Print

ธนาคารความสุข - ฉบับที่ ๑๙๑

eddy_cover

เมตตาธรรมค้ำจุนโลก

โดย aston27
aston2

boh191

มีคนมาบ่นกับผมหลายคนว่า ช่วงนี้ร้อนอก ร้อนใจ จิตกระสับกระส่ายหวั่นไหว มีโทสะง่าย ไม่รู้เป็นอะไร

ตอบให้สบายใจว่า ใครๆก็เป็นนะ บางวันผมก็เป็น เพราะกระแสจิตกระแสใจของคนจำนวนมาก กำลังอยู่ในโหมดโทสะมูลจิต

ถามว่า แล้วเราทำอะไรได้ไหม ตอบว่าได้ครับ แต่ต้องแก้ที่ตัวเอง อย่าไปพยายามแก้คนอื่น เจริญสติ เจริญเมตตาไปนั่นแหละ

คำพูดหรือการกระทำของคนอื่น เป็นเพียงเหตุปัจจัยภายนอกที่มากระทบนะครับ ตัวที่จะตัดสิน ชี้ขาด ฟันธง ปรุงแต่งว่าดี แย่ สุข ทุกข์ ใช่ ไม่ใช่ หรือ น่าเบื่อว่ะ คือจิตใจของเราเองนะ

เวลาบอกให้เจริญเมตตา หลายท่านจะมีปัญหาว่า พยายามแผ่เมตตาแล้ว แต่แผ่เท่าไหร่ ใจก็ไม่เอาด้วย อันนี้แก้ไม่ยากครับ ครูบาอาจารย์ท่านสอนให้เราเจริญเมตตาให้ตัวเองก่อน มีสติ รู้สึกตัวว่าจิตใจกำลังเร่าร้อน หนัก ทึบ ด้วยแรงโทสะ

เวลาเห็นจิตใจตัวเองเป็นทาสโทสะ เราจะรู้สึกไม่ยากว่า เออ... จิตนี่มันก็น่าสงสารเนอะ วันๆมันก็เป็นทาสกิเลสความหลง กิเลสความโลภ กิเลสความโกรธ วนเวียนไปมา ช่วงเวลาที่จะมีสติพ้นจากภาวะทาสได้ มีสั้นนิดเดียว

เห็นแบบนี้ได้ จิตจะมีเมตตาต่อตัวเอง ว่าจิตเรามันน่าสงสารเนาะ ใจจะเต็มอิ่มมีพลังของเมตตาขึ้นมา เราเอากระแสตัวนี้แหละ ไปแผ่ให้คนอื่นนะ ว่าเขาก็มีจิตใจเหมือนเรา เป็นทาสกิเลสพอๆกับเรานั่นแหละ เผลอๆจะมากกว่าเพราะไม่รู้ ไม่เห็นเสียด้วยซ้ำ

ส่วนหนึ่งที่เราขาดเมตตา เพราะเราขาดปัญญา ขาดปัญญาเพราะเราไม่ทันได้พิจารณา หรือพิจารณาแล้วก็ไม่เห็นความจริง อย่างที่ยกตัวอย่างไป

เคยมีคนถามผมว่า เราจะเมตตาคนที่เป็นคนเลวในสายตาเราได้ยังไง ตอบว่า ต้องมองเขาเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ครับ

สมเด็จพระญาณสังวร พระสังฆราชฯ ท่านตรัสว่า “การคิดถึงใจตนเองเมื่อยามทุกข์ร้อนนั้น เป็นวิธีที่จะทำให้เราเข้าใจซาบซึ้งในความทุกข์ของผู้อื่นได้ เราทุกข์ เป็นอย่างไร คนอื่นทุกข์ก็เช่นเดียวกัน”

มีหนังคาวบอยเรื่องหนึ่งชื่อ Pat Garrett & Billy The Kid ถึงจะไม่รู้จักหนัง ก็อาจจะเคยได้ยินชื่อ บิลลี่ เดอะคิด จอมโจรคาวบอยเลื่องชื่อที่มีคนเอามาสร้างหนังหลายหน เคยค้นประวัติเขาถึงรู้ว่า มีหลายเรื่องที่เราไม่เคยรู้และเข้าใจผิด

อย่างแรกที่คนเข้าใจผิดก็คือ เขาไม่ได้ชื่อบิลลี่ เขาชื่อวิลเลียม เฮนรี่ แมคคาร์ธี และเขาไม่ได้เลวมาแต่เกิด ชีวิตเขาออกจะน่าสงสาร เขาเป็นเด็กกำพร้าพ่อ เคยผ่านช่วงอดอยากกับแม่มา ต้องเร่ร่อนอยู่นาน พอแม่เขาแต่งงานใหม่แทนที่ชีวิตจะดีขึ้น พ่อเลี้ยงก็ดันติดการพนัน

จุดเปลี่ยนในชีวิตของบิลลี่ เดอะคิด คือการที่เขาต้องย้ายออกจากโรงเตี๊ยมที่ทำงาน ไปอยู่ในห้องเช่า แล้วออกหางานรับจ้างทั่วไปประทังชีพ ด้วยความอดอยาก เขาคิดสั้นขโมยชีสจากร้านชำและโดนจับเข้าคุกครั้งแรก

ส่วนครั้งที่สอง เป็นข้อหาจากคดีที่เขาไม่ได้ทำ แต่เพราะเพื่อนร่วมห้องเช่าขโมยของมาซ่อนไว้ จากคดีที่สองนี้ บิลลี่ตัดสินใจหนีออกจากคุกผ่านทางปล่องไฟ และเริ่มมีสถานะเป็นนักโทษแหกคุกเป็นครั้งแรก ก่อนจะถลำลึกไปเรื่อยๆในเวลาต่อมา

เอาแบบย่อๆก็แล้วกันนะครับ แค่อยากบอกว่า บางทีเราอาจจะมองใครบางคนจากสิ่งแย่ๆที่เขาทำ โดยลืมนึกว่าคนเรามีหลายด้านหลายมุม

กล่องใบหนึ่ง เราอาจจะมองเห็นแค่ด้านเดียว สองด้าน แต่ลืมไปว่าจริงๆมีอีกหลายมุม หลายด้านที่เราไม่เห็น เคยถามคนบางคนว่าเขาว่ากล่องมีกี่ด้าน เขาพลิกกล่องดูแล้วตอบว่า ๖

แล้วคุณว่าเท่าไหร่?

คำตอบจริงๆคือ ๑๒ ด้าน เพราะอย่าลืมว่า กล่องมันมีด้านในอีก ๖ ด้านนะ


สุขสันต์วันที่เมตตา ยังค้ำจุนโลกนี้ครับ