Print

ธนาคารความสุข - ฉบับที่ ๑๕๙

eddy_coverพิสูจน์อักษร พิสูจน์ใจ

โดย aston27
aston2

 bank-159

(ภาพประกอบจากความใจดีของน้องแม็ค McDonald Zen ครับ)

 

อย่างที่หลายท่านรู้ว่า ผมเพิ่งออกหนังสือใหม่อีกสองเล่ม

คือ “ถามตามใจตอบตามจริง” และ “เติมธรรมในช่องว่าง”

 

เล่มแรกนั้นเป็นการรวมเล่ม คำถาม-ตอบ ของผมจาก Twitter

จัดพิมพ์และจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์ใยไหม

ฟังชื่อแล้วบางท่านตกใจ ว่าวัยและแนวการเขียนของผม

มันดูไม่เข้ากับบุคลิกของใยไหม ที่สวยใสไร้สิวหรือเปล่า ^^”

 

ความจริงก็คือทางสำนักพิมพ์เขาอยากทำหนังสือแนวธรรมะ

ที่สอดแทรกเรื่องความจริงของโลกให้เด็กๆได้อ่านบ้าง

เขาเลยยอมมองข้ามข้อจำกัดบนใบหน้าและในใบเกิดของผมไป

 

ส่วน “เติมธรรมในช่องว่าง” เล่มนี้ทางสำนักพิมพ์ อะบุ๊ค เขามาชวน

บอกว่าเขาอยากทำหนังสือธรรมะจริงๆ แบบที่วัยรุ่นอ่านได้

ไม่ใช่แค่พูดเรื่อง ทำใจให้สบาย...ไม่ต้องคิดอะไร

เป็นน้องหมานอนหงายท้องให้เจ้าของเกาพุงแบบนั้น

 

แต่เอากันถึงแก่นธรรม แต่อธิบายแบบให้มือใหม่พอเข้าใจได้

ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร ทำไมต้องรู้ ทำไมต้องเรียน

ทำไมต้องฝึก ฝึกแล้วได้อะไร

 

ถือเป็นความเสี่ยงครั้งสำคัญที่น่าสนใจของทั้งสองสำนักพิมพ์

ที่เอางานเขียนติงต๊องของผม ไปพิมพ์ให้วัยรุ่นอ่าน

ที่จริงคนเลยวัยรุ่นหรือเป็นพ่อแม่ก็ควรอ่านนะ จะได้รู้ว่า

วิธีคุยกับลูกหลาน เพื่อนฝูงน้องนุ่ง ในเรื่องธรรมะ จะอธิบายเขายังไง

 

บางท่านอาจจะนั่งขำอยู่ ว่าวันนี้ผมนึกไงตั้งหน้ามาขายของ

คือผมเกรงใจสำนักพิมพ์น่ะครับ กลัวเขาจะพิมพ์หนังสือผมแล้วเจ๊ง

แฮ่... ^^”

 

ไม่ได้มาขายของอย่างเดียวนะครับ มีเรื่องมาเล่าด้วย

คือที่สำนักพิพม์ อะบุ๊ค มีน้องพนักงานคนนึงชื่อน้องจอม

ผมเห็นหน้าตาหุ่นเหิ่นการแต่งกายของจอมทีไร

ชอบนึกว่าเขาเป็นนักร้องศิลปินค่ายสมอลล์รูม

แต่ถามจอมว่าทำงานอะไร จอมตอบยิ้มๆว่า “พิสูจน์อักษรครับ”

 

รู้จักใช่ไหมครับ ว่าตำแหน่งนี้เขาทำอะไร

เขาคือคนที่คอยอ่านต้นฉบับของนักเขียน...แบบผมนี่แหละ

เพื่อจะดูว่ามีคำไหนสะกดผิดบ้าง ยังไง แล้วแก้ซะ ก่อนพิมพ์

 

ฉะนั้น ถ้าหนังสือเล่มไหนสะกดผิด โทษคนพิสูจน์อักษรได้ครับ

(เสียงในใจบรรดาพิสูจน์อักษร --- >อ้าว... ห้ะ! เฮ้ย!)

 

ผมเคยนึกเล่นๆว่า ในโลกนี้มีงานสามงานที่น่าอิจฉา

หนึ่ง คือคนทำรายการชิมอาหาร ได้เที่ยวกินดี ฟรีด้วย อร่อยจัง ตังค์อยู่ครบ

สอง คือคนทำงานแล็บเช็กหนังก่อนฉาย ได้ดูหนังทุกเรื่อง ได้ตังค์ใช้อีก

สาม ก็คือนักพิสูจน์อักษรนี่แหละ ได้อ่านต้นฉบับหนังสือดีๆ ฟรี มีเงินเดือน

 

แต่ในความจริง ต้องไม่ลืมว่า ไม่ใช่อาหารทุกร้านที่อร่อย

ไม่ใช่หนังทุกเรื่องที่สนุก ไม่ใช่หนังสือทุกเล่มจะเขียนดี

ฉะนั้นโลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบครับ ไม่ต้องอิจฉาใครหรอก

แถมสองงานหลัง มักจะเป็นงานที่เงินน้อย แถมต้องใจรักพอสมควรนะ

 

วันก่อนผมไปที่สำนักพิมพ์อะบุ๊ค เจอจอม

เขาถือหนังสือ “เติมธรรมในช่องว่าง” เข้ามาขอลายเซ็น

ผมเขียนให้เขาว่า “พิสูจน์อักษรแล้ว อย่าลืมพิสูจน์ใจตัวเองด้วยนะ”

จอมชอบใจมากครับ และหวังว่าเขาจะทำตามที่ผมแนะนำจริงๆ

 

เรื่องการปฏิบัติธรรม ภาวนา เจริญสติ วิปัสสนา สารพัดชื่อจะเรียกกัน

สุดท้ายมันก็เรื่องเดียวกันนี่แหละครับ คือเรื่องการพิสูจน์ใจ

 

ถ้าพิสูจน์อักษร ก็ต้องค่อยๆอ่านหนังสือทีละตัวๆ ทีละตัว

ส่วนพิสูจน์ใจ ก็ต้องค่อยๆอ่านจิตอ่านใจไปทีละขณะๆ ทีละขณะ

 

เวลาพิสูจน์อักษร ถ้าเจอคำผิดต้องรีบแก้ แต่พิสูจน์ใจไม่ต้องนะ

แค่รู้ทันลงไปซื่อๆ ตามจริงนั่นแหละ ว่าจิตเป็นแบบนั้น

รู้บ่อยๆ เห็นความจริงของจิตบ่อยๆ แล้วจะค่อยๆเกิดปัญญา

ว่าจิตมันเป็นของมันแบบนั้นแหละ มันมีเหตุก็เกิด

หมดเหตุก็ดับ บังคับไม่ได้ ไม่ใช่ตัวตนอะไรของเราเลย

 

เราพิสูจน์อักษรเพื่อให้ได้หนังสือที่ดีที่สุด

แต่พิสูจน์ใจเพื่อจะได้เห็นจริงและยอมรับว่า

จิตก็ไม่ใช่ของดีของวิเศษที่จะต้องไปยึดมั่นถือมั่น

วันหนึ่งจะได้วางลง สลัดทิ้งไป ไม่ต้องถือให้เป็นภาระ

 

วันนั้นก็ไม่ต้องพิสูจน์อีกต่อไป งานจบแล้วครับ

 

สุขสันต์วันที่ยังเหลือเวลาให้อ่านจิตตัวเองนะครับ