Print

เพื่อนธรรมจารี - ฉบับที่ ๒๒๓

ทำความสะอาดบ้าน

ngod-ngam2 งดงาม
  This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

dharmajaree 223 

งานทำความสะอาดบ้านเป็นงานที่เราต้องอยู่เป็นประจำเรื่อย ๆ
ถ้าเว้นไม่ทำเพียงไม่กี่วัน ฝุ่นก็เริ่มจะมาเยอะแล้ว
ยิ่งถ้าบ้านเราอยู่ริมถนน ริมทางด่วน หรือริมสะพาน
หรืออยู่ใกล้บริเวณที่เขากำลังก่อสร้าง ก็ย่อมจะมีฝุ่นเข้าบ้านได้เร็วมาก
โดยหากเราปล่อยให้มีฝุ่นอยู่ในบ้านเยอะ ๆ เช่น ในห้องนอน เป็นต้น
ก็ย่อมจะไม่ส่งผลดีกับสุขภาพเราและคนในครอบครัวนะครับ

แม้ว่างานทำความสะอาดบ้านจะเป็นงานที่สำคัญ ซึ่งเราจะต้องทำอยู่เป็นประจำ
แต่ที่สำคัญกว่างานทำความสะอาดบ้าน คืองานทำความสะอาดใจ
เพราะหากบ้านสกปรก ผลร้ายที่สุดก็เพียงแค่ทำให้เสียสุขภาพ
แต่ไม่ได้ทำให้ไปนรก หรืออบายภูมิอื่น ๆ ด้วย
แต่ถ้าหากใจสกปรก หรือมีอกุศลอยู่มากแล้ว
ใจที่สกปรกนั้นย่อมก่อให้เกิดอกุศลกรรมทางกาย วาจา และใจ
และกรรมเหล่านั้นย่อมนำพาให้เราไปนรก หรืออบายภูมิอื่น ๆ ได้
การทำความสะอาดใจจึงเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญอย่างมาก
และเป็นสิ่งที่เราพึงทำอยู่เสมอ

ในการทำความสะอาดบ้านนั้น เราย่อมมีอุปกรณ์และน้ำยาสำหรับใช้ทำความสะอาด
ในการทำความสะอาดใจนั้น เราก็มีอุปกรณ์เช่นกัน
โดยอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดใจเรา กล่าวโดยง่ายก็คือ
ไตรสิกขา หรือศีล สมาธิ และปัญญานั่นเอง

งานทำความสะอาดบ้านเป็นงานที่ต้องทำไปอย่างไม่มีจบสิ้นจนกว่าจะไม่มีบ้าน
โดยตราบใดที่ยังมีบ้านอยู่ ตราบนั้นก็ต้องทำความสะอาด
ต่อให้บ้านนี้หมดไป ถ้าไปมีบ้านใหม่อีก ก็ต้องทำความสะอาดอีก
ส่วนงานทำความสะอาดใจนั้น เมื่อเข้าถึงธรรมในที่สุดแล้ว
งานดังกล่าวมีวันจบสิ้น และไม่ย้อนกลับมามีภาระที่ต้องทำความสะอาดอีก

ในที่นี้ ผมนึกถึงข้อธรรมในหนังสือชื่อ “เว่ยหลาง” ที่แปลโดยท่านพุทธทาสภิกขุ
โดยในสมัยที่ท่านเว่ยหลางยังศึกษาธรรมะกับอาจารย์นั้น
มีอยู่วันหนึ่งท่านอาจารย์เรียกประชุมศิษย์ทั้งหมด
และให้แต่ละคนเขียนโศลกบรรยายธรรมเพื่อทดสอบภูมิธรรม
“ชินเชา” ซึ่งเป็นหัวหน้าศิษย์และเป็นผู้ที่ใคร ๆ ยกย่องว่าเป็นผู้เข้าใจธรรมะอย่างลึกซึ้ง
ได้แต่งโศลกบทหนึ่ง เขียนไว้ที่ผนังว่า
"กาย คือต้นโพธิ์
ใจ คือกระจกเงาใส
จงหมั่นเช็ดถูเป็นนิตย์
อย่าปล่อยให้ฝุ่นละอองจับ"

ท่านเว่ยหลางได้ฟังโศลกบรรยายธรรมของชินเชาแล้ว
มีความรู้สึกว่า ผู้แต่งโศลกยังเข้าใจไม่ลึกซึ้ง จึงแต่งโศลกแก้
เสร็จแล้ววานให้เพื่อนช่วยเขียนให้ เพราะท่านเว่ยหลางอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้
โศลกบทนั้นมีความว่า
"เดิมที ไม่มีต้นโพธิ์
ไม่มีกระจกเงาใส
เมื่อทุกอย่างว่างเปล่าตั้งแต่ต้น
ฝุ่นละอองจะลงจับอะไร"

เช่นนี้แล้ว ตราบใดที่เรายังยึดถือกายเป็นต้นโพธิ์ ยังยึดถือใจเป็นกระจกเงาใส
เราก็ยังทุกข์เพราะกาย และใจได้นะครับ
และเราก็ยังต้องหมั่นเช็ดฝุ่นจากกาย และใจไปเรื่อย ๆ
และวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏต่อไปอย่างไม่มีจบสิ้น

บางท่านอาจจะรู้สึกว่างานทำความสะอาดบ้าน เป็นงานที่เสียเวลาหรือน่าเบื่อ
และอยากจะนำเวลาทำความสะอาดบ้านไปใช้ภาวนาในรูปแบบมากกว่า
แต่จริง ๆ แล้ว หากเราภาวนาในชีวิตประจำวันเป็น
เราก็สามารถภาวนาในระหว่างที่ทำความสะอาดบ้านได้เช่นกัน
ในระหว่างที่ทำความสะอาดบ้านนั้น กายเคลื่อนไหวอย่างไร ใจมีสติรู้ทัน
จิตเคลื่อนไหว หรือทำงานอย่างไร ใจมีสติรู้ทัน
เช่น รู้สึกเบื่อ รู้สึกเสียเวลา รู้สึกอยากไปทำอย่างอื่น เป็นต้น
เรามีสติรู้ทัน และเห็นความเป็นไตรลักษณ์ของกาย และจิต
ก็ถือว่าเราสามารถภาวนาในเวลาดังกล่าวได้เช่นกัน
และเป็นการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่ามาก ๆ

 

+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +  + +


หมายเหตุ

ในช่วงนี้ ผมของดประชาสัมพันธ์งานบุญเรื่องศาลาปฏิบัติธรรม
ที่อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ ไว้ชั่วคราวนะครับ
เพราะต้องการเชิญชวนให้ญาติธรรมทุกท่าน
ได้ร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาลก่อนครับ
โดยเราสามารถร่วมสบทบทุนช่วยเหลือได้ที่บัญชีของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
บัญชีชื่อ “หัวใจไทย ส่งไปเนปาล”
ธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล
เลขที่บัญชี ๐๖๗-๐-๑๐๓๓๐-๖
http://www.dailynews.co.th/politics/317232