และบางสำนักวิจัยได้คาดการณ์ว่าอาจจะไหลไปถึง ๓๕ บาทต่อดอลลาร์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1437887378

ในเรื่องของการเปิดตลาดการเงินเสรีในลักษณะนี้
หากไทยเราอยู่ในตลาดการเงินเสรีก็มีแต่เสียเปรียบประเทศมหาอำนาจ
เพราะอเมริกาสามารถพิมพ์เงินดอลลาร์ได้ไม่จำกัด โดยไม่ต้องมีทองคำหนุนหลัง
เราลองพิจารณาตัวอย่างกันง่าย ๆ นะครับ
อเมริกาสามารถพิมพ์เงินดอลลาร์เข้ามาลงทุนในไทยได้เท่าที่อเมริกาต้องการ
เมื่อเงินตราต่างประเทศไหลเข้าไทยเยอะ เงินบาทก็แข็งค่า
หากอเมริกานำเงินมาลงทุนในตลาดหุ้น ตลาดหุ้นก็ขึ้น
พอเงินบาทแข็งค่าขึ้น และตลาดหุ้นขึ้น อเมริกาสามารถดึงเงินลงทุนออกจากไทย
นอกจากเขาจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว (จะเป็นดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรก็ดี
หรือจะเป็นเงินปันผล หรือส่วนเกินทุนในตลาดหุ้นก็ดี) เขายังได้กำไรค่าเงินอีก
โดยตอนแรก ดอลลาร์ที่นำเข้ามานั้นแลกเงินบาทได้มาก เพราะเงินบาทอ่อน
แต่ขานำเงินกลับ เงินบาทแข็ง เขาก็นำเงินบาทแลกเงินดอลลาร์กลับได้มากขึ้น
ประเทศไทยเรากว่าจะได้เงินตราต่างประเทศมานั้นยากแสนยาก
ต้องลงทุนทำเกษตรกรรมเหนื่อยยากลำบาก หรือต้องให้บริการแสนเหนื่อยยาก
แต่ก็ต้องมาเสียเงินตราต่างประเทศให้แก่อเมริกาอย่างง่าย ๆ
โดยที่เขาพิมพ์เงินเข้ามาลงทุน แล้วก็ปั่นตลาดหุ้น หรือค่าเงินไทยเราได้ง่าย ๆ
และจะทำเช่นนี้กี่รอบก็ได้ ซึ่งกรณีเช่นนี้ ไม่ใช่ตลาดเงินเสรีที่ยุติธรรมแล้ว
แต่เป็นกรณีนี้ที่ประเทศมหาอำนาจปั่นตลาดหุ้น และปั่นค่าเงินของประเทศเล็ก
ซึ่งหากเราเดินตามเกมนี้ไปเรื่อย ก็มีแต่เสียเปรียบให้เขาไปเรื่อย

ทีนี้ ลองพิจารณาหากเราต่อต้านหรือไม่ยอมเป็นอาณานิคมให้เขาแล้ว เราก็โดนกดดัน
เช่นนี้แล้ว เราจะยอมเดินตามและเป็นอาณานิคมให้เขาดีหรือเปล่า
เราลองดูตัวอย่างของประเทศกรีซที่อยู่ในกลุ่ม NATO นะครับ
ซึ่งประเทศกรีซได้เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจทำให้ประชาชนเดือดร้อนมาหลายปีแล้ว
หากจะย้อนรอยไปว่ากรีซเกิดวิกฤติเช่นนี้ก็คงจะมีหลายสาเหตุ
ซึ่งบางข้อมูลก็กล่าวว่าเพราะปัญหาคอรัปชั่นและโครงการประชานิยม
http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/634959
แต่มีประเด็นสำคัญที่ต้องการจะชี้ให้เห็นก็คือ
ที่ผ่านมานั้น กรีซได้เคยใช้เงินจำนวนมาก เพื่อซื้ออาวุธมูลค่าสูงมาก
จากอเมริกา เยอรมนี และฝรั่งเศส ซึ่งการซื้ออาวุธดังกล่าวไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อกรีซ
แต่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่ม NTAO เอง และประเทศที่ขายอาวุธเหล่านั้น
แต่ประชาชนกรีซกลับจะต้องมารับเคราะห์เดือดร้อนและรับปัญหาเรื่องหนี้สินที่เกิดขึ้น
http://www.thairath.co.th/content/509929

จริง ๆ แล้ว ปัญหาของประเทศกรีซจะไม่ลุกลามบานปลายขนาดนี้
และกรีซจะสามารถแก้ไขปัญหาตนเองได้ง่ายกว่านี้
หากกรีซไม่นำตนเองไปเข้าร่วมใช้เงินยูโร
เพราะการที่กรีซไปเข้าร่วมใช้เงินยูโรนี้
ทำให้ตนเองสูญเสียอธิปไตยทางการเงินให้แก่ธนาคารกลางยุโรป (ECB)
เราลองพิจารณาถึงกรณีปกติของประเทศอื่นที่ประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ
ประเทศเหล่านั้นย่อมสามารถใช้มาตรการดอกเบี้ยช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้
และค่าเงินที่อ่อนตัวลงของประเทศนั้น ย่อมทำให้ประเทศนั้นสามารถแข่งขันได้ดีขึ้น
แต่ในกรณีของกรีซที่ประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจแล้ว
กรีซก็ไม่สามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยได้ เพราะต้องอิงกับธนาคารกลางยุโรป
ในส่วนของค่าเงินก็ต้องใช้เงินสกุลยูโร ซึ่งเป็นสกุลแข็งค่า
จึงไม่ได้ช่วยให้ทำให้กรีซแข่งขันได้ดีขึ้น
กรีซก็เหลือเพียงทางเลือกที่จะต้องขายรัฐวิสาหกิจดี ๆ หรือทรัพย์สินดี ๆ
เพื่อนำเงินมาจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ และก็ยังไม่เห็นอนาคตว่าจะชำระหนี้หมดได้อย่างไร
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000082435

ในเรื่องที่กรีซเข้าร่วมใช้เงินยูโรแล้วประสบปัญหาเช่นนี้
ประธานธนาคารกลางโปแลนด์ได้ออกมาประกาศว่า
โปแลนด์ไม่ปรารถนาจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มยูโรโซนและใช้เงินสกุลยูโรร่วมกัน
โดยโปแลนด์จะไม่เข้าร่วมกับกลุ่มยูโรโซน ไม่ว่าจะในเวลานี้ หรือในอนาคตข้างหน้า
เนื่องจากไม่ต้องการเผชิญกับความเสี่ยงใด ๆ ที่จะนำมาซึ่งวิกฤตทางเศรษฐกิจและการเงิน
กลุ่มยูโรโซนเวลานี้มีสภาพที่ไม่ต่างจากองค์กรความร่วมมือ ที่เสี่ยงจะถูกเผาจนมอดไหม้
สิ่งที่เกิดขึ้นกับชาติสมาชิกยูโรโซนอย่างกรีซนั้น ทำให้โปแลนด์เข็ดขยาด
และไม่ปรารถนาจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวิกฤตที่ยังคุกรุ่นนี้
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000084592
โดยสรุปแล้ว หากเรายอมเป็นอาณานิคมแก่ตะวันตก และเดินตามตะวันตกไปเรื่อย
ก็อย่าคิดว่าไทยเราจะไม่ตกเป็นเหยื่อนะครับ
เพราะว่าแม้แต่ประเทศในยุโรปด้วยกันเอง เขาก็ยังเชือดและกอบโกยกันหน้าตาเฉย

สรุปแล้วไทยเราก็ต้องเหนื่อยและลำบากในสถานการณ์เช่นนี้
เปรียบเสมือนว่าช้างสารชนกันแล้ว หญ้าแพรกก็ต้องเดือดร้อนไปด้วย
จะให้สบายและลอยตัวได้ง่าย ๆ นั้น คงไม่มีหรอกครับ
หากไทยไปต่อต้านหรือขัดขืนเขา ไทยเราก็จะโดนกดดันและโดนโจมตีทางเศรษฐกิจ
แต่หากไทยไปยอมเป็นทาสเขา เขาก็จะมาตั้งฐานทัพในไทย
และก็จะมาเอารัดเอาเปรียบทางเศรษฐกิจเราในทางอื่น ๆ อยู่ดี
โดยส่วนตัวแล้ว ผมเห็นว่าเราต่อต้านและขัดขืนเขาย่อมจะปลอดภัยว่า
เพราะแม้ว่าจะโดนโจมตีหรือโดนถล่มเศรษฐกิจอย่างไรก็ตาม
แต่ประเทศไทยเราก็ยังอยู่ได้ เพราะประเทศเราเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ
ในอีกทางหนึ่ง หากเรายอมเป็นทาสเขา และให้เขามาตั้งฐานทัพในไทยแล้ว
ไทยเราจะเป็นเป้าหมายของจรวดนิวเคลียร์ของฝ่ายตรงข้าม
ซึ่งระดับความอันตรายและความเสี่ยงนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ในเรื่องสงครามนี้ก็ไม่ใช่ว่าไทยเราจะไม่เห็น และไม่เตรียมพร้อมนะครับ
สังเกตได้ว่า ไทยเราก็อยู่ระหว่างออกกฎหมายในการฝึกกำลังพลสำรอง
โดยเหตุผลก็เพื่อพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย
และบูรณภาพแห่งเขตอำนาจรัฐ โดยต้องจัดให้มีกำลังทหารยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย
จำเป็นเพียงพอเพื่อรักษาเอกราชอธิปไตยและความมั่นคงของรัฐ
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000076892
ดังนั้นแล้วก็ไม่ใช่ว่าไทยจะไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรเลย

ในท้ายนี้ ขอเรียนว่าในสถานการณ์ปกติที่มีสันติภาพแล้ว เราก็ยังไม่ควรประมาทในชีวิต
แต่ในสถานการณ์ที่เห็นเส้นทางไปสู่สงคราม เรายิ่งไม่ควรประมาทในชีวิตครับ
โดยหากภาวนาได้ก็ควรรีบหมั่นภาวนา
แต่หากภาวนาไม่ได้แล้ว ก็มุ่งรักษาศีล ๕ ให้แข็งแรงก็ยังดีครับ

+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

หมายเหตุ ในเรื่องการอัพเดทการก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรม
อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์นั้น ขอไปอัพเดทต่อในตอนหน้านะครับ
เพราะเนื้อหาบทความยาวมากแล้ว