Print

ธนาคารความสุข - ฉบับที่ ๑๕๖

eddy_coverเรื่องเจ็บๆคันๆ

โดย aston27
aston2

bank-156

(ภาพประกอบจากความใจดีของคุณแป๋ว SevenDaffodils ครับ)

ผมเพิ่งไปเที่ยวหัวหินมาครับ

ไปมาตั้งหลายครั้ง ไม่เคยมีอะไร
แต่รอบนี้ไปแล้วเจอแมลงตัวเล็กๆขนาดราวๆแมลงหวี่ กัดเอา

ไม่ได้กัดที่เดียวจุดเดียว แต่โดนเข้าไปสิบกว่าจุด
ทีแรกนึกว่าเป็นยุง แต่ไม่ใช่ครับ ลักษณะตุ่มก็ต่างกัน
ที่เห็นได้ชัดคือ จะเป็นตุ่มเล็กแต่นูนแดงและคันมาก

แล้วธรรมชาติของคนเรา เวลาคันต้องทำยังไงครับ?

ใช่แล้ว... ก็เกาสิครับ คุณแอสตัน มันก็เกา
อุตส่าห์เกาเบาๆแล้วด้วยนะ ตุ่มก็แตก เท่านั้นแหละคุณเอ๊ยยย

ความคันมันทวีคูณขึ้นอีกหลายสิบเท่า ทรมานอย่าบอกใคร

ปัญหาในชีวิตคนเรา มันก็เป็นคล้ายๆแบบนี้แหละครับ
ส่วนมาก มันมีจุดเริ่มต้นจากเรื่องเล็กๆ แล้วทิ้งรอยเล็กๆไว้

แต่เพราะไม่รู้ทันความ “คิด” ทำให้เราเกามันอยู่โดยไม่รู้ตัว
แต่ยิ่งเกา ยิ่งไปวุ่นวายกับมัน ก็ยิ่งหงุดหงิด ยิ่งร้อนใจ

ทั้งที่ถ้าเรามีสติ เราอดทนไว้นะ ไม่เกา
แล้วดูเวทนาความรู้สึกคันที่เกิดขึ้น

ถ้าจิตตั้งมั่น ความคันหรือเวทนา จะเป็นแค่ “สิ่งที่ถูกรู้”
ภาษาบาลีเขาเรียก “อารมณ์” คนละความหมายกับภาษาไทยนะ
ฉะนั้น เวลาไปฟังพระสอนภาวนา ท่านว่า...จิตรู้อารมณ์
ไม่ได้หมายถึงแค่รู้ความรู้สึกนะครับ รู้กาย เวทนา ก็ได้

ถ้าจิตขาดสติ จิตไม่ตั้งมั่น มันจะไหลเข้าไปเกลือกกลิ้งกับความคัน
รู้สึกเมามันไปในความคัน รู้สึกว่ากายนี้คือเรา ฉะนั้นจะมี “เราคัน” ขึ้น

ถ้าจิตมีสติ จิตตั้งมั่น ไม่หลงไม่ไหลไปเป็นหนึ่งเดียวกับความคัน
จะเห็นว่า ร่างกายอยู่ส่วนหนึ่ง ความคันเป็นเวทนาที่แทรกเข้ามาในกาย

ส่วนจิตเป็นแค่ผู้รู้ผู้ดูอยู่ต่างหาก เห็นเวทนาไม่เที่ยง ไม่ทน บังคับไม่ได้
เกิดเอง เพราะมีเหตุ ดับเอง เพราะเหตุหมด หรือมีเหตุใหม่
เช่นเอายาแก้คันมาทา ความคันอาจจะหมดไปได้ชั่วคราว

เรื่องปัญหาชีวิตก็ทำนองนี้แหละครับ
ถ้าจิตไม่มีสติ ไม่ตั้งมั่น มันจะไหลเข้าไปอยู่ในเรื่องนั้น
ยึดมั่นถือมั่น แล้วก็ทุกข์ เพราะจิตมั่นหมายว่า มันเป็นทุกข์ “ของเรา”

แต่ถ้ามีสติ จิตตั้งมั่นได้ ไม่ไหลไป ไม่หลงไป หรือหลงไปแล้วรู้ทัน
ความรู้สึกทุกข์นั้นก็จะเป็นแค่ “สิ่งที่ถูกรู้” อยู่ห่างๆ ไม่เข้าถึงจิต

มีทางเลือกไปทำอะไรได้ก็ทำ เช่นถ้าคันตุ่ม ก็หายามาทางี้
ถ้าคันใจ ไปยุ่งกับเรื่องในอดีต ไปแตะมันเข้า ก็รีบรู้สึกตัวไว้

ตุ่มคันทั้งหลายในกายก็ดี ในใจก็ดี มันก็มีอายุของมันนะ
อย่าใจร้อนรีบอยากให้มันหายไป มีสติไว้ครับ แล้วเวลาจะรักษาให้

ชาร์ลี แชปลิน เคยพูดว่า
“ชีวิตเป็นเรื่องทุกข์เมื่อมองระยะใกล้ แต่เป็นเรื่องตลกเมื่อมองจากระยะไกล”

หลักการเดียวกันครับ อะไรที่อยู่ใกล้ มักถูกยึดถูกหมายว่าเป็น “ของเรา”
แต่พอตั้งสติได้ จิตถอยมาเป็นผู้รู้ผู้ดู ไม่มีอะไรเป็นของเรา แม้แต่ทุกข์
ใจก็สบายแล้ว ทุกข์จะยังมีอยู่ ยังเจ็บบ้าง ยังคันอยู่ ก็ไม่หนักหนา

หลายคนมีปัญหาแล้วดราม่า เริ่มคร่ำครวญจะฟูมฟาย
แต่พอได้สติ ตื่นขึ้น มันเหมือนลุกห่างจากปัญหาออกมา
พอมองย้อนมาเห็นจิตดราม่า บางทีอายตัวเองจนขำเลย

สติ สำคัญในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ จริงๆนะ

สุขสันต์วันที่มีสติอยู่นะครับ